24 ต.ค. 2022 เวลา 17:22 • ความคิดเห็น
ความภูมิใจเป็นสิ่งที่ดีครับ เป็นผลตอบแทนจากสิ่งที่เราทำมา คนเราทุกคนควรภูมิใจในตัวเอง และภูมิใจในสิ่งที่เราได้ทุ่มเท ตั้งใจทำครับ
ส่วนเรื่องที่กลัวว่ามันจะมากเกินไปนั้น ให้เราลองนึกถึงวันที่เราทำผิดพลาดดูครับ ว่ามันจะเจ็บปวดขนาดไหน ปกติเวลามีเรื่องดีๆ ผมจะนึกถึงเรื่องแย่ๆที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ส่วนถ้าวันไหนแย่ ผมก็จะคิดถึงเรื่องดีๆ ให้เรามีความหวังครับ เป็นการปรับสมดุลจิตใจ เหมือนทางสายกลางในพระพุทธศาสนา มันทำให้เราได้เตรียมใจไว้ล่วงหน้ากับเรื่องที่ไม่คาดคิดครับ ถ้ามันเกิดขึ้นจริงเราจะได้ไมเจ็บช้ำมากครับ
ส่วนเรื่องที่คิดว่าตัวเองเก่งแล้ว หงุดหงิดกับคนที่ไม่เก่ง ให้เรา ลองนึกถึงวันที่เรายังทำไม่เป็น หรือเรื่องที่เราไม่เก่งครับ ไม่มีใครเก่งไปทุกเรื่อง และไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิดครับ เราก็ต้องการคนสอนในบางเรื่องเหมือนกัน เราต้องยอมรับก่อนว่าทุกคนไม่ได้เกิดมาเหมือนกัน บนโลกเรามีความหลากหลาย
ให้เราโฟกัสไปที่ทักษะการถ่ายทอดดีกว่า เหมือนเราเป็นครู ที่สอนนักเรียน ซึ่งนักเรียนแต่ละคนก็ไม่ได้เก่งเท่ากัน และต้องการการถ่ายทอดที่ไม่เหมือนกัน เพราะกระบวนการคิดแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนเรียนรู้ได้ดีจากการฟัง บางคนเรียนรู้จากการดู บางคนเรียนรู้ได้ดีจากการลงมือทำ ให้เราคิดว่าเราได้พัฒนาทักษะด้านการถ่ายทอดครับ ซึ่งมันก็เป็นทักษะติดตัวที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเราในอนาคต ซึ่งบางคนคิดว่าตัวเองเก่ง แต่สอนคนอื่นไม่เป็นนะเออ คุณอยากเป็นคนแบบนั้นหรอ ให้ลองเอาใจเขามาใส่ใจเราดูครับ
ส่วนเรื่องที่กลัวคนอื่นเก่งกว่านั้น มันเป็นเรื่องของอีโก้ครับ ที่คิดว่าฉันต้องดีต้องเก่งกว่าคนอื่น ซึ่งมันเป็นแรงจูงใจในการพัฒนาตัวเองที่ดี แต่วันไหนที่เจอคนที่เก่งกว่าเราจะเจ็บนะครับ ต้องปรับแนวคิดว่าเราต้องพัฒนาตัวเองเพื่อแข่งกับตัวเองครับ และต้องยอมรับว่าคนอื่นอาจจะเก่งกว่าเราได้ถ้าเขาตั้งใจทำ
ผมแนะนำให้คุณพัฒนาตัวเองเพื่อแข่งกับตัวเองไปเรื่อยๆครับ ให้เรียนรู้ไปเรื่อยๆ ซึ่งถ้าวันไหนคุณคิดว่าคุณรู้หมดแล้ว ให้คุณขยายขอบเขต เปลี่ยนวิธีการเรียนรู้ไปเรื่อยๆครับ ให้เรียนรู้เรื่องใหม่ๆที่อาจจะดูไม่เกี่ยวกับเรื่องเดิม มันจะเป็นการสะสมจุดความรู้ซึ่งในอนาคตมันจะเอาจุดมาต่อเชื่อมโยงเข้าหากัน เป็นองค์ความรู้ใหม่ของตัวคุณได้ ทำให้ขอบเขตความรู้คุณกว้างขึ้นเรื่อยๆครับ
ผมเชื่อว่า ที่คุณคิดได้แบบที่ตั้งคำถามมานี้ คุณก็เป็นคนที่เก่งระดับนึง และขยันพัฒนาตัวเองมากๆ และถ่อมตัวพอที่จะรู้เท่าทันอีโก้ของตัวเอง ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ทุกอย่างประสบการณ์มันจะสอนเราไปเรื่อยๆครับ ถ้าเราอีโก้มากๆ เดี๋ยวโลกมันจะส่งสถานการณ์มาตบเราให้กองลงกับพื้นเองครับ ดังนั้นจงเผื่อใจไว้ให้วันที่แย่ๆที่จะมาถึงบ้างนะครับ
เพราะชีวิตเรามันก็มีเรื่องดี เรื่องแย่ แวะเวียนเข้ามา เป็นเรื่องธรรมดาวนเวียนกันไป
ให้คุณเรียนรู้ที่จะทำใจให้สบายดีกว่าครับ อย่าไปคิดว่าจะไปเก่งหรือไปแข่งกับใครเลย ให้แข่งกับตัวเรา ดีใจและภูมิใจที่เราพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น
และเรียนรู้ที่จะมีความสุขกับการเป็นผู้ให้ครับ เราจะมีเพื่อนมากขึ้น วันที่เราล้มจะได้ไม่เจ็บแบบโดดเดี่ยวครับ เราไม่ได้เกิดมาใช้ชีวิตคนเดียวบนโลก มันจะดีกว่าถ้าเราเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตร่วมกันผู้อื่นอย่างมีความสุขครับ อย่าไปคาดหวังให้ทุกคนเป็นเหมือนเรา เพราะเราก็ไม่ได้เกิดมาเป็นเหมือนใครครับ
เราเก่งเรื่องงาน แต่เราอาจจะไม่เก่งเรื่องอื่นนอกที่ทำงานครับ ส่วนคนที่ไม่เก่งงานอาจจะเป็นเพื่อนช่วยปลอบใจให้คุณได้ ในวันที่คุณอกหักครับ มีเพื่อนไว้ดีกว่าที่จะไปคิดแข่งขันกับคนอื่นเพื่อเอาชนะครับ
ชีวิตจริงไม่เหมือนในห้องเรียนที่ฉันจะต้องเก่งที่สุด ผมเคยเจอคนเรียนเก่งมากๆ แต่เอาตัวไม่รอดในสังคมก็มีครับ แก้ปัญหาชีวิตไม่ได้ เพราะทั้งชีวิตมีแต่เรื่องเรียน เรื่องแข่งขัน แต่เรื่องนอกห้องเรียนนี่ใช้ชีวิตในสังคมสู้คนที่เรียนปานกลางไม่ได้เลยครับ
ฝากไว้เท่านี้ครับ คงแนะนำได้เท่านี้ครับ เท่าที่ประสบการณ์ของคน อายุ 35 ปี ได้เรียนรู้มาครับ
ขอให้มีความสุขกับการใช้ชีวิตนะครับ
#ชีวิตคือการเรียนรู้ เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตครับ
โฆษณา