26 ต.ค. 2022 เวลา 12:50 • ข่าวรอบโลก
แคทเธอรีน แมร์รี่ ไนท์ (Katherine mary knight) แม่บ้านออสเตรเลียผู้สังหารและทำอาหารจากชิ้นส่วนของสามีเสริฟให้แก่ลูกๆ
แคทเธอรีน สาวน้อยที่เกิดในครอบครัวที่เรียกได้ว่าห่างไกลความอบอุ่นอย่างสิ้นเชิง เธอเกิดและเติบโตในรัฐนิวเชาว์เวลล์ เมืองเล็กๆแห่งนึงในออสเตรเลีย ในช่วงชีวิตในวัยเด็กของเธอ เธอมักจะได้ยินการพร่ำสอนของผู้เป็นแม่ว่าเป็นแม่ว่าเกลียดเซ็กและผู้ชายเพียงใด เพราะแม่ของเธอจะถูกข่มขืนจากพ่อเลี้ยงขี้เมาเป็นสิบๆครั้ง ต่อวัน และตัวเธอเองก็ถูกคุกคามทางเพศจากสามชิกหลายคนในครอบครัว
แคทเธอรีนได้ถูกไล่ออกจากโรงเรียนเมื่ออายุ 15ปี เนื่องจากเธอใช้อาวุธทำร้ายเด็กผู้ชายร่วมชั้น ด้วยความรู้ที่มีเพียงเท่านี้ ทำให้เธอหางานได้ดีที่สุดเพียงแค่การเป็นพนักงานในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า แต่หลังจากนั้นเพียง1 ปี เธอก็ค้นพบงานในฝัน นั้นคือการการทำงานในโรงฆ่าสัตว์ เธอภูมิใจและรักในอาชีพนี้จนทำมันได้ดีขนาดที่ว่าได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นชุดมีดคู่ใจที่แขวนไว้ข้างเตียงของเธอก็ได้มารับมาเป็นรางวัลจากการทำงานที่นั้น
ปี1973 เธอได้พบกับสามีคนแรกที่เป็นเพื่อนสนิทของพี่ชาย แต่การแต่งงานของทั้งคู่มันคือข้อพิสูจน์ความรุนแรงของเธอ ตอนที่เธอท้องแก่ เธอเคยใช้กะทะฟาดเข้าที่หัวของสามี รวมไปถึงเผาเสื้อผ้าของเขาทั้งหมด เพียงเพราะเขาไปร่วมแข่งขันปาเป้าของเมือง เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เธอถูกดำเนินคดี แต่เธอก็ได้ไปทำการขอร้องในสามีถอนแจ้งความและสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนั้นกับเขาอีก
แต่หลังจากที่เธอคลอลูกสาวคนแรกได้ไม่นาน สามีของเธอก็เริ่มทนพฤติกรรมความรุนแรงของเธอไม่ได้ จึงหนีไปอาศัยอีกเมืองใกล้ๆกับสาวคนใหม่ เธอรับแรงกดดันไม่ไหวถึงขนาดที่ว่าผลักรถเข็นของลูกสาวไปกลางถนน ซึ่งนั้นก็เป็นอีก1 ครั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมาระงับเหตุ เธอได้รับการวินิจฉันว่าเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอด แต่พอเธออกจากโรงพยาบาลได้ไม่นาน เธอก็ก่อเหตุนำลูกสาวไปวางไว้บนรางรถไฟ โชคดีที่ชายไร้บ้านผ่านมาเห็นเข้า ถึงได้เข้าช่วยเหลือเด็กน้อยก่อนที่รถไฟจะแล่นผ่านมาเพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้น
แต่หลังจากเธอออกจากโรงพยาบาลได้ไม่กี่วัน เธอก็ได้ก่อเหตุอีกครั้ง ครั้งนี้เธอใช้มีดเข้าข่มขู่ผู้หญิงคนนึงในปั้มน้ำมัน เพื่อบังคับให้พาเธอไปตามหาสามี เมื่อตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพวกเขากลับพบว่าเธอได้จับตัวประกันเป็นเด็กผู้ชายนึงคน หลังจากถูกปลดอาวุธ ก็เป็นอีกหนึ่งครั้งที่เธอถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล ขณะรักษาตัว เธอได้เล่าให้พยาบาลที่ดูแลเธอฟังว่า อันที่จริงเธอตั้งใจจะฆ่าช่างซ่อมรถในปั้ม เพราะเขาช่วยให้สามีของเธอหนีไป หลังจากนั้นเธอจะไปลงมือกับสามีและแม่สามีต่อ
หลังจากเธอกย่าร้างกับสามีคนแรก เธอก็มีสามีใหม่หลังจากนั้นอีก2คน ก่อนที่จะพบกับคนสุดท้าย ผู้ซึ่งเป็นเหยื่อของเธอ…
จอห์น ไพร์ส พ่อหม่ายชาวเหมืองแร่ที่มีลูกติดจากภรรยาเก่าอีก2คน เค้าปฏิเสธจะแต่งงานกับแคทเธอรีน เพราะเธอได้ส่งวีดีโอที่เขาได้นำของเหลือทิ้งจากที่ทำงานกลับมาบ้านส่งให้กับเจ้านายของจอนห์ หลังจากนั้นเขาจึงต้องถูกเชิญออกจากงานที่ทำมากว่า17ปี เขาจึงบอกเลิกและไล่เธอออกจากบ้าน แต่หลังจากนั้นเพียงแค่ 2-3เดือนเขาก็ได้กลับไปคบกับแคทเธอรีนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาปฏิเสธที่จะให้เธอย้ายกลับเข้ามาในบ้านของเขา เพียงแค่สามารถแวะมาค้างคืนได้เป็นครั้งคราว
ครั้งสุดท้ายของการวิวาท มันจบด้วยการนองเลือด
ทั้งคู่มีปากเสียงกัน ครั้งนี้มันจบที่แคทเธอรีนใช้กรรไกรแทงเข้าที่หน้าอกของจอนห์ เขาแจ้งความและขอให้ศาลออกคำสั่งให้เธอไม่เข้าใกล้ตัวเขาและลูกๆ บ่ายวันนึงจอนห์ได้บอกกับเพื่อนร่วมงานว่าถ้าพรุ่งนี้เขาไม่มาทำงาน นั้นหมายความว่าเขาได้ตายไปแล้ว และคนลงมือก็คือตัวแคทเธอรีนเอง แม้ว่าเพื่อนๆจะห้ามปรามไม่ให้เขากลับเข้าไปที่บ้าน แต่ด้วยความที่เขาเป็นห่วงลูกๆ เขาถึงไม่ฟังคำต้านทานของเพื่อนๆ
1
ในช่วงเย็นจนถึงเวลา5ทุ่ม จอนห์ได้ใช้เวลาสังสรรค์เล็กๆกลับเพื่อนบ้านก่อนจะกลับเข้าบ้าน หลังจากนั้นเขาพบว่าแคทเธอรีนไม่ได้อยู่ในบ้านเพราะถ้าพาลูกๆของเขาไปส่งให้นอนค้างคืนที่บ้านของเพื่อน เมื่อเธอกลับมาก็พบว่าจอนห์ไปผล็อยหลับอยู่หน้าทีวี เธอจึงได้ไปอาบน้ำและปลุกเขาขึ้นมาร่วมรักกัน และเขาก็ได้หลับไปอีกครั้งหลังจากนั้น
6โมงเช้า เพื่อนบ้านเริ่มกังวลเพราะยังคงเห็นรถของจอนห์จอดอยู่ที่ริมถนน และในเวลาเดียวกันนั้นเจ้านายของจอนห์ก็ได้ส่งเพื่อนร่วมงานมาที่บ้านของเขาเพื่อเช็คดูความปลอดภัย ทุกช่วยกันเคาะประตูเรียกคนในบ้านแต่ไร้เสียงตอบรับ และเมื่อพบว่าที่หน้าประตูมีรอยเลือดจึงได้แจ้งตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าหน้าที่มาถึงจึงพังประตูเข้าไปและพบว่าแคทเธอรีนได้สลบไปจากการกินยาเกินขนาด และตัวจอนห์เองก็นอนเสียชีวิตจมกองเลือด!!!
ตามหลักฐานเลือดพบว่าเขาได้ถูกแทงครั้งแรกบนเตียง เมื่อเขารู้สึกตัวจึงได้วิ่งหน้าออกมาทางประตูหน้า แต่ลื่นหกล้มเลือดของตัวเอง เขาจึงลูกลากกลับเข้าไปในโถงทางเดิน เขาถูกกระหน่ำแทงถึง 37 ครั้งทั้งด้านหน้าและหลัง หลังจากเขาเสียชีวิตแคทเธอรีนได้ขับรถออกไปกดเงินจาก ATM ของเขาเป็นจำนวนเงิน1,000ดอลล่าร์
หลายชั่วโมงหลังจากจอนห์เสียชีวิต แคทเธอรีนได้ถลกหนังของเขาแขวนได้ที่ตะขอบริเวณประตูห้องรับแขก หลังจากนั้นเธอได้นำส่วนหัวชิ้นส่วนอื่นๆของจอนห์ไปทำอาหารเสริฟคู่กับผักอบราดน้ำเกรวี่ เธอตักเสริฟ 2 ที พร้อมกับทั้งเขียนโน็ตเป็นชื่อลูกๆของจอนห์ นั้นหมายความว่าเธอตั้งใจจะเสริฟอาหารมื้อนั้น ให้แก่เด็กๆทานเป็นมื้อค่ำ
มีเศษชิ้นเนื้อบางส่วนถูกโยนทิ้งไว้สนามหลังบ้าน ได้รับการยืนยันว่าเธอพยายามจะกินชิ้นส่วนพวกนั้น แต่มันเหนียวเกินกว่าจะเคี้ยวได้ เธอจึงโยนมันทิ้งไว้ให้สุนัขจัดการ ในส่วนของศรีษะถูกค้นพบในหม้อตุ๋นกับผัก ซึ่งน้ำมีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ40°-50° ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้ลงความเห็นว่าเธอน่าจะเริ่มลงมือทำอาหารมื้อนี้ประมาณช่วงเช้าตรู่
ในขั้นตอนของการพิจารณาคดี ในตอนแรกเธอได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และทีมทนายของเธอได้ใช้เหตุผลที่เธอมีความผิดปรกติทางจิตเพื่อนลดโทษ แต่ผู้พิพากษามีความเห็นว่าเธอยังสามารถขับรถไปกดเงินและกลับมาดื่มกาแฟ สูบบุหรี่ รวมไปถึงยังจัดท่าทางของศพให้นั่งอยู่บนโซฟาทำท่าเหมือนกำลังดื่มน้ำอัดลม จึงตัดสินให้เธอจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีการลดหย่อนผ่อนโทษ (โทษสุงสุดของออสเตรเลีย) จึงถือว่าเธอเป็นนักโทษหญิงคนแรกของออสเตรเลียที่ถูกตัดสินแบบนั้น
เครดิตบทความและรูปภาพ https://en.wikipedia.org/wiki/Katherine_Knight
https://murderpedia.org/female.K/k/knight-katherine.htm
https://www.investigationdiscovery.com
โฆษณา