31 ต.ค. 2022 เวลา 16:38 • ประวัติศาสตร์
พระเจ้าฮัมมูราบี(Hammurabi) ค.ศ.1700 ปีก่อนคริสตกาล
กษัตริย์
พระเจ้าฮัมมูราบี (Hummurabi)
พระเจ้าฮัมมูราบี(Hammurabi) เป็นกษัตริย์ชาวอามอไรท์พระองค์ที่ 6 และทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกแห่งจักรวรรดิบาบิโลน ความยิ่งใหญ่และสำคัญที่ทำให้พระองค์กลายเป็นบุคคลสำคัญที่โลกต้องจดจำและเรียนรู้ นั้นคือ ผลงานด้านกฏหมายที่พระองค์กำหนดและจารึกขึ้นมาใช้
ในขณะเดียวกันความเป็นผู้ยิ่งใหญ่ด้านการทหารทำให้อาณาจักรบาบิโลนมีอำนาจมากที่สุดในแถบเมโสโปเตเมียโดยการเอาชนะพวกซูเมอร์และพวกอัคคาด
เชื่อกันว่าพระเจ้าฮัมมูราบีปกครองจักรวรรดิบาบิโลนตั้งแต่ปี ค.ศ.1792 ก่อนคริสตกาล โดยในช่วงต้นของการปกครองบ้านเมืองค่อนข้างมีความสงบสุข ทรงทำลายและขับไล่พวกอีลาไมท์และกองทัพอื่น ๆ ออกไปจากอาณาจักรได้อย่างเด็ดขาด
อีลาไมท์
ได้ทรงผนวกอาณาจักรลาร์ซาและอาณาจักรยามัตบาล ไว้ในอำนาจเป็นราชอาณาจักรเดียวโดยมีบาบิโลนเป็นศูนย์กลาง
ความเฟื่องฟูด้านอักษรศาสตร์ที่รุ่งเรืองตามความเจริญของอาณาจักรบาบิโลนทำให้กฎหมายต่าง ๆ ของกษัตริย์ได้รับการยอมรับไปตลอดชายฝั่งทะเลเมดิเตอเรเนียน
มีการค้นพบแผ่นจารึกดินเผาที่เป็นสนธิสัญญาจำนวนมากที่สอบอายุได้ว่าตรงกับสมัยของพระองค์และกษัตริย์ที่ครองราชย์ต่อมา รวมทั้งจดหมายที่มีการลงนามด้วย หนึ่งในจำนวนนั้นมีหนังสือคำสั่งให้เคลื่อนทหารจำนวน 240 นายจากอัสซีเรียและไซทัลลัม ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่าพวกอัสซีเรียเคยตกอยู่ใต้การปกครองของบาบิโลน
ซากกรุงบาบิโลน
พระเจ้าฮัมมูราบีแผ่อำนาจการปกครองของจักรวรรดิบาบิโลนครั้งแรกไปทางใต้ก่อนแล้วจึงขยายขอบเขตครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งหมดของเมโสโปเตเมีย ชัยชนะอย่างเด็ดขาดทางการทหารเกิดขึ้นค่อนข้างล่าช้าในรัชสมัยของพระองค์ และที่สำเร็จลงได้อาจเป็นเพราะการล่มสลายของอาณาจักรแชมชิ – เอดัด
ชื่อเสียงที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดของกษัตริย์ฮัมมูราบีได้แก่การประกาศใช้กฎหมายที่เรียกกันว่า ประมวลกฎหมายฮัมมูราบี (Code of Hammurabi) ที่เขียนลงบนสเตลาและติดตั้งไว้ในที่สาธารณะให้คนทั่วไปได้อ่าน
แม้จะมีคนรู้หนังสือไม่มากก็ตาม แผ่นสเตลานี้ถูกรื้อถอนจากการปล้นสะดมไปไว้ที่เมืองหลวงซูซาของเอลาไมท์ และถูกค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2444 ซึ่งปัจจุบันตั้งแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ลูฟในกรุงปารีส
รูปสลัก ส่วนบนคือแอสสิเรีย ส่วนล่างคือบาบิโลน
แม้บทลงโทษตามกฎหมายฮัมมูราบีจะดูว่าโหดเหี้ยมตามความคิดของคนสมัยใหม่ แต่การทำกฎหมายให้เป็นลายลักษณ์อักษรและพยายามใช้บังคับอย่างเป็นระบบกับทุกคน และการ “ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ไว้ก่อนจนกว่าจะได้รับการพิสูจน์ว่าผิด” ที่นับเป็นวิวัฒนาการทางอารยธรรมที่สำคัญของมนุษย์
ทฤษฎีใหม่บางทฤษฎีถือว่าการนับกฎหมายฮัมมูราบีให้มีสถานะเป็นประมวลกฎหมายอย่างปัจจุบันนั้นไม่ถูกต้องนัก เพราะความจริงน่าจะนับได้เพียงการเป็นอนุสรณ์ยกย่องว่ากษัตริย์ฮัมมูราบีเป็น “ตัวอย่างกษัตริย์ที่ทรงไว้ซึ่งความยุติธรรม” เท่านั้นเพราะในชีวิตของคนย่อมมีความผิดอย่างอื่นที่ไม่ใช่การลักขโมย
สวนลอยแห่งบาบิโลน
นอกจากกฎหมายแล้ว ฮัมมูราบียังได้ทรงทำให้บาบิโลนเป็นสถานที่สวยงามขึ้นโดยการปรับปรุงระบบชลประทาน ต่อมาในภายหลังจักรวรรดิบาบิโลนล่มสลายลง
โดยผู้ปกครองที่สืบต่ออำนาจจากกษัตริย์ฮัมมูราบีได้รับแรงกดดันทางอำนาจจากพวกฮิตไตท์ที่นำโดยกษัตริย์มิวซิลิสที่ 1 แต่โดยความเป็นจริงบาบิโลนถูกครอบครอง
โดยพวกแคสไซต์ที่นำโดยกษัตริย์อคุมคัครีน ซึ่งได้ปกครองบาบิโลนต่อมาอีก 400 ปีโดยที่ยังยอมรับและใช้ประมวลกฎหมายฮัมมูราบีสืบต่อมา
พระเจ้าฮัมมูราบี จึงถือได้ว่าเป็นบุคคลสำคัญคนแรก ของโลกที่เราควรรู้จักและเรียนรู้ ว่ากันว่าด้วยข้อกฏหมายที่พระองค์เขียนชึ้นมาในเวลานั้นนับเป็นปฐมบทของการประมวลกฏหมายขึ้นมาใช้อย่างต่อเนื่องและยุติธรรมเพิ่มมากยิ่งขึ้นจนถึงปัจจุบัน
ฝากกดถูกใจ กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ
Reference :
ประมวลกฎหมายฮัมมูราบี : https://cutt.ly/oNE2ws8
อารยธรรมเมโสโปเตเมีย : https://cutt.ly/KNE2puj

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา