14 พ.ย. 2022 เวลา 00:30 • การเกษตร
ปลูกชะอม รายได้ดี ตลอดทั้งปี
ชะอม เป็นไม้ยืนต้นตระกูลถั่ว ที่มีอายุยืนนาน เป็นไม้เถาเลื้อย มีฝักเหมือนกระถิน เมล็ดนำมาปลูกได้ กิ่งอ่อน ยอดอ่อน ใบอ่อน มีกลิ่นหอมฉุนเฉพาะตัว และมีวิตามินเอสูง
ยอดชะอมจัดเป็นอาหารประเภทผักที่มีคุณค่าอาหารสูงยิ่ง ทั้งวิตามินเอ โปรตีน และเยื่อใยที่ร่างกายต้องการ ตามลำต้นและกิ่งก้านมีหนามแหลมหรือไม่มีหนาม ใบเป็นใบประกอบขนาดเล็ก มีก้านใบแยกเป็นใบอยู่ 2 ทาง ลักษณะคล้ายใบกระถิน หรือใบส้มป่อย ต้นชะอมหากถูกเด็ดยอดจะแตกกิ่งข้างต้นหนาแน่น
ชะอมเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ในทุกสภาพดิน ไม่ว่าดินเหนียว ดินร่วน ดินทราย ยกเว้นดินเค็มและกรดจัด ปลูกง่าย ทนแล้ง ใช้น้ำน้อย
“ชะอม” หลายคนจะต้องนึกถึงเมนูอาหารที่แสนอร่อยจากผักพื้นบ้านชนิดนี้ที่มีกลิ่นและรสชาติเฉพาะตัว อาทิ ชะอมชุบไข่ทอดกับน้ำพริกกะปิ แกงแคไก่อาหารของคนเหนือ แกงลาวของคนอีสาน ฯลฯ ชะอมจึงจัดเป็นผักพื้นบ้านที่มีคนไทยบริโภคเป็นประจำ และมีความต้องการในแต่ละวันไม่น้อยไปกว่าผักพื้นบ้านชนิดอื่น
เกษตรกรไทยมักจะมองว่า การปลูกพืชผักสวนครัวจะเป็นเพียงอาชีพเสริม ไม่สามารถสร้างรายได้หลักให้กับครอบครัวได้
การปลูกชะอมไร้หนามที่หลายคนมองเป็นเพียงอาชีพรองนั้น กลับสร้างรายได้หลักให้กับเกษตรกรและครอบครัวมายาวนานและที่คลินิกพืชคูลเกษตร
ชะอมไร้หนาม เพื่อเป็นจุดเรียนรู้และถ่ายทอดความรู้เรื่องการปลูกชะอมไร้หนาม สำหรับผู้ที่สนใจหรือเกษตรกร ปลูกชะอมไร้หนาม เริ่มต้นในพื้นที่ 3 ไร่ สร้างรายได้ดี
หลังจากเก็บยอดชะอมขาย ผลปรากฏว่าปริมาณของความต้องการในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีรายได้ค่อนข้างแน่นอน มีเงินใช้จ่ายในครัวเรือนเกือบทุกวัน ยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับการทำนา ค่อนข้างเหนื่อยกว่ามาก และยังมีค่าใช้จ่ายต่อไร่สูง แล้วการปลูกข้าวยังประสบปัญหาในความไม่แน่นอนของสภาพดินฟ้าอากาศและราคา เมื่อเปรียบเทียบรายได้จากการเก็บยอดชะอมไร้หนามขาย
โรคและแมลงศัตรู
ชะอมมีน้อยมาก และใช้เพียงแรงงานในครอบครัว ในแต่ละครอบครัวที่ปลูกชะอมไร้หนาม ในพื้นที่ 1-2 ไร่ หรือมากกว่านั้น จะมียอดให้เก็บหมุนเวียนได้ทุกวัน
ชนิดของชะอมที่คลินิกพืชคูลเกษตร
ปลูกในบ้านเรา ชะอมที่คลินิกพืชคูลเกษตรปลูกกันในขณะนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ ตามลักษณะ คือ ชะอมมีหนาม กับ ชะอมไม่มีหนาม (ชะอมไร้หนาม) ต้นชะอมจะมีหนามทั่วทั้งต้นและกิ่งก้านสาขา รวมถึงส่วนของยอดอ่อนด้วย ในขณะที่ต้นชะอมไร้หนามเกือบจะไม่มีหนามเลย หรือจะพบหนามบ้างเหมือนกันแต่น้อยมาก จะพบเพียงหนามอ่อนห่างๆ เท่านั้น
ข้อแตกต่างของชะอมทั้ง 2 ชนิด ยอดชะอมที่มีหนามจะมีกลิ่นแรงกว่ายอดชะอมไร้หนาม แต่สำหรับรสชาติเมื่อนำไปประกอบอาหารจะใกล้เคียงกันจนแยกไม่ออก แต่กลับรู้สึกว่าชะอมไร้หนามรับประทานง่ายกว่า เพราะไม่มีหนามให้กวนใจเวลารับประทาน
สำหรับเกษตรกรที่คิดจะปลูกชะอมนั้น ชะอมไร้หนามจะสะดวกในเรื่องของการเก็บเกี่ยวยอดเป็นอย่างมาก เนื่องจากการที่ต้นหรือกิ่งไม่มีหนาม ทำให้เก็บได้ค่อนข้างรวดเร็ว และไม่ถูกหนามทิ่มแทงมือหรือร่างกาย
นิสัยของการแตกยอดพบว่า พันธุ์ที่มีหนามจะให้ยอดน้อยและแตกยอดช้ากว่าชะอมไร้หนาม คลินิกพืชคูลเกษตรได้ย้ำว่าลักษณะของการแตกยอดจะเห็นได้ชัดมากในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่ยอดชะอมมีราคาแพงที่สุด ราคาจะสูงถึงกำละ 10-15 บาท ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ชะอมในท้องตลาดมีน้อย จะเห็นได้ชัดเลยว่าต้นชะอมไร้หนามให้ยอดที่ดีกว่าอย่างชัดเจน
การขยายพันธุ์ชะอมไร้หนาม คลินิกพืชคูลเกษตร
ได้บอกถึงวิธีการขยายพันธุ์ชะอมไร้หนาม จะแบ่งเป็น 2 วิธี คือ การตอนกิ่ง ซึ่งเป็นที่นิยมมากกว่า เพราะรวดเร็วและออกรากได้ดี โดยคัดเลือกกิ่งที่จะตอนไม่ให้แก่และอ่อนจนเกินไป
1
ขั้นตอนเหมือนกับการตอนไม้ผลทั่วไป คือเลือกกิ่งกึ่งแก่กึ่งอ่อนที่สมบูรณ์ปราศจากโรคและแมลง ควั่นกิ่งด้านบนและด้านล่าง ให้ห่างกันสัก 3-4 ซม. ใช้ปลายมีดลอกเอาเปลือกชะอมออก แล้วขูดเยื่อเจริญที่เป็นเมือกลื่นๆ ออก จะทาด้วยน้ำยาเร่งรากหรือไม่ก็แล้วแต่ เพราะชะอมเป็นพืชที่ออกรากได้ง่าย แต่ถ้าทาด้วยน้ำยาเร่งรากก็จะยิ่งดีขึ้นอีก หุ้มด้วยขุยมะพร้าวที่แช่น้ำมาล่วงหน้าสัก 1 คืน แล้วบีบน้ำออกให้หมาดน้ำ อัดลงในถุงพลาสติก
เมื่อทำแผลตอนเสร็จ ผ่าครึ่งถุงพลาสติกที่อัดขุยมะพร้าวและนำไปหุ้มบริเวณที่ลอกเปลือก มัดด้วยเชือกหรือตอกไม้ไผ่ ทั้งบนและล่างรอยแผลตุ้มตอนให้แน่น หลังจากนั้นประมาณ 40-50 วัน เมื่อกิ่งตอนมีรากเต็มตุ้มตอนและเริ่มแก่เป็นสีเหลืองอมสีน้ำตาล ปลายรากมีสีขาวและมีจำนวนรากมากพอ จึงตัดกิ่งตอนได้ ก็
สามารถตัดไปปลูกในแปลงได้เลย ไม่ต้องชำลงถุงให้เสียเวลา เมื่อนำกิ่งตอนปลูกลงดิน ต้นชะอมจะตั้งตัวได้เร็ว การจำหน่ายกิ่งตอนจึงจำหน่ายสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง ที่สร้างเงินสำหรับการทำไร่ชะอมไร้หนาม หรือจะชำลงถุงดำ เลี้ยงให้แข็งแรงก่อนนำไปปลูกหรือรอการจำหน่าย
ส่วนการขยายพันธุ์อีกวิธีหนึ่งคือ การปักชำ คลินิกพืชคูลเกษตร
จะเลือกกิ่งชะอมไร้หนามมาปักชำนั้นจะต้องเลือกกิ่งที่ไม่อ่อนหรือแก่เกินไป โดยดูลักษณะจากสีกิ่งจะมีสีขาวจนถึงขาวอมเขียว หรือกิ่งที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 1 ปี นับแต่วันที่แตกยอดออกมา แต่ต้องไม่เป็นกิ่งที่แก่จัดจนเกินไป เพราะรากและยอดจะแตกน้อย ตัดเป็นท่อนให้มีความยาวประมาณ 20-30 ซม. ชำลงในถุงดำที่มีขี้เถ้า
แกลบดำเป็นวัสดุปลูกหลัก เทคนิคในการปักท่อนพันธุ์ ควรจะให้กิ่งเอียงประมาณ 45 องศา ปักให้ลึกลงไปในขี้เถ้าแกลบ 10 ซม. นำกิ่งที่ปักชำมาวางไว้บริเวณที่มีแสงรำไรหรือมีสแลนพรางแสง 60% รดน้ำให้ชุ่มอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
หลังจากปักชำไปได้ประมาณ 45-60 วัน กิ่งชำจะมีรากและใบอ่อนแตกออกมา แต่
ป้าดอกไม้ไม่นิยมขยายพันธุ์ชะอมไร้หนามด้วยวิธีการปักชำ เนื่องจากพบว่าต้นชะอมไร้หนามที่ขยายพันธุ์ด้วยการปัชำ เมื่อนำมาปลูกลงแปลงจะเจริญเติบโตช้ากว่าปลูกด้วยกิ่งตอน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะปริมาณรากจะน้อยกว่ากิ่งชะอมที่ได้จากกิ่งตอน
อย่างไรก็ดี ที่คลินิกพืชคูลเกษตร
ข้อแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการนำกิ่งชะอมไร้หนามที่ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำเพื่อปลูกลงแปลง ควรจะปลูกในช่วงฤดูฝน จะพบอัตราการรอดตายสูง
การปลูกและการบำรุงรักษา สำหรับเกษตรกรที่เริ่มต้นปลูกชะอมไร้หนามในแปลงใหม่ คลินิกพืชคูลเกษตร
ได้แนะนำให้เริ่มต้นด้วยการเตรียมพื้นที่ปลูก โดยการไถพรวน ปรับพื้นที่ให้สม่ำเสมอ ถ้าเป็นที่ลุ่มต่ำให้ยกแปลงเพื่อป้องกันน้ำขังแฉะ นิสัยชะอมชอบน้ำแต่
กลัวน้ำขังแฉะ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดโรครากเน่าโคนเน่า
หลังจากนั้น ขุดหลุมปลูกให้มีความกว้าง ยาว และลึก ประมาณ 20 ซม. ผสมดินที่ขุดมาจากหลุมด้วยปุ๋ยคอกเก่า อัตรา 2 กำมือ และคลุกเคล้าปุ๋ยเคมี สูตรเสมอ เช่น 16-16-16, 19-19-19 ฯลฯ ลงไป อัตรา 1 ช้อนแกง ระยะปลูกที่เหมาะสมคือ 1×1 เมตร พื้นที่ 1 ไร่ จะสามารถปลูกต้นชะอมไร้หนามได้ประมาณ 1,600 ต้น
ซึ่งคลินิกพืชคูลเกษตร
อธิบายว่าเป็นระยะปลูกที่กำลังดี ทำให้สะดวกในการเดินเก็บยอด การปลูกหลังจากที่ขุดหลุมปลูกลึกประมาณ 10 ซม. หรือขุดดินราว 1 หน้าจอบ คลุกเคล้าผสมปุ๋ยเสร็จเรียบร้อยที่ปากหลุม นำกิ่งตอนชะอมไร้หนามที่เตรียมไว้แกะถุงพลาสติกที่หุ้มรากออก วางกิ่งชะอมให้อยู่ส่วนกลางของหลุม กลบดินและอัดให้แน่น รดน้ำให้ชุ่มอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องเป็นเวลาประมาณ 1-2 เดือนแรกที่ปลูก ต้นชะอมไร้หนามจะตั้งตัวได้และพบการแตกยอดอ่อนเป็นพุ่มและสามารถเก็บเกี่ยวยอดส่งขายได้เลย
คลินิกพืชคูลเกษตร
อธิบายอีกว่า ชะอมเป็นพืชที่หลังจากปลูกไม่นานก็จะแตกยอดให้เก็บได้ทันทีในช่วงเวลา 1 เดือนเศษเท่านั้น แต่จะเริ่มให้ผลผลิตแบบเต็มที่ในราวๆ 5-6 เดือนขึ้นไปหลังการปลูก เพราะต้นชะอมจะเริ่มเป็นทรงพุ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อต้นชะอมตั้งตัวได้แล้วการตัดยอด ตัดได้ทุกๆ 3-5 วัน สำหรับต้นชะอมเล็ก แต่ถ้าเป็นต้นชะอมใหญ่ที่มีอายุต้นเกิน 1 ปี จะเก็บยอดได้ทุกๆ 2-3 วัน
ในกรณีที่เก็บยอดครั้งแรกไปแล้วหรือกรณีที่เกษตรกรตัดยอดไม่ทันหรือยอดเดิมเมื่อแก่เกินไป ยอดอ่อนใหม่จะโตมาแทนที่
ส่วนระบบการให้น้ำจะจำเป็นมาก จะต้องมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ถ้าเป็นต้นที่ปลูกใหม่จะให้น้ำอาทิตย์ 2-3 ครั้ง (การให้น้ำสังเกตจากหน้าดินและสภาพอากาศประกอบ เช่น ในหน้าร้อนก็ต้องให้น้ำบ่อยขึ้น เป็นต้น) แต่ถ้าเป็นต้นชะอมอายุเกิน 1 ปีไปแล้วก็จะให้น้ำน้อยลง จะเหลือเพียง 10-15 วันครั้งเท่านั้น เพราะใบจะปกคลุมดิน ทำให้ดินรักษาความชื้นได้นาน
อีกอย่างหากช่วงไหนที่จะต้องการช่วยให้ชะอมแตกยอดได้ดี หรือถ้าเห็นว่าชะอมมีราคาสูง การเปิดน้ำช่วยร่วมกับการใส่ปุ๋ยเคมี ยูเรีย 46-0-0 จะช่วยกระตุ้นการแตกยอดได้ดีมาก ที่แปลงปลูกชะอมไร้หนาม จะใช้ระบบน้ำแบบสปริงเกลอร์ที่ยก
สูงมาจากพื้นดิน ประมาณ 1.50 เมตร โดยให้มีความสูงกว่าต้นชะอม ประโยชน์ทางหนึ่งนอกจากสะดวกเรื่องการให้น้ำคือ มองเห็นระบบน้ำว่าทำงานได้ดี ไม่รั่วหรืออุดตัน ถ้าอยู่ข้างล่างใต้ต้นชะอมอาจจะมองไม่เห็น
.
เข้ากลุ่มคนรักพืช เพื่อติดตามความรู้ใหม่ๆ สอบถามปัญหาพืช ได้ทุกวันที่
.
#คลินิกพืชคูลเกษตร #KoolKaset #คูลเกษตร #ที่ปรึกษาพืชออนไลน์ในมือถือคุณ
😀สอบถามได้ครับ จัดการได้ทันที
☎️095-237-1723
📨ทักข้อความที่ m.me/KoolKaset.th หรือ
📨เฟสบุ้คแฟนเพจ https://www.facebook.com/KoolKaset.th
📨ไลน์แอด @koolkaset หรือ https://lin.ee/zuxViUX
📨ร้านลาซาด้า https://www.lazada.co.th/shop/koolkaset/
📨ร้านช้อปปี้ https://shopee.co.th/kool.kaset
📨ซื้อออนไลน์ ห่างไกลโควิด ส่งไว #ส่งฟรี ยินดีให้บริการ #พร้อมบริการเก็บเงินปลายทาง
#KoolKaset #พืช #เกษตร #แมลง #หนอน #เพลี้ย #ปุ๋ย #กำจัดหญ้า #กำจัดแมลง #ศัตรูพืช #วัชพืช #โรคพืช #ต้นไม้ #เพลี้ยไฟ #เพลี้ยจั๊กจั่น #เพลี้ยอ่อน #แมลงหวี่ขาว #หญ้า #ไร #ผลไม้ #ไม้ดอก
โฆษณา