27 ต.ค. 2022 เวลา 07:19 • ประวัติศาสตร์
สมคิด พุ่มพวง ฆาตกรต่อเนื่องของไทย ที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตและประหารถึง2ครั้ง และทุกวันนี้เขายังมีชีวิตอยู่
สมคิดในวันเด็กถูกพ่อนำมาฝากเลี้ยงโดยลุง เนื่องจากแม่เสียชีวิตตั้งแต่เขายังเด็ก ชีวิตอาชญากรของเขาเริ่มตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก สมคิดถูกไล่ออกจากโรงเรียนเนื่องจากโขมยจักรยานของครู เมื่ออายุได้ 14-15 สมคิดได้เริ่มทำงานในโรงงานไม้ แต่ก็ต้องถูกไล่ออกเพราะการโขมยเงินเป็นจำนวน 150,000 บาท นอกจากนี้สมคิดยังเคยใส่ร้ายนักธุรกิจท้องถิ่นโดยการให้ความเท็จในศาล ส่งผลให้เหยื่อถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 6 ปี
ซึ่งเหยื่อเคยสาบานไว้ว่าจะแก้แค้นโดยการฆ่าให้ตาย ทางด้านสมคิดเองก็ได้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 4 ปี จากคดีนี้ นอกจากการลักทรัพย์แล้ว สมคิดยังเคยเกี่ยวข้องกับการค้ายาและอาวุธในเขตภาคอีสานอีกด้วย
สมคิดชอบที่จะพักในโรงแรมใหญ่ ๆ เขาหลีกเลี่ยงตำรวจด้วยการเปลี่ยนชื่อทุกครั้งที่เข้าพัก โดยจะใช้ชื่อ เช่น แดง พุ่มพวง, สุวัจน์ ชนะณรงค์, สุชาติ กิ่งแก้ว และณรงค์ นิลเนตร
ฆาตกรรมในครั้งแรก
การลงมือของเขาในครั้งแรกเกิดขึ้นที่มุกดาหาร เมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2547 นักร้องคาเฟ่สาว นาง วารุณี พิมพ์พะบุตร วัย 25 ปี (ในขณะนั้น) ถูกพบว่าถูกมัด และจับกดน้ำจนเสียชีวิตในอ่างน้ำของโรงแรม นอกจากนี้ผู้เสียชีวิตยังถูกปลดทรัพย์ไปจดหมด เจ้าหน้าที่ของโรงแรมแจ้งว่าสมคิดเป็นผู้เปิดห้องที่เกิดเหตุ และตำรวจยังระบุตัวเขาได้จากรูปถ่ายของโรงแรมอีกด้วย
สมคิดค้นพบว่านั้นคือวิธีการที่เขาชื่นชอบ นั้นคือการเข้าพักในโรงแรม เรียกเหยื่อมาใช้บริการ และลงมือฆาตกรรม ซึ่งในครั้งต่อมาเหยื่อคือ น.ส. ผ่องพรรณ ทรัพย์ชัย หมอนวดวัย 34 ปี ถูกรัดคอและลักเอาทรัพย์เป็นแหวนทอง ต่างหู และโทรศัพท์ก่อนจะถูกพบศพในโรงแรมที่จังหวัดลำปาง
ถัดมาเป็น น.ส. พัชรี อมตนิรันดร์ อายุ 39 ปี ถูกฆ่ารัดคอด้วยสายไฟในห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน จากการสืบสวนพบว่าเธอเข้าพักพร้อมกับชายที่ชื่อว่า ณรงค์ นิลเนตร
ถัดมาเพียง 8 วัน หมอนวดสาวนามว่า พรตะวัน ปังคะบุตร อายุ 37 ปี ถูกพบเป็นศพถูกรัดคอเสียชีวิตในอ่างอาบน้ำของห้องพักในโรงแรมแห่งหนึ่งของจังหวัดอุดรธานี ในครั้งนี้กล้องวงจรปิดและพยานบุคคลซึ่งเป็นพนักงานโรงแรมได้ให้ปากคำสอดคล้อง นั้นเผยให้เห็นความเกี่ยวข้องของสมคิดในทุกๆคดีข้างต้น นั้นทำให้ตำรวจเชื่อว่าตอนนี้เรามีฆาตกรต่อเนื่องกำลังหลบหนีอยู่
การไล่ล่าจึ่งเริ่มขึ้น!!!!
แต่สมคิดก็ก้าวหน้าไปกว่าตำรวจไปอีก 1 ก้าว ด้วยการสังหารอีก 1 ศพโดยการบีบคอ ในครั้งนี้คือหญิงที่มีชื่อว่า สมปอง พิมพ์พรภิรมย์ วัย 36 ปี พนักงานโรงแรมได้พบร่างอันเปลือยเปล่าในห้องพักของโรงแรมในจังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ในครั้งนี้ตำรวจพบภาพของเขาในกล้องวงจรปิด รวมไปถึงลายนิ้วมือบนกระป๋องเบียร์ใกล้ ๆ ศพของสมปอง
เมื่อคดีสิ้นสุดที่ศาลฎีกาสั่งให้จำคุกสมคิดตลอดชีวิต เขาถูกจำคุกที่เรือนจำบางขวางก่อนที่จะถูกย้ายไปที่เรือนจำจังหวัดหนองคาย ก่อนจะได้รับอภัยโทษและถูกปลอยตัวออกมาในวันที่17 พฤษภาคม 2562 เนื่องจากเป็นนักโทษชั้นเยี่ยมที่มีความประพฤติดีและเรียบร้อย
แต่ไม่นานสมคิดก็กลับมาก่อเหตุฆาตกรรม นาง รัศมี มุลิจันทร์ อายุ 51 ปี อีกครั้ง นางรัศมีและสมคิดได้คบหากันและพักอาศัยในพื้นที่อำเภอ กระนวน จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2562 เพื่อนบ้านได้ยินเสียงทั้งคู่ทะเลาะกัน จนถึงเวลาเย็นเพื่อนบ้านไม่เห็นนางรัศมีออกมาทำงานจึงได้ไปตะโกนเรียกแต่ไร้เสียงตอบรับจึงได้ตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป จึงพบศพของเธอถูกห่อด้วยผ้าห่ม บริเวณลำคอถูกพันด้วยเทปใส ที่ข้อเท้าถูกมัดด้วยสายชาร์จโทรศัพท์ แต่ไม่พบตัวสมคิด
ในวันที่ 18 ธันวาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟว่ามีคนพบสมคิดบนขบวน หลังจากรับแจ้งเจ้าหน้าที่จึงได้ปิดล้อมชานชาลาสถานีรถไฟปากช่องก่อนที่รถไฟจะเข้าเทียบชานชาลา เมื่อรถไฟจอดสนิทเจ้าหน้าที่ได้เข้าจู่โจมจับกุม สมคิดแต่งกายปิดหน้าด้วยหน้ากากอนามัยอำพรางตัวปะปนกับผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่ได้เข้าเข้าจับกุมในทันที โดยสมคิดไม่ได้มีท่าทีขัดขื่นแต่อย่างใด
และในครั้งนี้ศาลได้ตัดสินประหารชีวิตแก่สมคิด
ซึ่งในการสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบว่าสมคิด คือสมคิด พุ่มพวง ที่เคยมาป่วนคดีฆาตกรรมนาย ปรีณะ ลีพีฒนะพันธ์ อดีตผู้ว่าฯ ยโสธร ซึ่งเจ้าที่ได้จับกุม “ผู้พันตึ๋ง” และพรรคพวกเมื่อปี 2544 โดยสมคิดได้โผล่มาพบตำรว อ้างว่าเป็นพยานที่เห็นเหตุการณ์ว่าคนร้ายเป็นคนอีกกลุ่ม ไม่ใช่ผู้พันตึ๋ง แต่เมื่อสอบสวนไปมาจึงจับได้ว่าสมคิดให้การเท็จ จึงถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งตำรวจไม่เคยรู้เลยว่าจะได้วนมาเจอกับสมคิดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้คดีมันร้ายแรงกว่าในครั้งนั้นหลายเท่า
เครดิตเนื่อหาข่าวและรูปภาพ
www.Bangkok biz news.com
โฆษณา