Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Rishi’s Secrets
•
ติดตาม
31 ต.ค. 2022 เวลา 13:26 • ข่าวรอบโลก
พ่อตาเมียกับลูกเขย: ว่าด้วย Rishi Sunak: EP. 1
ฤาษี สุนักข์ ( ทำให้คิดถึงบทสวดมนต์ภาษาบาลี “ชยปริตร หรือมหาการุณิโกนาโถ” ในพระพุทธศาสนาที่ว่า: สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุประภาตัง สุหุฏฐิตัง…แปลว่าฤกษ์งามยามดี มีมงคล นามสกุลน่าจะมาจากคำว่า “ นักษัตร” คือกลุ่มดาวฤกษ์ 27 กลุ่ม ดังนั้น ”สุ นักษัตร” หรือ”สุ นักขัต” จึงแปลว่าฤกษ์ดีซึ่งใช้ในภาษาโหราศาสตร์อินเดีย ซึ่งน่าจะอ่านว่า “สุ นักชาสตรา” แบบสันสกฤต หรือเขียนเป็นไทยว่า ”สุ นักข์ “ แบบบาลี) เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษอย่างง่ายดายเกินไป ยิ่งกว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง ชนิดที่ว่าขนาดผีพุ่งไต้…ยังอาย…
1
ภรรยา อัคชาตา สุนักข์ นั่งเชียร์สามีอยู่กับมารดาและบิดาของฤษี https://www.nytimes.com/2022/10/28/world/europe/rishi-sunak-family-wealth.html?smid=nytcore-ios-share&referringSource=articleShare
ช่างมีโชคดียิ่งกว่าถูกล้อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งสมกับนามสกุลเสียนี่กระไร เพราะมาถูกทางถูกที่ถูกเวลาที่ประเทศอังกฤษกำลังมีวิกฤตทางการเมืองและเศรษฐกิจและถูกตาถูกใจพ่อตานักธุรกิจอภิมหาเศรษฐีล้านล้านบาทของนายสุนักข์ยิ่งนักมากกว่าผู้ใด
ตามกฎหมายอังกฤษ ทรัพย์สินของคู่สมรสไม่จำเป็นต้องแสดง ถึงแม้ว่าภรรยาถือหุ้นในอินโฟซิสถึง 800 ล้านเหรียญ หรือ 1% ของมูลค่าบริษัทอินโฟซิสที่บังกาลอร์ซึ่งมีมูลค่าตลาดถึง 80,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ สามล้านล้านบาท! จ้างคน 300,000 คนใน 50 ประเทศ!!!
แถมอินโฟร์ซิสยังเป็นคู่สัญญากับรัฐบาลอังกฤษมีมูลค่าถึง 120 ล้านเหรียญโดยครั้งล่าสุดทำสัญญา 8.6 ล้านเหรียญกับกระทรวงมหาดไทยที่ดูแลเรื่องข้อมูลการเข้ามาทำงานของชาวต่างด้าว (ซึ่งมีรัฐมนตรีสาวเชื้อสายอินเดียซึ่งเขียนจดหมายลาออกคว่ำรัฐบาลนางทรัสส์ ควบคุมอยู่)
น่าสนใจที่มีคนเชื้อสายอินเดียที่เป็นนักการเมืองอังกฤษถึงสองคนที่คว่ำรัฐบาลอังกฤษ คนหนึ่งคว่ำรัฐบาลผู้ชายนายบอริส จอห์นสัน อีกคนก็อยากเป็นนายกหญิงเชื้อสายอินเดียคนแรก และคว่ำรัฐบาลผู้หญิงอังกฤษยังไม่ทันนกกระจอกกินน้ำของนางลิซ ทรัสส์ โดยไม่คำนึงเลยว่าคนอื่นในคณะรัฐมนตรีจะเป็นจะตายอย่างไร…
การที่กระทรวงมหาดไทยของนักการเมืองเชื้อสายอินเดียปิดบังเรื่องสัญญาเรื่องนี้ซึ่งเซ็นไปแล้วเป็นปี แต่เพิ่งมาเปิดเผยเมื่อเดือน พฤษภาคมนี้เอง ทำให้เป็นที่สงสัยของเหล่าหนังสือพิมพ์และโซเชี่ยลยิ่งนัก
ยิ่งไปกว่านั้น คนไทยอย่างเราๆท่านๆดูกันก็มองหน้ากันว่า การเป็นนายกอังกฤษหวานหมูแฮมยิ่งนัก ง่ายเสียยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก ง่ายเสียยิ่งกว่าเป็นนายกอินเดียหรือนายกไทยเป็นไหนๆ
1
ไม่มีการตรวจสอบว่าบริษัทร่ำรวยมาจากไหนมีผลประโยชน์ซ่อนเร้นปิดบังขัดแย้งหรือขัดกันหรือไม่ บริษัทถูกปรับมาเท่าไร เป็นคดีความกับรัฐบาลอยู่หรือไม่ ต่างกันกับนายกไทยที่จะต้องถูกตรวจสอบตั้งแต่หัวจรดเท้า แถมมีผู้แอบรู้มาว่าอินโฟซิสยังคงบริษัทอยู่ในรัสเซียทำให้เกิดความไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาข้อมูลลับและความมั่นคงด้านข้อมูลคนในรัฐบาลโดยเฉพาะในหมู่วงศาคณาญาติของนาย ฤษี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีข่าวว่า นางลิซ ทรัสส์ ถูกแฮ็กโทรศัพท์โดยรัสเซียในสมัยเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ
ไม่มีการตรวจสอบว่านายสุนักข์ไม่ควรรับเงินเดือนนายกคือควรยกให้ NGO หรือยกให้หลวงแบบเดียวกับนายทรั้มป์ หรือควรบริจาคให้มูลนิธิคนจนคนด้อยโอกาสหรือไม่ หรือควรให้บริษัทอินโฟซิสมีส่วนช่วยสังคมอย่างไร ( ซึ่งมีมูลนิธิ อินโฟซิสอยู่แล้วแต่น่าจะทำได้มากกว่าเป็น CSR )
ไม่มีการตรวจสอบตัวนายสุนักข์เองว่ามีนโยบายเรื่องโลกสีเขียวและโลกร้อนอย่างไร หรือถนัดแต่ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยแพงเป็นนายแบ๊งค์โกลด์แมน ซาคส์
และถึงแม้จะเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษที่รวยที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่คนอังกฤษก็ดูว่าไม่ได้ตื่นเต้นตูมตามตาโตแบบคนอเมริกันที่เคยมีรู้สเวลท์ เคนเนดี้ หรือแม้กระทั่งทรั้มป์
แต่กลับน่าเป็นห่วงว่าสุนักข์และรัฐมนตรีเชื้อสายอินเดียคนอื่นๆจะเข้าใจคนอังกฤษคนไอร์แลนด์เหนือ คนเวลส์และคนสก็อตที่ยากจนลงทุกวันแค่ไหน และจะแก้ปัญหาความยากจนเหลื่อมล้ำและการที่คนต่างด้าวท้าวต่างแดนมาแย่งงานคนอังกฤษทำได้อย่างไร รวมทั้งต้องอธิบายว่าที่มีนโยบายกีดกันคนของสหภาพยุโรปอย่างนี้ จริงๆแล้วทำเพื่อป้องกันไม่ให้มาแข่งกับคนอินเดียในอังกฤษใช่หรือไม่?
นอกจากคนอังกฤษตั้งคำถามแล้วพรรคแรงงานเองก็ได้แสดงความไม่ไว้ใจนายสุนักข์…
บริษัทอินโฟซิสของพ่อตาของนาย ฤาษี สุนักข์ ซึ่งตั้งมาตั้งแต่ปี 1981 ได้เลิกจ้างนักเขียนโปรแกรม หรือวิศวกรซอพท์แวร์ แต่ใช้วิธีให้สหรัฐหรืออังกฤษออกวีซ่าที่อนุญาตให้นักเขียนโปรแกรมหรือ นักวิทยาศาสตร์ด้านข้อมูลอินเดียไปทำงานที่ประเทศสหรัฐ ( H1B ) และอังกฤษ ( ภายใต้เครือจักรภพ ) ได้ ซึ่งถูกสหรัฐปรับในปี 2013 เป็นเงิน 34 ล้านเหรียญ และถูกรัฐแคลิฟอร์เนียปรับเป็นเงิน 800,000 เหรียญข้อหาจ้างคนมีวีซ่าไม่ถูกต้อง 500 คนซึ่งอินโฟซิสปฏิเสธทุกข้อหา
นาย นารายณะ มูรธี เจ้าของและผู้ถือหุ้นใหญ่ อินโฟซิส https://www.nytimes.com/2022/10/28/world/europe/rishi-sunak-family-wealth.html?smid=nytcore-ios-share&referringSource=articleShare
อีกทั้งในการเจรจาเขตการค้าเสรีกับทุกประเทศ อินเดียมักจัดเต็มเรื่องการให้คนอินเดียมาทำงานในประเทศคู่เจรจาที่ต้องการให้อินเดียเปิดตลาดสินค้าและบริการให้ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่เป็นเงื่อนตายไม่สามารถต่อรองเป็นอื่นได้
ทำให้พรรคแรงงานอังกฤษและสหภาพจับจ้องเรื่องนี้ตาไม่กระพริบ เพราะอังกฤษกำลังเข้าสู่โหมดการเจรจาเปิดการค้าเสรีแบบทวิภาคีกับอินเดีย อันเห็นชัดว่าบริษัทอินโฟซิสจะได้ประโยชน์มหาศาลจากดีลนี้
ยิ่งกว่านั้นภรรยาซึ่งอ้างว่าไม่จำเป็นต้องเสียภาษีเพราะไม่ได้มีถิ่นพำนักในอังกฤษจึงไม่จำเป็นต้องเสียภาษี(ซึ่งภาษีอาจมีมากถึง 23 ล้านเหรียญ) ก็เป็นที่มุ่งร้ายหมายขวัญของเหล่านักการเมืองฝ่ายตรงกันข้าม
เพราะคุณเธอลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทาวน์เฮาส์ 5 ห้องนอนราคา 8 ล้านเหรียญ และอพาร์ตเม้นท์หนึ่งหลังที่เคนซิงตัน วิลล่าชนบทราคา 2.3 ล้านเหรียญที่ยอร์คเชียร์ ซึ่งกำลังสร้างสระว่ายน้ำราคา 460,000 เหรียญ และอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่เปิดเผยภายใต้ชื่อคนอื่นอีก รวมทั้ง แมนชั่นหรูและเพ้นท์เฮาส์ที่ซานต้าโมนิก้า แคลิฟอร์เนีย
ในปี2013 สองสามีภรรยาคู่นี้ตั้งบริษัทเฮดจ์ฟันด์ชื่อ คาตามารัน เวนเช่อร์ ยูเค โดยพ่อตาเป็นคนช่วยฝากเงินก่อตั้งให้จากบริษัทลงทุนในเครือหลายบริษัทของ อินโฟซิส ซึ่งในปี 2015 ก่อนได้รับเลือกตั้งเป็น สส ( ในเขตที่เป็นเซฟโซน ของ พรรคอนุรักษ์นิยม ) นายสุนักข์ได้โยกย้ายเงินลงทุนไปอยู่ในบัญชีภรรยาโดยไม่จำเป็นต้องเปิดเผยว่าได้ลงทุนในธุรกิจอะไรบ้างเป็นเงินเท่าใดและที่ใด เปิดเผยเพียงแต่ว่าได้โอนไปไว้ที่ภรรยาแล้วเท่านั้น
นอกจากนั้นนายสุนักข์ยังถือกรีนการ์ดของสหรัฐอเมริกาในช่วงที่เขาเป็นรัฐมนตรีคลังของอังกฤษ และยกเลิกไปชั่วคราวแต่ตราบใดที่ยังเสียภาษีให้ลุงแซมเขาก็สามารถกลับมาถือครองใหม่ได้
ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงที่เขาถือหุ้นร่วมกับครอบครัวของเขาที่อินเดียซึ่งทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ 1 พันล้านเหรียญกับอเมซอนซึ่งไม่ยอมเปิดเผยในช่วงที่เป็นรัฐมนตรีคลังและจนกระทั่งบัดนี้
ด้วยอายุเพียง 42 ปี สองสามีภรรยาและครอบครัวชาวฮินดูที่ฉลองเทศกาลทิวาลี รวมทั้งอินโฟซิส ยังมีอนาคตที่อาจทำเงินได้หลายหมื่นล้านเหรียญ และ สยายปีกไปอีกหลายประเทศ เป็นกลุ่ม Oligarch อินเดียที่ขึ้นครองราชย์ในสหราชอาณาจักร กลุ่มแรก และเพราะโยกย้ายเงินเข้าไปอยู่ใน ทรัสต์ที่ไม่เปิดเผย ( Blind Trust )โดยอาศัยช่องว่างทางกฎหมายของอังกฤษ และยังสามารถซุกหุ้นและทรัพย์สมบัติมากมายที่อินเดียหรือสหรัฐอเมริกาได้อีก
ในขณะที่ตอนนี้อังกฤษเองก็กำลังรับผลจากการที่ออกจากสหภาพยุโรปซึ่งมีกลุ่มนักการเมืองและนักธุรกิจอินเดียสนับสนุนยุยงส่งเสริมให้นายบอริส จอห์นสัน และนางลิซ ทรัสส์ มาอยู่ข้าง เบร็คซิท และบีบให้นางเธรีซ่า เมย์ต้องลาออกกลางคัน ทิ้งไว้แต่กองมรดกมหาศาลชองรัฐบาลพรรคอนุรักษ์นิยมเสียงข้างมากเหนือพรรคแรงงานถึง80 ที่นั่งอย่างท่วมท้นไปอีกสองปี จนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่
งานใหญ่ของนายฤาษี สุนักข์ จึงต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า เบร็คซิทเป็นสิ่งที่ดีกับเศรษฐกิจอังกฤษโดยต้องพยายามแก้ไขปัญหาคนจนและเศรษฐกิจตกต่ำของไอร์แลนด์เหนือ เวลส์ และ สก็อตแลนด์ให้ได้ด้วยการดึงการลงทุนอย่างหนักกระตุ้นให้มีการลงทุนฟื้นฟูห่วงโซ่บริษัทและการจ้างงานคนอังกฤษรวมทั้งต่อสายสะดือทางการเมืองผูกไอร์แลนด์เหนือเข้าไว้กับประเทศไอร์แลนด์ซึ่งคงยังอยู่กับอียูเป็นกรณีพิเศษ คือกลับมาใช้สูตรเดิมของนางเธรีซ่า เมย์ บางส่วน… มิฉะนั้นแล้ว…
คงเกิดโกลาหลในรัฐสภาแน่ถ้าสถานการณ์เศรษฐกิจไม่กระเตื้องซึ่งอาจลุกลามไปถึงราชบัลลังก์อังกฤษ ซึ่งกำลังมีปัญหาศึกสายเลือดอยู่แล้วและยังจะต้องมาเผชิญกับความเป็นไปได้ของการขอแยกตัวเป็นอิสระเป็นสาธารณรัฐของไอร์แลนด์เหนือซึ่งต้องการอยู่กับอียู และยังตามมาถึงพรรคอนุรักษ์นิยมซึ่งอาจแพ้เสียงเลือกตั้งแบบถล่มทลายในการเลือกตั้งครั้งหน้า หรือที่แย่ที่สุดอาจต้องเผชิญกับการยุบสภาถ้านายสุนักข์และพรรคพวกคุมบังเหียนรัฐบาลไม่อยู่และไม่สามารถดึงเสียงชาวบ้านธรรมดาสามัญและคนยากคนจนมาได้ในปีหน้านี้…
1
ครั้งนี้คงไม่มีอะไรดีกว่าการขอเอาใจช่วย…
และ…ขอลงท้ายจบลงด้วยคำพูดของนายฤาษี สุนักข์ (ซึ่ง คนไทยคิดว่ามีความหมายเป็นภาษาไทยเหมือนคำพ้องเสียงว่า”สุนัข” แต่ภาษาสันสกฤต เรียก สุนัข ว่า “ศุวาน”!หรือ ศุนัก ก็เรียก อ่านว่า” ชูนัก “) ซึ่งสัมภาษณ์เขาเมื่อจบการศึกษาจาก วิทยาลัยวินเชสเตอร์ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่แพงที่สุดแห่งหนึ่งในอังกฤษ ด้วยค่าเทอม 50,000 เหรียญ หรือ 2 ล้านบาทต่อปี โดยได้สัมภาษณ์เมื่อ 22 ปีที่แล้วเมื่อเขาอายุได้ยี่สิบปี … ซึ่งเขาได้พูดว่า…
“ I have friends who are aristocrats….who are upper class…but, well, not working class” …
ครั้งนี้เป็นโอกาสแล้วที่เขาจะได้มีเพื่อนที่มาจากชนชั้นแรงงานและกรรมกรเสียที
ขอขอบคุณ"RiSHi"
https://www.nytimes.com/2022/10/28/world/europe/rishi-sunak-family-wealth.html?smid=nytcore-ios-share&referringSource=highlightShare
https://www.bbc.com/news/uk-politics-63371276
https://www.jaisangma.com/buddhist-proverb-23/
บันทึก
3
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย