[KBank Live] จงกล้า…เมื่อคนอื่นกลัว นัยสำคัญจากการประชุมพรรคครั้งที่ 20 ของจีน 🐲เราเชิญ ดร. อาร์ม ตั้งนิรันดร์ เข้าร่วมงาน KS-Expert series เพื่อบรรยายเกี่ยวกับนัยสำคัญจากการประชุมพรรคครั้งที่ 20 ของจีน โทนเป็นบ

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

KBank Live

ยืนยันแล้ว

•

1 พ.ย. 2022 เวลา 13:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

จงกล้า…เมื่อคนอื่นกลัว

นัยสำคัญจากการประชุมพรรคครั้งที่ 20 ของจีน

🐲เราเชิญ ดร. อาร์ม ตั้งนิรันดร์ เข้าร่วมงาน KS-Expert series เพื่อบรรยายเกี่ยวกับนัยสำคัญจากการประชุมพรรคครั้งที่ 20 ของจีน โทนเป็นบวกเล็กน้อย

จงกล้า…เมื่อคนอื่นกลัว

🐲ไม่มีหลักฐานว่านโยบายใหม่ของ สี จิ้นผิง จะเข้มงวดขึ้นหลังจากที่เขาได้รับอำนาจ ดร.อาร์มกล่าวว่าตลาดอาจมองในแง่ลบมากเกินไป

🐲คาด GDP ของจีนจะโต 3-4%/5% ในปี 65/2566 จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการผ่อนคลายนโยบายปลอดโควิดอย่างค่อยเป็นค่อยไปซึ่งสอดคล้องกับตลาด

✅นัยสำคัญจากการประชุมพรรคครั้งที่ 20 ของจีน เราเชิญ ดร. อาร์ม ตั้งนิรันดร์ ผู้อำนวยการศูนย์จีนศึกษา ให้เข้าร่วมงาน KS-Expert series ของเรา โดยมีผู้จัดการกองทุนกว่า 70 รายเข้าร่วมประชุม หัวข้อสำคัญที่อภิปรายคือ

1) สมาชิกใหม่ 7 คนของคณะกรรมการประจำ (NPC Standing Committee)

2) ความวุ่นวายของตลาดหลังจากการคว้าอำนาจของ สี จิ้นผิง

3) นโยบายเรื่องไต้หวันของจีนและความตึงเครียดกับสหรัฐฯ

4) นโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีน

5) แนวโน้มการเติบโตของ GDP ของจีนหลังจากที่ สี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งเป็นวาระที่สาม

นัยสำคัญจากการประชุมพรรคครั้งที่ 20 ของจีน

✅ตลาดอาจมองในแง่ร้ายเกินไปต่อการควบคุมอย่างเบ็ดเสร็จของ สี จิ้นผิง ในประเทศจีน Bloomberg รายงานว่า สมาชิกคณะกรรมการประจำโปลิตบูโร ชุดที่ 20 ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ 7 คน

โดยมีสมาชิกที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ 4 คน (หลี่ เฉียง, ติง เซวียเสียง, ไช่ ฉีและ หลี่ ซี) โดย หลี่ เฉียง และ ติง เซวียเสียง จะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีคนต่อไปในการประชุม NPC ในเดือนมี.ค. ปีหน้า

ตลาดร่วงลงในวันจันทร์เนื่องจากผิดหวังกับการคว้าอำนาจของ สี จิ้นผิง เนื่องจากเขาอาจดำเนินนโยบายที่ไม่เป็นมิตรต่อตลาดเช่น นโยบายปลอดโควิด การปราบปรามบริษัทเทคโนโลยีและการเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์เพื่อเพิ่มการกระจายรายได้ให้เป็นธรรม

นอกจากนี้ การควบคุมอย่างเบ็ดเสร็จของเขา หมายความว่าไม่มีใครจะขัดขวางการตัดสินใจของเขาหรือบอกเขาเมื่อเขาผิด ดัชนี CSI 300 ซึ่งเป็นตัวแทนของหุ้น 300 อันดับแรกที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น ร่วงลง -5.2% WoW สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่การล็อกดาวน์จากโควิด-19 ในปี 2563 และ

ปัจจุบันซื้อขายที่ 9.8 เท่า ที่ประมาณ 1SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต แม้จะพิจารณาถึงแนวโน้มการเติบโตของ GDP ของจีนที่ชะลอตัวลง ดร. อาร์มเชื่อว่าการเทขายในตลาดครั้งล่าสุดส่วนหนึ่งเป็นผลจากการขายด้วยอารมณ์มากกว่าเหตุผล

เนื่องจากเขาไม่เห็นหลักฐานจากคำปราศรัยของสี จิ้นผิง ในการประชุมพรรคครั้งที่ 20 ว่านโยบายในอนาคตของเขาจะเข้มงวดกว่านโยบายก่อนหน้านี้ ในทางตรงกันข้าม สี จิ้นผิง ไม่ได้กล่าวถึงนโยบายที่ไม่เป็นมิตรต่อตลาดก่อนหน้านี้

เขาให้คำมั่นที่จะดำเนินการเปิดประเทศต่อไป และติดต่อกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ดร.อาร์มประเมินความเป็นไปได้ที่จีนจะบุกไต้หวันยังต่ำอยู่ เว้นแต่สหรัฐฯ จะเปลี่ยนแปลงนโยบายจีนเดียวหรือไต้หวันประกาศเอกราช การห้ามส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงของสหรัฐฯ ไปยังจีนครั้งล่าสุดนั้นแย่กว่ายุคสงครามเทคโนโลยีของทรัมป์อย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ดร.อาร์มไม่ได้คาดหวังว่าจีนจะตอบโต้ เนื่องจากบริษัทชิปของสหรัฐฯ น่าจะโดนโจมตีหนักกว่า Lam Research ซัพพลายเออร์อุปกรณ์ทำชิปของสหรัฐฯ ประเมินการสูญเสียรายได้ 2-2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากการแบนจีน ซึ่งคิดเป็น 30% ของยอดขายของบริษัทในสหรัฐอเมริกา

ตลาดอาจมองในแง่ร้ายเกินไป

✅คาดมีมาตรการกระตุ้นและการผ่อนคลายนโยบายปลอดโควิดอย่างค่อยเป็นค่อยไปหลังจาก สี จิ้นผิง ได้รับตำแหน่ง ดร. อาร์มคาดว่า GDP ของจีนจะเติบโต 3-4% ในปี 2565 และ 5% ในปี 2566 ซึ่งมากกว่าที่ไอเอ็มเอฟและธนาคารโลกคาดการณ์ไว้เล็กน้อย

หลังจากที่ สี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งเป็นวาระที่สามและบทบาทในพรรคคอมมิวนิสต์ได้มีการจัดสรรแล้ว ดร. อาร์มคาดว่า สี จิ้นผิง จะให้ความสำคัญกับเป้าหมายทางเศรษฐกิจและเป้าหมายอื่น ๆ มากขึ้น

ดร. อาร์มยังคาดว่าจะเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมภายในสิ้นปี 2565 แม้ว่านโยบายปลอดโควิดของจีนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในทันทีหลังการประชุมพรรคครั้งที่ 20 แต่เขาคาดว่าจะผ่อนคลายอย่างค่อยเป็นค่อยไปโดยการลดนโยบายกักตัวและเพิ่มเที่ยวบินระหว่างประเทศ

เขาคาดว่าจีนจะเปิดประเทศต่าง ๆ ได้เร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ในช่วงกลางปี 2566 ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของเราที่จีดีพีของจีนเข้มแข็งขึ้นและการผ่อนคลายนโยบายการปราบปรามโควิดจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งออกและนักท่องเที่ยวของไทย

คาดมีมาตรการกระตุ้นและการผ่อนคลาย

🐉กลุ่มที่ได้ประโยชน์หลัก จากการผ่อนคลายนโยบายโควิด-19 เป็นศูนย์ของจีน และการเปิดประเทศอีกครั้ง

🎯กลุ่มท่องเที่ยว

AOT แนะ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 73.50 บาท

AAV แนะ “ขาย” ราคาเป้าหมาย 2.34 บาท

CENTEL แนะ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 48.00 บาท

ERW แนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 4.56 บาท

SPA แนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 8.16 บาท

EKH แนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 8.40 บาท

🎯กลุ่มอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์

SCGP แนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 58.00 บาท

JWD แนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 24.02 บาท