3 พ.ย. 2022 เวลา 03:00 • หนังสือ
ผมมีเรื่องจะสารภาพครับ
หลายปีที่ผ่านมา ผมเข้าใจมาเสมอว่า...
1.
คนที่รวยขึ้นมาด้วยลำแข้งตัวเอง
และประสบความสำเร็จแบบยั่งยืน
จะต้องเป็นคนที่ “เก่ง” มาก ๆ ในแง่ของ “ทักษะเชิงเทคนิค” (Techinical Skill) แน่เลย
เช่น
ต้องมีเทคนิคการยิงโฆษณาลึกลับ ที่คนอื่นไม่รู้
ต้องมีทักษะการขายขั้นเทพ ที่คู่แข่งทำตามไม่ได้
ต้องมีมันสมองอัจฉริยะ ฉลาดเป็นกรด
มีแทคติกและลูกล่อลูกชนแพรวพราวระดับโลก
2.
ทว่า หลังจากที่ผมได้รู้จักและสัมภาษณ์ผู้ที่ประสบความสำเร็จในระดับสูงหลายท่าน
(ระดับ 1,000 ล้านขึ้นไป และเป็นคนที่สำเร็จขึ้นมาด้วยตัวเองจริง ๆ นะครับ)
ด้วยคำถามเดียวกันว่า
“ปัจจัยที่ทำประสบความสำเร็จขึ้นมาได้ขนาดนี้ คืออะไรบ้าง” ?
ผมก็พบกับความ Surprise ระดับ 10 กะโหลก !
เพราะคำตอบที่ผมได้รับเนี่ย
ไม่มีใครพูดถึง “ทักษะเชิงเทคนิค” เลยแม้ซักคนเดียวครับ
3.
แต่สิ่งที่ทุกคนต่างพูดออกมาเป็นทำนองเดียวกัน
ว่ามันเป็นปัจจัยหลักสู่ความสำเร็จ
กลับกลายเป็นเรื่องของ “Mentality”
หรือ “สภาวะภายในใจ” ของเราครับ
เค้าไม่เคยบอกว่าที่สำเร็จได้ เพราะทำ Content เก่ง เพราะยิง Ads เก่ง
เพราะเชี่ยวชาญ Facebook, เพราะเป็นกูรู IG
หรือแม้แต่เพราะหาของมาขายเก่ง
แต่กลับเป็นเพราะ “รู้จักตัวเองเป็นอย่างดี”, ”มีวินัยสูง”
”คิดบวก”, ”เห็นคุณค่าในสิ่งที่มี” , “มีทัศนคติที่ดีต่อโลก“
ซึ่งมันเป็นเรื่องของการควบคุมสภาวะทางใจของตัวเองทั้งนั้นเลย
และเป็นสิ่งที่คนสำเร็จทำทุกวัน
แต่คนส่วนใหญ่มองข้ามครับ
4.
“แล้วมันเกี่ยวอะไร ?”
ลองคิดดูครับ ขึ้นชื่อว่างานหรือธุรกิจใด ๆ ย่อมมีความยาก
มีอุปสรรคนานาชนิดอยู่แล้ว
ต่อให้เก่งแค่ไหน คุณก็ต้องล้มเข้าซักวัน
ทีนี้ถ้าคุณมีสภาวะใจไม่ดี มีความสุขยาก
คุณก็อาจยอมแพ้ ยกธงขาวไปเลย ทั้ง ๆ ที่มีความสามารถ
แต่ถ้าคุณมีทัศนคติที่ดีต่อปัญหาในชีวิต
คุณจะไม่มัวมาอมทุกข์กับมัน
แต่จะเรียนรู้เป็นบทเรียน และลุกขึ้นมาเดินหน้าต่อ
ต่อให้ไม่มีความสามารถ พลังบวกในตัวเราก็จะผลักดันให้เรา
ขวนขวายเรียนรู้เพิ่มความสามารถตรงจุดนั้นได้แน่นอน
แน่นอนว่าความรู้ที่เป็นทักษะการทำงานก็สำคัญ
แต่ที่สำคัญกว่าคือสภาวะภายในใจของเรานี่แหละครับ
5.
บอกตรง ๆ ได้ยินแรก ๆ ผมนี่อึ้งไปเลย
เพราะมันผิดจากที่ผมเข้าใจมาตลอด
(ซึงใครก็ไม่รู้ มาฝังหัว) ว่า…
คนสำเร็จระดับสูงจะต้องมีเทคนิคระดับเทพ
หรือเป็นอัจฉริยะเท่านั้น
แต่กลับกลายเป็นเรื่องที่ดูพื้นฐานอย่างสภาวะภายใน (Mentality) ซะงั้น
นักธุรกิจท่านหนึ่งที่เป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังระดับประเทศ
และก่อตั้งมูลนิธิมากมาย
ได้ให้คำตอบผมว่า…
6.
“คุณปั๊ม มันไม่ได้เกี่ยวกับความเก่งเลยนะ
ความลับของความสำเร็จ มันอยู่ที่การรู้จักตัวเอง
คนส่วนใหญ่มัวแต่มองหาทางลัดที่ทำตามได้ง่าย ๆ
มองออกนอกตัวเอง พยายามรู้ทุกเรื่อง
แต่เรื่องที่รู้น้อยที่สุด กลับเป็นใจตัวเอง
เมื่อไม่รู้จักใจตัวเองดีพอ คุณจะขาดความแตกต่าง
เพราะคุณดึงเอกลักษณ์ตัวเองออกมาไม่ได้
และสุดท้าย คุณจะไม่มีทางสำเร็จแบบยั่งยืนได้
นี่แหละ เหตุผลว่าทำไมคนสำเร็จในโลกนี้ถึงมีน้อย”
พี่อีกท่านหนึ่งที่สร้าง Marketplace ระดับพันล้านในหลายประเทศทั่วโลก
ได้บอกกับผมว่า…
7.
“ทุกวันนี้ ความรู้ฟรีมันมีเยอะ อยากรู้อะไรก็ search หาได้หมดก็จริง
แต่กลายเป็นว่า..มันทำให้เราชอบเรียนกันเป็นจุด ๆ
โดยไม่ดูภาพใหญ่ของชีวิตก่อน
เรียนไปเรื่อย พยายามหาทางลัดตลอด
แต่กลับไม่เห็นผลอะไร สุดท้ายงงกับชีวิต ไปต่อไม่ถูก
จริง ๆ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ เข้าใจชีวิตตัวเองก่อน
มองภาพใหญ่ ออกแบบชีวิตตัวเองก่อน
แล้วค่อยออกแบบธุรกิจ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายนั้น
อย่าเสียเวลาไปเรียนรู้อะไรเยอะแยะ แต่ไม่ได้ใช้
แต่แค่รู้ ในสิ่งที่ “จำเป็นต้องรู้” แล้วโฟกัสกับมันก็พอ
อย่าให้สังคมมันมีอิทธิพลเหนือเรา
เปลี่ยนตัวตนข้างใน แล้วภายนอกจะตามมาเอง”
8.
พี่ที่ผมเคารพอีกท่านก็ได้กล่าวไว้ว่า
“จงพัฒนาตัวเองเป็นงานหลัก และทำงานหนักเป็นเรื่องรอง”
ชัดเจนว่าทุกคนให้ความสำคัญกับการเติบโตภายในมาก ๆ
(ไม่ได้มัวแต่มองหาทางลัดภายนอก)
ผมเองก็เคยพยายามมองหาทางลัดมาตลอด
และสุดท้าย ก็คว้าน้ำเหลว และสงสัยทุกครั้งว่าทำไม ๆ ๆ
แต่พอมาให้ความสำคัญกับ Mentality
ด้วยการอ่านหนังสือพัฒนาตัวเอง
แล้วตกผลึกสิ่งที่ได้มาลงมือทำต่อเนื่อง
ชีวิตดีขึ้นเยอะเลยครับ สำเร็จมากขึ้น
มีความสุขขึ้น ลองเอาไปทำกันดูนะครับ
9.
สรุป คือ
อย่าถามหาความลับ หรือทางลัดสู่ความสำเร็จเลยครับ
เพราะมันไม่มีจริง
มันมีแต่ทางที่ต้องอาศัยการบริหารสภาวะทางใจเราเท่านั้น
ขยัน มุ่งมั่น อดทน มีวินัย ล้มแล้วลุก
กัดไม่ปล่อย สู้ไม่ถอย เรียนรู้ตลอด
จนถึงวันที่คุณพบกับความสำเร็จเท่านั้นแหละ
ฟังเหมือนเบสิค แต่คำถามคือ …. คุณได้ทำมันรึยังล่ะ
และต้องทำจนติดเป็นนิสัยด้วยนะ
10.
สุดท้าย อยากฝากไว้ว่า
เพราะใจของเรา… จะนำไปสู่ความคิด
ความคิดของเรา... จะนำไปสู่การกระทำ
การกระทำบ่อย ๆ... จะนำไปสู่ความเคยชิน
ความเคยชิน... จะนำไปสู่นิสัย
และนิสัยนี่แหละ... ที่จะเป็นตัวกำหนดชีวิตเรา
1
เราจึงต้อง “เริ่มที่ใจ” ก่อนสิ่งอื่นใด
มาปรับจูน Mentality ของตัวเองเข้าสู่ความสำเร็จกันครับ
======================
ใครอยากเปลี่ยน 5 นาทีทุกเช้าของวัน
เป็นเวลาแห่งการพัฒนาตนเองจากภายใจ (Mentality) สู่ภายนอก
ผมและทีมงาน
ได้ตกผลึกหนังสือเจ๋ง ๆ ทั่วโลก ที่อ่านง่าย สีสันสวยงาม
ส่งตรงถึงไลน์คุณทุกเช้า
พร้อมโบนัสแบ่งปันประสบการณ์แบบไม่มีกั๊ก
ดูรายละเอียดการสมัครที่นี่ได้เลย
======================
ใครอ่านจบ -> พิมพ์ 1 หรือ แบ่งปันกันครับว่าคุณได้อะไรจากบทความนี้
ถ้าเห็นว่ามีประโยชน์ -> แชร์ได้เต็มที่ครับ
และถ้าชอบเรื่องราวแบบนี้ -> กดติดดาวได้เลยคร้าบ
#Pump
#ตกผลึกBooks
#วิศวกรContent
ติดตามเราได้ที่
Facebook Fanpage : ตกผลึก Books : ความรู้ท่วมหัว เอาตัวให้รอด
โฆษณา