“Tuesdays with Morrie”
คำว่า ”ความหมายของชีวิต” ซึ่งคนในยุคปัจจุบันอาจจะลืมไปแล้วหรืออาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่าชีวิตของเรานั้นแสนเรียบง่ายเพียงใด โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์หรือองค์ประกอบมากมายใดๆทั้งสิ้น นอกจาก “ความคิด” ภายใจจิตใจของเรา
หลายคนอาจจะคิดว่าการมีเงินเป็นล้านล้าน จะทำให้ชีวิตมีทางเลือกได้มากกว่าชีวิตที่ต้องทนทุกข์ทรมานไปกับความยากจนและความร่ำรวยจะทำให้เกิดความสุขที่แท้จริงขึ้นมาได้(ซึ่งตรงนี้ผมก็ไม่อาจจะเถียงได้ว่ามันทำให้เรามีทางเลือกเยอะกว่าจริงๆ ข้อนี้ผมยอมรับ) แต่…
มันทำให้เรามีความสุขมากขึ้นจริงๆหรือไม่?
มันทำให้เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนเพิ่มขึ้นหรือเปล่า?
มันทำให้เราได้ยื่นมือช่วยเหลือใครได้บ้างหรือยัง?
มันทำให้เรารู้สึกถึงความสำเร็จที่แท้จริงได้จริงๆใช่ไหม?
หนังสือเล่มนี้เป็นบทเรียนจากการพูดคุยและสอนสั่งระหว่างครูกับลูกศิษย์ 2 คนคือ คุณครูมอร์รี่ และ มิตช์ อัลบอม
โดยขณะนั้นครูมอร์รี่กำลังป่วยเป็นโรคร้ายแรงที่สุดในบรรดาโรคทางระบบประสาททั้งหมด ณ ตอนนั้น ซึ่งมันกำลังกลืนกินความสมบูรณ์แบบทาง ”ร่างกาย” ของเขามากขึ้นเรื่อยๆ แต่ ”ความคิด” ในสมองของเขายังคงมีความคิดโลดแล่นอยู่อย่างมากมาย คำว่า” กำลังจะตาย” ไม่ได้มีความหมายอย่างเช่นเดียวกับคำว่า “ไร้ค่า” เลย เขาไม่ยอมปล่อยให้ชีวิตเหี่ยวเฉาและไม่ละอายที่ตัวเองใกล้จะหมดลมหายใจ
มิตช์ ผู้เป็นลูกศิษย์ก็แวะมาเยี่ยมครูของตนเองในทุกวันอังคาร ซึ่งพวกเขา 2 คนได้พูดคุยกันอย่างเข้มข้นผสมกับความเรียบง่ายที่ถ่ายทอดจากประสบการณ์ของครูมอร์รี่ที่ได้เผชิญโลกกว้างอันแสนวุ่นวายและได้มองเห็นคุณค่าของชีวิตที่หลายๆคนมองข้ามไปเช่น การยอมรับ การรักตัวเอง การมอบความรักให้แก่คนในครอบครัวและคนที่เรารัก การทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคม การเป็นผู้ให้ การให้อภัย และอีกหลายอย่างที่เรียกว่า“ความหมายของชีวิต”ให้แก่ มิตช์ ผู้ที่เป็นลูกศิษย์และผู้เขียนหนังสือเล่มนี้
จนกลายมาเป็นหนังสือที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหมายและคุณค่ามากมาย โดยบทเรียนอันทรงคุณค่าและทรงความหมายจากคน 2 คน นี้ จะทำให้เรามีมุมมองการใช้ชีวิตที่ดีขึ้นรวมไปถึงการมองโลกที่แสนวุ่นวายได้อย่างทะลุปรุโปร่งมากขึ้น มองเห็นคุณค่าของตัวเองและผู้อื่นได้อย่างแท้จริง และช่วยให้เรามีทัศนคติในการดำเนินชีวิตได้อย่างมีความหมาย
ตราบใดที่เรามีความรักให้แก่กันและสามารถจดจำความรู้สึกดีๆในยามที่เรารักกันได้ เราจะตายจากไปโดยประหนึ่งว่าเรายังมีชีวิตอยู่ ความรักที่เธอสร้างขึ้นรวมทั้งความทรงจำที่ดีเหล่านั้นจะคงอยู่ตลอดไป และเธอก็ยังอยู่ในหัวใจของคนทั้งหลายที่เธอรักและทะนุถนอมเมื่อครั้งที่เธอมีชีวิตอยู่…
ความตายพรากได้เพียงแค่ชีวิต แต่ไม่อาจพรากความสัมพันธ์ไปได้
Morrie Schwartz
หวังว่าบทความนี้จะมอบประโยชน์ให้กับทุกท่านไม่มากก็น้อยนะครับ ผมแนะนำให้คุณได้อ่านหนังสือเล่มนี้สักครั้งในชีวิต แล้วคุณจะรักตัวเองและเพื่อนร่วมโลกมากขึ้นแบบครูมอร์รี่
ปล.คิดถึงคุณครูมอร์รี่เมื่อไหร่ ก็เปิดหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านอีกสักครั้งบ้างนะ :) (ผมโน๊ตไว้หน้าสุดท้ายของหนังสือ)
ขอบคุณครับ :)
#ยามอ่าน
ฝากกดติดตามเพจบน Facebook ด้วยนะครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
