25 ต.ค. 2022 เวลา 07:00 • ความงาม
📍 แนะนำเทคนิคเลือกใช้มอยเจอไรเซอร์ สกินแคร์ดูแลผิวกาย
แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร เลือกใช้อย่างไร?
+ ทดสอบประสิทธิภาพการเพิ่มความชุ่มชื้นหลังทา ครับ https://youtu.be/dHtK-Hzzh74
🔬การดูแลผิว จึงมีความสำคัญมากครับในช่วงนี้ ซึ่งวิธีการง่ายๆ ก็คือการทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือทาครีมให้ความชุ่มชื้นกับผิว
❓และจะมีคำถามที่พบบ่อยคือจะเลือกซื้อยังไงดี
? ทำไมครีมนี้เพื่อนหนูใช้ดี หนูใช้แล้วไม่เห็นดีเลยยังแห้งเหมือนเดิมแถมสิวยังขึ้นอีกต่างหาก
? ครีมตัวนี้โฆษณาว่าให้ความชุ่มชื้นแต่ทำไมทาแล้วหนูไม่เห็นผิวชุ่มชื้นขึ้นเลยคะ
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ มอยเจอร์ไรเซอร์ moiturizer คือ ผลิตภัณฑ์สำหรับทาให้ความชุ่มชื้นกับผิว กันก่อนนะครับ
🔬Moiturizer คือ ผลิตภัณฑ์สำหรับทาให้ความชุ่มชื้นกับผิว จะประกอบด้วยสารหลายชนิดครับ ซึ่งแต่ละคนก็สภาพผิวไม่เหมือนกัน ก้จะเหมาะกับ moisturizer แตกต่างกันไปครับ
•หน้าที่ของ moisturizer หลักๆ คือ ปกป้องและคงความแข็งแรงของชั้นผิวหนัง, ทำให้เกราะป้องกันของผิวหนังแข็งแรงขึ้น, ช่วยให้ผิวอ่อนนุ่ม ดูเรียบขึ้น ดูมีสุขภาพผิวที่ดี, ลดอาการแห้ง คัน หยาบกร้าน ขุย
นอกจากนี้ moisturizer บางชนิดจะมีการใส่สารที่มีฤทธิ์ต่างๆ เช่นช่วยให้เพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบของผิว ช่วยให้ผิวขาว ลดการเกิดสิว สารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ลดการเกิดริ้วรอย ซึ่งอาจจะมีราคาสูงขึ้นต้องพิจารณาลองใช้เป็นรายรายไปนะครับ
❓ทำไมมอยเจอไรเซอร์แต่ละชนิดถึงแตกต่างกัน แต่ละคนทาแล้วได้ผลไม่เหมือนกัน
ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยครับ ตัวอย่างเช่น
- สภาพผิว อายุ โรคผิวหนังที่ เป็นอยู่เดิม
- รูปแบบของมอยเจอร์ไรเซอร์ มีทั้งที่เป็น โลชั่น, ครีม, ขึ้ผึ้ง กลุ่มที่เป็นขี้ผึ้งจะเหนียว แต่ก็สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นกับผิวได้ดีกว่า โลชั่นก็จะสบายผิวหน่อยแต่ก็จะให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้น้อยกว่า
- สภาพอากาศก็มีผลนะครับเหมือนอากาศหนาวแล้วทำให้ผิวแห้งดังนั้นเราก็ต้องเลือกมอยเจอไรเซอร์ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศด้วยนะครับ
👉ส่วนประกอบหลักของมอยเจอร์ไรเซอร์
- 1. Occlusives หรือ สารที่ลดการระเหยของน้ำออกจากผิว โดยปิดไว้ที่ผิวชั้นนอกที่ใช่บ่อยก็พวก oil, petrolatum ครับ ผิวชั้นบนสุดจึงได้ความชุ่มชื้นจากชั้นหนังกำพร้าและชั้นหนังแท้ ซึ่งตัวที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด คือ petrolatum สามารถลดการระเหยของน้ำออกจากผิวได้ถึง 99%
(สารอื่นๆ เช่น squalene), silicone silicone (cyclomethicone, dimethicone), vegetable oils (caster oil, corn oil, grape seed oil, soybean oil), animal oils (mink oil, emu oil), fatty acids (lanolin acid, stearic acid), fatty alcohol (lanolin alcohol, cetyl alcohol), wax esters (beeswax, sterayl stearate),
vegetable waxes (carnauba wax, candelilla wax), )phospholipids (lecithin), sterols (cholesterol, ceramides), polyhydric alcohols (propylene glycol dioleate) เผื่อไปตรวจสอบที่ส่วนประกอบข้างขวดผลิตภัณฑ์ได้ครับ
2. Humectants หรือสารที่ดูดความชุ่มชื้น จากชั้นหนังแท้มาสู่ชั้นหนังกำพร้า (ความชื้นในบรรยากาศสูงกว่า 70% สาร humectants จึงจะสามารถดึงดูดน้ำเข้ามาสู่ผิวหนังได้) ที่ใช้บ่อย ๆ ได้แก่ urea, glycerin, AHA, propylene glycerol, sodium PCA ครับ
(สารอื่นๆเช่น, sorbitol, ammonium lactate, butylene glycol, honey extract, sodium lactate, pyrrolidone carboxylic acid, gelatin, hyaluronic acid, วิตามินและโปรตีนบางชนิด ผลข้างเคียงคือเกิดการระคายเคืองได้)
3. Emollients คือสารที่ช่วยทำให้ผิวดูเรียบ ลื่น อ่อนนุ่มขึ้น โดยเคลือบร่องผิวหนังชั้นบนสุด (stratum corneum) แต่ประสิทธิภาพไม่ดีเท่าสารกลุ่มอื่น สารที่ใช้บ่อยได้แก่ cyclomethicone, dimethicone copolyol, glyceryl sterates,
(สารอื่นๆ เช่น isopropyl palmitate, lanolin, propylene glycol linoleate, cholesterol, squalene, fatty acid)
นอกจากนี้ moisturizer บางชนิดจะมีการใส่สารที่มีฤทธิ์ต่างๆ เพิ่มเติม ดังข้าต้น
ในท้องตลาดมีทั้งที่เป็น โลชั่น, ครีม, ขึ้ผึ้ง ointment โดยส่วนใหญ่ มักจะประกอบด้วยทั้ง 3 ส่วนประกอบ occlusive, humectant และ emollient เพื่อให้ทำงานเสริมกันครับ
❓เลือกใช้อย่างไรดีคะ
โดยส่วนมากในท้องตลาดมักจะมีส่วนประกอบของมอยเจอไรเซอร์หลายหลายชนิดเพื่อเสริมประสิทธิภาพกันดังนั้นอาจจะต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวเช่นถ้าผิวมีความมันมากอยู่แล้วอาจจะต้องเลือกที่มี occlusive น้อย (ไม่ค่อยมีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ) หรือเป็นออยให้น้อยลงเนื่องจากอาจจะทำให้เกิดการอักเสบหรือเป็นสิวหรือผื่นแพ้ขึ้นมาได้
👉ถ้าผิวแห้งมากอาจจะเลือกที่มีส่วนประกอบของ Occlusive มากขึ้น มันก็จะรู้สึกเหนียวๆหน่อยนะครับ และหมอมีเทคนิคการทาเล็กๆน้อยๆมาฝากนะครับว่า #ทาหลังทาหลังอาบน้ำภายใน3นาที บนผิวหมาดๆ ให้รีบทาครีมหรือโลชั่นเลยก็จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีมากยิ่งขึ้นนะครับ
👉ถ้าใช้แล้วยังมีอาการผิวแห้งเอาไม่อยู่จริงๆอาจจะต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบพิเศษเช่น ช่วยลดการอักเสบ มีส่วนประกอบของสารไขมัน …….. อีกมากมาย ในตลาดปัจจุบันก็มีอยู่หลายยี่ห้อราคาครับราคาก็จะสูงขึ้นก็ต้องลองพิจารณาดูนะครับ
❓ใช้ครีมบำรุงผิวแบรนด์ดังแล้ว แล้วยังแพ้ได้คะ
ต้องบอกก่อนเลยครับว่าสภาพผิวแต่ละท่านไม่เหมือนกันและ moisturizer ที่เป็นโลชั่นหรือครีมนั้นอาจใส่สารกันบูด ตัวทำละลาย หรือ มีน้ำหอม ซึ่งอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือแพ้ได้ครับ
ปัจจุบันยังไม่มีครีมที่ดีที่สุดที่เหมาะ ที่สำหรับทุกคน ทุกสภาพผิวครับ ต้องพิจารณาเป็นรายๆ ไปครับ
👨🏻‍💻ตัวอย่างงานวิจัยโดย หมอรุจ ผศ. นพ. ศุภะรุจ และ รศ. นพ. เทอดพงศ์ เกี่ยวกับการดูแลภาวะผิวแห้งด้วยการใช้มอยเจอไรเซอร์ครับ https://onlinelibrary.wiley.com/doi/10.1111/jocd.131
👨🏻‍💻 Reference
Lueangarun S, Soktepy B, Tempark T. Efficacy of anti-inflammatory moisturizer vs hydrophilic cream in elderly patients with moderate to severe xerosis: A split site, triple-blinded, randomized, controlled trial. J Cosmet Dermatol. 2020 Jun;19(6):1432-1438.
#มอยเจอไรเซอร์รักษาผิวแห้ง #โลชั่นผิวแห้ง #Eucerinthailand #eucerininstantcalming #EucerinCompleteRepair #lipikarbaume #ครีมบำรุงผิว #รักษาผิวแห้ง #รักษาเซ็บเดิร์ม #ผิวหนังอักเสบ #ผิวหนังอักเสบ #drsuparuj #demedclinic
#หมอรุจชวนคุย 😉👨‍⚕️🔬
โฆษณา