30 ต.ค. 2022 เวลา 09:58 • การตลาด
บทความในครั้งนี้ วัยรุ่นติดแบรนด์ได้ไปทำการสัมภาษณ์อาจารย์อิสรี ไพเราะ อาจารย์ประจำสาขาโฆษณาและสื่อสารการตลาด มหาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เกี่ยวกับแนวคิดในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก การสัมภาษณ์จะเป็นยังไงได้แนวคิดอะไรบ้าง เราไปอ่านบทสัมภาษณ์กันเลยย~
สวัสดีค่ะอาจารย์ เรามาเริ่มที่คำถามแรกกันเลยนะคะ
" อาจารย์คิดว่าแบรนด์กับวัยรุ่นเป็นเรื่องที่ไกลตัวกันมากไหมคะ ในความคิดของอาจารย์ "
:: ไม่ไกลตัวค่ะ เป็นเรื่องใกล้ตัวเลยเพราะว่าในการสื่อสารการตลาดอย่างแรกๆที่ต้องนึกถึงก็คือเรื่องของการที่เราทำแบรนด์ขึ้นมา แล้วแบรนด์จะเป็นตัวบ่งบอกเรื่องราวว่าแบรนด์นี้มีจุดแข็งยังไง มีเรื่องของPositioningยังไง แบรนด์นี้มีวิธีการทำการสื่อสารการตลาดยังไง ซึ่งวิธีเหล่านี้แบรนด์ก็จะถ่ายทอดไปถึงกลุ่มผู้บริโภค มันก็จะตรงตามกลุ่มเป้าหมายที่เราวางเอาไว้ ก็คือแบรนด์ไหน targetใด แบรนด์บางชนิดก็มีการสร้างสินค้าบางชนิดที่มีกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นเป้าหมายหลัก
" ถ้าเราอยากจะสร้างแบรนด์ ควรคำนึงถึงอะไรเป็นอันดับต้นๆบ้างหรอคะ "
:: วิธีการทำแบรนด์คือ ทำให้คนรู้ว่าแบรนด์นี้ดียังไง มีจุดแข็งยังไง มีการวางPositioningไว้ยังไง แล้วก็ถ่ายทอดออกมา ซึ่งขึ้นอยู่แคมเปญการสื่อสารการการตลาดหรือMoon and toneของแบรนด์นั้นๆค่ะ
" อาจารย์คิดว่ากลยุทธ์แบบแผนไหนที่จะสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นหรอคะ "
:: เราก็ต้องกลับไปดูการวางPositioningของเราว่าวางไว้แบบไหน แล้วจะทำให้เป็นที่รู้จักผ่านทางรูปแบบไหน อย่างเช่น แบรนด์มีMoon and toneยังไง อารมณ์ความรู้สึกที่สื่อถึงผู้บริโภค ว่าให้ผู้บริโภครู้สึกกับแบรนด์ แบรนด์นี้ยังไง สโลแกนเป็นยังไง แล้วกลยุทธ์ในแต่ละช่วงระยะเวลาเป็นยังไง
อย่างเช่นแคมเปญแต่ละช่วงปีจะต้องวางในลักษณะไหน เป็นเรื่องราวเดียวกัน จะทำให้ตัวแบรนด์สำเร็จหรือไม่สำเร็จ มันก็อยู่ที่ว่านักกลยุทธ์เป็นผู้วาง แต่ถ้าถามว่ากลยุทธ์อะไรที่เด่น ก็ต้องตอบว่า วิเคราะห์มายังไง มีพื้นฐานแบรนด์มายังไง อันนี้อาจารย์ก็บอกไม่ได้ว่าการสร้างแบรนด์ใช้กลยุทธ์อะไรดีที่สุด เพราะว่ามันต้องไปสอดคล้องกับเรื่องที่เราวิเคราะห์มาของแต่ละแบรนด์
" อาจารย์คิดว่าสิ่งสำคัญที่เราจะทำแบรนด์สู่ท้องตลาดแล้วให้เป็นที่น่าสนใจ มันควรจะเป็นไปไหนทิศทางไหนได้บ้างหรอคะ "
:: มันต้องมีเรื่องอะไรที่เป็นสิ่งใหม่ อย่างเช่น อยู่ดีๆไม่เคยมีคนต่อแถวซื้อโดนัทมาก่อน แล้วKrispy Kremeสร้างเรื่องยังไง ส่วนหนึ่งก็มีการจ้างคนมาต่อแถว อีกหนึ่งส่วนมีลูกค้าจริงมาซื้อ ก็เลยเกิดกระแสขึ้นมา หรือ เราบอกว่าตัวแบรนด์มีจุดเด่นอะไร โดยจุดเด่นจะเป็นสตอรี่สร้างเรื่องราวที่ทำให้กลายเป็นที่หนึ่งของSegmentationตัวเองยังไง จะเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงอยู่หลักๆ
" อาจารย์พอจะมีแบรนด์ที่อาจารย์ชื่นชอบ หรือใช้เป็นประจำบ้างไหมคะ "
:: ถ้าแบรนด์ที่อาจารย์ชื่นชอบก็จะเป็น “โดฟ แชมพู” เพราะว่าใช้แล้วผมสุขภาพดี ผมสวย หอมและไม่ร่วง แต่ถ้าเป็นแบรนด์ที่ไม่เคยใช้มาก่อน อาจารย์ก็ทำการศึกษาในSegmentationนั้นแล้วค่อยลองมันขึ้นมา มันก็ต้องขึ้นอยู่ว่าเหมาะกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหลักไหน แบรนด์จะสื่อสารยังไงให้ลูกค้าอยากทดลอง
" ถ้าเกิดอาจารย์อยากจะทำแบรนด์ของตัวเอง อาจารย์อยากจะถามแบรนด์เป็นสิ่งอะไร ประเภทแบบไหน "
:: จริงๆตอนนี้สินค้าในท้องตลาดมันแทบจะเต็ม ทุกSegmentationแทบจะเต็มหมดเลย ถ้าอาจารย์อยากจะทำอาจารย์จะมองหารูปแบบใหม่ๆที่นำมาผูกขาดกับสินค้าที่ซื้อง่ายขายคล่อง อยากเช่นถ้าอาจารย์อยากจะทำร้านเพรช เพรชร้านอาจารย์ต้องไม่ใช่เพรชที่ธรรมดาต้องเป็นเพรชที่มีความเป็นโชคลางหรือสายมูเข้าไปเกี่ยวข้อง เขาว่ากันว่าสินค้าที่ขายดีต้องมีการทำให้คนมีความเชื่อด้วย
อาจารย์ก็จะเอาเรื่องของสายมูเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือแม้กระทั่งตัวอย่างอย่างเพื่อนที่ทำงานเจ้าของอาจารย์ เขาก็ทำสินค้าออกมาซึ่งมันก็เป็นสินค้าSegmentation เช่น พีระมิดเสริมดวง อะไรประมาณงี้ค่ะ เนื่องจากภาวะคนเชื่อเรื่องโชคลาง เพราะว่าคนเชื่อว่าจะทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น มันก็มาจากการที่สินค้าในท้องตลาดเต็มทุกอย่างเลยต้องหาอะไรที่แตกต่าง อย่างตอนนี้ที่Appleเข้ามาเป็นอันดับหนึ่งในตลาดมือถือ ก็เพราะว่ามีการทำให้แอพพลิเคชั่นมีความครบครันในการใช้งาน
" อาจารย์คิดว่าการที่จะทำให้แบรนด์มีชื่อเสียงมันเป็นเรื่องยากไหมคะ "
:: ไม่ยากและไม่ง่าย เพราะนักการตลาดต้องศึกษาเรื่องแบรนด์ออกมาดีๆ อย่างเช่นที่วิเคราะห์การตลาดว่าCompanyเป็นยังไง Customerเป็นยังไง คู่แข่งเป็นยังไง ใครเป็นพันธมิตรที่เข้าร่วมกับเรา บริบทแวดล้อมต่างๆ ศึกษาเพื่อที่จะให้กลยุทธ์ของเรามันแหวกแนวซ้ำใคร มันจะทำให้โดนใจลูกค้าในSegmentationในกลุ่มเป้าหมายนั้นๆ เพราะฉะนั้นบอกไม่ได้ว่ายากหรือง่าย
" อาจารย์มีความคิดเห็นยังไงกับคนบางกลุ่มที่มองว่าแบรนด์ที่ไม่ได้ขึ้นห้างหรือเคาน์เตอร์แบรนด์ เป็นแบรนด์ตลาดล่าง "
:: การที่เป็นแบรนด์ตลาดล่างแล้วได้เงินไหม สินค้าในSegmentationในกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน อย่างเช่นยกตัวอย่างเครื่องสำอาง ลิปสติก macชิ้นละ500บาท แล้วขายได้1แท่ง แต่Sheeneแท่งละ100 แล้วขายได้20แท่ง กับmacที่ขายออกเพียงแค่แท่งเดียวแต่Sheeneขายได้20แท่ง อาจารย์กำลังจะบอกว่ามันไม่ได้คำนึงถึงว่ามันเป็นเคาน์เตอร์แบรนด์ที่ราคาแพง
บอกได้เลยว่าไม่ว่าสินค้าราคาแพงและสินค้าราคาถูกก็ไม่ใช่ว่าดีหรือไม่ดีเสมอไป เพราะฉะนั้นท้ายที่สุดของนักการตลาดทำออกมาแล้วได้เงินรึเปล่า เพราะว่าเราหวังให้ลูกค้าซื้อสินค้าของเรา สินค้าแต่ละชนิดที่เราทำออกสู่ท้องตลาด เราต้องใช้คำว่าคุ้มค่าหรือไม่คุ้มค่ากับผู้บริโภค
" สุดท้ายแล้วอาจารย์อยากฝากอะไรหรือแนะนำอะไรกับคนที่เริ่มศึกษาในการทำแบรนด์ไหมคะ "
ต้องศึกษาเยอะๆค่ะ ศึกษาในที่นี้คือศึกษาในเรื่องของตลาดที่มีอยู่ในตอนนี้ดีๆ ศึกษาในเรื่องของแนวโน้มอะไรที่จะทำให้เราเป็นผู้ครองตลาดในสินค้านั้นๆที่แตกต่างจากสินค้าที่มีอยู่
ก็จบไปแล้วนะคะสำหรับการสัมภาษณ์อาจารย์อิสรี ไพเราะในเรื่องของแนวความคิดในการสร้างแบรนด์ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับทุกคนนะคะ🙇‍♀️
สำหรับวันนี้วัยรุ่นติดแบรนด์ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความเรานะคะ ฝากกดติดตาม กดไลค์เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะ สำหรับวันนี้ขอบคุณค้ายบ🙇‍♀️🙏❤
โฆษณา