แนวโน้มการขายออนไลน์ในปี 2023
หน้าปกภาพจาก Mediamodifier / pixabay
ในปัจจุบันอินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนวิธีการซื้อขายสินค้าของเรา มันกำลังเปลี่ยนวิธีที่เราซื้อสินค้าและบริการ นอกจากนี้ยังเปลี่ยนวิธีการขายของเราอีกด้วย ในปี 2022 ผู้คนจะซื้อและขายออนไลน์มากกว่าที่เคยมีมา จะมีปัจจัยชุดใหม่ทั้งหมดที่จะผลักดันให้ผู้คนเลือกซื้อสินค้า ซื้อและขายออนไลน์ เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลง
เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ผลักดันให้ผู้คนซื้อสินค้าจากร้านค้าจริงเป็นหน้าร้านดิจิทัล และจะมีวิธีใหม่ๆ ให้ผู้คนขายสินค้าออนไลน์ ตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงผู้ค้าปลีกรายใหญ่ เช่น Amazon หรือ Walmart ซึ่งตอนนี้ขายโดยตรงบนเว็บไซต์ของพวกเขา แทนที่จะขายผ่านแพลตฟอร์มของบุคคลที่สาม เช่น eBay หรือ Etsy
ภาพจาก Life-Of-Pix / pixabay
อุตสาหกรรมค้าปลีกออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon และ Alibaba ครองตลาด ปัจจุบันมีผู้คนซื้อของออนไลน์มากกว่าพันล้านคน จึงไม่มีวี่แววว่าเทรนด์นี้จะชะลอตัวลง ยอดขายออนไลน์คาดว่าจะสูงถึง 3.27 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2565 ตามการคาดการณ์ของโกลด์แมน แซคส์ และตัวเลขนี้ครอบคลุมเฉพาะอุตสาหกรรมค้าปลีก
โดยไม่ได้คำนึงถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ ทั้งหมดที่อาจได้รับผลกระทบจากการใช้อินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น (เช่น เที่ยวบิน โรงแรม และร้านอาหาร) ในปี 2565 ตลาดอีคอมเมิร์ซคาดว่าจะเติบโต 12.5% เป็น 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ และยอดขายออนไลน์คาดว่าจะเติบโต 12.8% การเติบโตของยอดขายออนไลน์คาดว่าจะมาจากกลุ่มประชากรใหม่และช่องทางใหม่ของผู้บริโภค
ภาพจาก Firmbee / pixabay
ดังที่เราเห็น แนวคิดในการเปลี่ยนผู้ซื้อสินค้าเปลี่ยนไปอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้คนกำลังมองหาสินค้าที่มีคุณภาพแทนที่จะเป็นสินค้าราคาถูก และมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้ค้นหาผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้ในไม่กี่วินาที โดยกระแสมาแรงอย่าง Tiktok ที่กำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในขณะนี้ สามารถซื้อขายสินค้าได้ เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งคือการโฆษณาออนไลน์ที่ช่วยให้โฆษณาเข้าถึงผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าได้โดยตรง
สามารถปิดการขายได้ง่ายกว่า platform อื่นๆ โลกกำลังเปลี่ยนแปลงและสิ่งที่เราต้องทำเพื่อปรับตัว ผู้บริโภคไม่ใช้วิธีการแบบเดิมๆ ในการค้นหาสินค้าอีกต่อไป ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนผ่านช่องทางออนไลน์ ในปี 2023 เรามักจะเห็นผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นที่เปลี่ยนใจมาซื้อขายผ่านโทรศัพท์มือถือและโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ดูเหมือนว่าจะดำเนินต่อไปในอนาคต
ภาพจาก justynafaliszek / pixabay
การตลาดออนไลน์เป็นรูปแบบการตลาดที่ได้รับความนิยมและทรงพลังที่สุด ผู้คนใช้เวลาออนไลน์มากขึ้นทุกวัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ธุรกิจจะต้องมีสถานะออนไลน์ที่แข็งแกร่ง บริษัทต่างๆ ในอุตสาหกรรม 'ออนไลน์' ควรเริ่มเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้โดยสำรวจวิธีที่จะทำให้ธุรกิจของตนพร้อมใช้งานทางออนไลน์ เช่น การเปิดร้านอีคอมเมิร์ซ
การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดอันดับเสิร์ชเอ็นจิ้นเว็บไซต์ การพัฒนาบัญชีโซเชียลมีเดีย และอื่นๆ อีกมากมาย มีการคาดการณ์ไว้แล้วว่าภายในปี 2033 ปฏิสัมพันธ์ของผู้บริโภคส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นระหว่างมนุษย์ผ่านอุปกรณ์พกพามากกว่าผ่านเดสก์ท็อปพีซี ซึ่งหมายความว่าบริษัทต่างๆ จำเป็นต้องเตรียมพร้อมที่จะขยายธุรกิจด้วยรูปแบบการดำเนินงานใหม่และกลยุทธ์ที่เป็นนวัตกรรม
หากพวกเขาต้องการความได้เปรียบในการแข่งขันเหนือคู่แข่ง ในอนาคตของการขายออนไลน์นั้นดูไม่ค่อยสดใสนัก นักการตลาดจำเป็นต้องตามให้ทันการเปลี่ยนแปลงทางการตลาด มีสินค้าให้เลือกซื้อมากขึ้นและสภาวะเงินเฟ้อที่ทำให้สินค้าและบริการแพงขึ้น ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้เนื่องจากมีตัวเลือกที่มากขึ้น ดังนั้นเราควรเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่กำลังจะถึง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
