30 ต.ค. 2022 เวลา 03:00
Fast fashion by tracking down
หลายคนคงคุ้นเคยหรือพอรู้จักเกี่ยวกับฟาสต์แฟชั่นมาอยู่บ้าง หรือใครที่ไม่รู้จักมาก่อน เราก็จะมาอธิบายให้ฟังกันว่าฟาสต์แฟชั่นคืออะไร และอะไรเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ฟาสต์แฟชั่นนั้นเป็นที่นิยมในหมู่มากและมีมาได้อย่างยาวนาน บทความนี้ผู้เขียนต้องการสะท้อนถึงปัญหาและแนวทางของผู้ที่กำลังสนใจในเรื่องฟาสต์แฟชั่นนี้ว่ามีความเป็นมาได้อย่างไร
Fast Fashion คืออะไร ?
- ฟาสต์แฟชั่น คือ เสื้อผ้าที่มีทุนการผลิตที่ต่ำทั้งในส่วนของทรัพยากรที่ใช้ในการผลิตและแรงงานคนผลิต และมีกระบวนการผลิตที่รวดเร็วเพื่อรองรับต่อผู้บริโภคที่ต้องการเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเสื้อผ้าฟาสต์แฟชั่นใช้ทุนการผลิตที่ต่ำทำให้มีราคาขายที่ไม่แพงและเป็นเสื้อผ้าที่เข้าถึงง่ายสำหรับผู้บริโภคทั่วไป ซึ่งพฤติกรรมของผู้บริโภคส่วนใหญ่จะสวมใส่ไม่นานแล้วทิ้ง แล้วซื้อใหม่เป็นแฟชั่นที่มาเร็วและไปเร็วเพราะมีแฟชั่นที่หลากหลายและทันสมัยมาแทนที่อยู่ตลอดเวลา
Trickle Down คืออะไร ? และเชื่อมโยงอะไรกับ Fast Fashion
- Trickle Down คือทฤษฎีที่มีแนวคิดว่าคนในสังคมมีหลายระดับชั้นและแต่ละระดับชั้นมีความสามารถในการพัฒนาที่ไม่เท่ากัน จึงทำให้มีการพัฒนาในชนชั้นที่มีความพร้อมมากสุดก่อนและค่อยเลื่อนลงมาชั้นอื่น หรือจากชนชั้นสูงไปสู่ชนชั้นล่าง ซึ่งในแนวคิดนี้ผู้คนค่อนข้างจะไม่เห็นด้วยหรือมองว่าเป็นการแบ่งชนชั้นทางสังคมอย่างชัดเจน สำหรับคนที่มีมากกว่าจะมีสิทธิได้ประโยชน์ที่เร็วกว่าชนชั้นอื่น ๆ แสดงถึงความไม่เท่าเทียมกันในสังคม
แต่ทฤษฎีนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจะไม่ตรงกับสถานการณ์ความเป็นจริงในสังคมทั้งอดีตและปัจจุบัน โดยคนที่อยู่ระดับสูงกว่าจะมีโอกาสที่มากกว่า เช่น ได้รับการศึกษาที่ดีกว่าชนชั้นอื่น หรือการมีต้นทุนที่มากกว่าจะได้เลือกโรงพยาบาลที่ให้การดูแลดีกว่า ทำให้ทฤษฎีนี้สามารถนำไปใช้ได้กับทุกภาคส่วน
ดังนั้น Trickle Down ทางแฟชั่นหมายถึงการแผ่ขยายของแฟชั่นจากคนชนชั้นบนสุดลงมาสู่ชนชั้นล่าง หรือเปรียบเทียบคนชนชั้นสูงได้กับกษัตริย์ ราชินีหรือเชื้อพระวงศ์ต่าง ๆ ถ้าในปัจจุบันจะรวมถึงคนรวย คนมีชื่อเสียงหรือผู้มีอิทธิพลทางแฟชั่นในโลกของสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ผู้คนจะให้ความสนใจและเลียนแบบทั้งด้านพฤติกรรมและบุคลิกของผู้นั้น
ผู้เขียนเชื่อว่าทฤษฎีนี้กับวงการแฟชั่น เป็นสิ่งที่ทรงอิทธิพลต่อมนุษย์ทั่วโลกเพราะไม่อย่างนั้นจะไม่ก่อให้เกิด Fast Fashion ที่เกิดจากการเลียนแบบเสื้อผ้าของคนระดับบนและให้คนชั้นรองลงมาได้สวมใส่ได้อย่างอิสระ ไม่ต้องจำกัดแค่คนมีฐานะร่ำรวยเท่านั้นที่สามารถบริโภคได้ โดยเสื้อผ้าตรงนี้จะเน้นการตลาดจากคนระดับล่าง ที่ต้องการมีเสื้อผ้าที่ดูดีและราคาไม่แพง เพื่อเป็นการยกระดับตัวเองให้มีความเท่าเทียมกับคนในสังคมและมองถึงรสนิยมของคนชั้นสูงนั้นเป็นลักษณะที่ดูดี
Adam Smith กล่าวว่าการแพร่ขยายแฟชั่นเกิดจากการชื่นชมและเลียนแบบกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อมากกว่า ซึ่งคนกลุ่มนี้จะสามารถสร้างหรือนำสิ่งที่เป็นแฟชั่นได้ เช่น เสื้อผ้า ภาษา สไตล์ การปฏิบัติตนของความเป็นแฟชั่น ซึ่งคนส่วนมากมีความภูมิใจกับคนกลุ่มนี้เพราะเป็นผู้นำทางแฟชั่นได้
ซึ่งอิทธิพลของคนที่มีกำลังซื้อมากกว่ายังส่งผลให้คนในสังคมหันมาให้ความสำคัญกับการแต่งกายมากขึ้นเพราะเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้สามารถบ่งบอกถึงตัวตนของเราผ่านแฟชั่นได้ รวมไปถึงวัฒนธรรมและสภาพแวดล้อมทางสังคม เสื้อผ้าไม่ได้เป็นสิ่งที่ใช้สวมใส่เพื่อปกปิดร่างกายหรือเพื่อป้องกันจากภูมิอากาศเพียงเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่ยกระดับบุคลิกภาพและสถานะได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงฐานะทางเศรษฐกิจหรือรูปร่างหน้าตาของเราว่าเป็นแบบไหน
แต่การใส่เสื้อผ้าที่สะอาดหรือเสื้อผ้าที่อยู่ในกระแสสังคมจะช่วยให้เราได้รับการยอมรับจากสังคม ทำให้ผู้บริโภครู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น แตกต่างจากในอดีตที่เสื้อผ้าจะมีราคาค่อนข้างสูงทำให้คนส่วนใหญ่ไม่มีกำลังซื้อ ด้วยเหตุนี้ฟาสต์แฟชั่น จึงเป็นแฟชั่นที่มาเปลี่ยนแปลงการเข้าถึงที่ยากในอดีตให้เป็นเรื่องง่าย เพื่อให้ทุกระดับทางชนชั้นสามารถสวมใส่เสื้อผ้าได้หลากหลาย กับราคาที่เป็นมิตร การแต่งกายจึงไม่ได้เป็นตัวเลือกสำหรับคนมีฐานะอย่างเดียว แต่บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้และสนุกไปกับแฟชั่นใหม่ ๆ ได้
Veblen การขยายทางแฟชั่น การมีเงินหรือมีอำนาจไม่เพียงพอต่อการได้มาซึ่งการมีที่ยืนในสังคมแต่ต้องมีการทำให้คนอื่นมองเห็นเราด้วย เป็นการแสดงสถานะทางสังคมให้คนอื่นเห็นด้วยถึงการบริโภคของเราและเราพยายามทำให้ตนเองแตกต่างหรือเหนือกว่าคนอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกับเราและพยายามก้าวไปสู่ในระดับที่สูงกว่าโดยการเลียนแบบคนในระดับนั้น
และฟาสต์แฟชั่นยังไม่ใช่แค่เรื่องของการแต่งกายที่มีสิทธิเท่าเทียมกันกับชนชั้นที่อยู่เหนือกว่า แต่ยังเป็นการยกระดับตัวเองให้อยู่เหนือกว่าคนระดับเดียวกันหรือระดับล่าง เพราะมองว่าเสื้อผ้าเป็นปัจจัยภายนอกที่ทำให้ผู้อื่นเห็นถึงการบริโภคของเราที่มีมากกว่าคนระดับล่างได้ดีที่สุด จึงพยายามผลักดันตัวเองให้อยู่ระดับที่สูงกว่าไปเรื่อย ๆ
โดยได้แรงบันดาลใจมาจากคนชั้นสูง เพราะเป็นสิ่งที่น่ากระทำตามดูมีรสนิยมและเป็นที่ยอมรับมากกว่าการเลียนแบบคนระดับล่าง ที่มองว่าไม่สามารถเป็นผู้นำแฟชั่นได้ เพราะแฟชั่นเกิดมาจากสังคมคนชนชั้นสูงเพราะคนชนชั้นนี้มีเงินและอำนาจในการสร้างสรรค์ไอเดียต่าง ๆ แตกต่างจากชนชั้นล่างที่กำลังใช้แรงงานให้กับคนชนชั้นสูง
จึงทำให้ฟาสต์แฟชั่นต้องผลิตเสื้อผ้าที่เป็นเทรนด์ออกมาเรื่อย ๆ เพื่อเจาะกลุ่มการตลาดของผู้บริโภคกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นผลดีให้กับผู้ก่อตั้งบริษัท แต่แฟชั่นนี้ส่งผลกระทบในวงกว้าง เพราะด้วยความที่ต้นทุนต่ำและมาจากแรงงานจากคนชนชั้นล่าง ทำให้สะท้อนอีกมุมว่าคนที่บริโภคที่ต้องการให้สังคมเกิดความเท่าเทียมในเรื่องของการมีสิทธิการแต่งกายมากขึ้นนั้น แต่ในอีกด้านหนึ่งแรงงานการผลิตตรงนี้มาจากคนที่อยู่ชนชั้นล่าง ทำให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างผู้บริโภคกับความเท่าเทียม
เพราะผู้บริโภคกำลังสนับสนุนให้ฟาสต์แฟชั่นกดขี่แรงงาน ละเมิดสิทธิมนุษยชน และถึงแม้ผู้บริโภคบางส่วนทราบดีอยู่แล้ว แต่วัตถุประสงค์ของคนกลุ่มนี้คิดถึงผลประโยชน์ให้กับตัวเองที่ได้รับโดยตรงมากกว่า เพราะมันสร้างความสะดวกสบายและทำให้ตัวเรามีหน้าตาในสังคมได้ โดยไม่ได้มองถึงผู้อื่นที่ไม่ได้รับความเท่าเทียมและไม่ได้ตระหนักถึงคนชนชั้นล่างจึงส่งผลให้ฟาสต์แฟชั่นนั้นประสบผลสำเร็จในการตลาดได้เป็นอย่างดี
ผู้เขียนคิดว่าถ้าหากผู้บริโภคเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากต้นเหตุจริง ๆ และพยายามไม่ตามกระแสจากสังคมที่มาจากคนชนชั้นใด ๆ ก็ตามแต่เลือกทำโดยวิถีของตัวเองที่ถูกต้อง ที่ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งจากตนเอง เราก็จะไม่รู้สึกที่จะต้องพยายามที่จะสร้างค่านิยมหรือกฎเกณฑ์อะไรขึ้นมาเพื่อให้สังคมกระทำตาม
ดังนั้นฟาสต์แฟชั่นอาจจะไม่มีผลกับการใช้ชีวิตของมนุษย์หรือแม้แต่สังคมอาจจะไม่เกิดการแผ่ขยายแฟชั่นจากคนชนชั้นสูงไปชั้นล่างเพราะช่วงชีวิตของมนุษย์นั้นไม่ได้เกิดมาเพื่อหาความสุขให้ตัวเองแต่เป็นการหาสิ่งที่เที่ยงแท้และถาวรที่ไม่ได้มาจากความสุขช่วงครู่ การที่มนุษย์กระทำสิ่งใดสิ่งเหล่านั้นต้องเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความสุขแต่ความสุขนี้ก็อาจจะเป็นความสุขที่มาจากความทุกข์ของคนอื่นเช่นกัน
ฟาสต์แฟชั่นนั้นเป็นสิ่งที่ผู้คนเข้าถึงได้ง่ายและเป็นที่ได้รับการยอมรับมากก็จริงแต่ผู้เขียนก็ไม่ได้สนับสนุนให้สวมใส่แฟชั่นนี้ อาจจะแสดงถึงความเท่าเทียมกันทางด้านเสื้อผ้า ที่อ้างอิงจากคนชั้นสูงแต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าถึงเสื้อผ้าฟาสต์แฟชั่นนี้และกลุ่มที่เข้าไม่ถึงก็ต้องมาประสบพบเจอกับปัญหาที่มาตามมาจากคนกลุ่มนี้ เช่น ขยะจากเสื้อผ้าฟาสต์แฟชั่นที่มีจำนวนมากเพราะมีการผลิตที่รวดเร็วและบริโภคระยะสั้น และมีจำนวนมากไม่มีมาตรการรองรับการดูแลการกำจัดที่ทั่วถึงและถูกวิธี
ทำให้เป็นสิ่งที่กินพื้นที่ของคนที่อยู่อาศัยบริเวณนั้นและเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ผู้เขียนอยากให้เราคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมรวมด้วย โดยที่เราควรที่จะมองถึงปัจจัยและความจำเป็นในการเลือกซื้อเสื้อผ้าว่ามีอายุการใช้งานได้ยาวนานไหมหรือสามารถนำมาดัดแปลงเป็นสิ่งอื่นได้หรือไม่
ที่มา: https://cenital.com/fast-fashion-bonito-y-barato-bueno/
โฆษณา