1 พ.ย. 2022 เวลา 11:50 • หุ้น & เศรษฐกิจ
กรณีศึกษา Q House ถือหุ้น HomePro มูลค่ามากกว่าบริษัทตัวเอง
รู้หรือไม่ว่า บริษัท Quality Houses หรือ QH เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ถือหุ้นอยู่ใน HomePro 19.87% ตีเป็นมูลค่าราว 37,700 ล้านบาท
4
ในขณะที่ QH มีมูลค่าทั้งบริษัทเพียง 22,700 ล้านบาท เท่านั้น
จะเห็นได้ว่ามูลค่าที่ QH ถือหุ้นอยู่ใน HomePro กลับมากกว่ามูลค่าทั้งบริษัทของตัวเองเสียอีก ซึ่งการเปรียบเทียบแบบนี้ เราเรียกอีกอย่างว่า “Sum of the Parts” เป็นวิธีการประเมินมูลค่าธุรกิจรูปแบบหนึ่ง
คำถามคือ แล้วทำไม มันถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
Sum of the Parts หรือ SOTP เป็นส่วนประกอบในการประเมินมูลค่าหุ้นรูปแบบหนึ่ง สรุปเป็นคอนเซปต์สั้น ๆ ก็คือ
2
- ดูมูลค่าบริษัทลูกที่บริษัทแม่ถืออยู่
- นำมาเปรียบเทียบกับมูลค่าของบริษัทแม่
หากมูลค่าของบริษัทลูกที่ถืออยู่ มากกว่ามูลค่าของบริษัทแม่ จึงมีความเป็นไปได้ว่า เราสามารถลงทุนในบริษัทแม่ เพื่อถือครองบริษัทลูกทางอ้อมได้
5
หนึ่งในตัวอย่างของเรื่องนี้ ก็คือ Quality Houses หรือ QH ในตลาดหุ้นไทย ที่ถือหุ้น HomePro อยู่ 19.87%
ตีเป็นมูลค่า HomePro ใน QH เท่ากับ 37,700 ล้านบาท
มากกว่าทั้งบริษัท QH ที่มีมูลค่า 22,700 ล้านบาท
1
เห็นได้ชัดว่าถ้า QH ขายหุ้น HomePro ทั้งหมดออกมา ซึ่งจะถูกหักภาษีนิติบุคคลอีก 20% ก็จะได้เงินสดกลับมา 30,160 ล้านบาท ซึ่งจะมากกว่ามูลค่าทั้งกิจการของตัวเองอยู่ดี
1
แบบนี้หลายคนอาจคิดว่าหากเราเข้าไปลงทุนใน QH ตอนนี้ เราจะได้มูลค่าที่ซ่อนอยู่ของ HomePro แถมกิจการทั้งหมดของ QH ไปฟรี ๆ
3
แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราต้องดูมากกว่านั้น..
เพราะเราก็ต้องไปดูธุรกิจหลักของ QH ด้วยว่า
2
- บริษัทมีหนี้เท่าไร จ่ายดอกเบี้ยเท่าไร ซึ่งในกรณีนี้บริษัท QH ก็มีหนี้อยู่ในระดับหมื่นล้านบาทเลยทีเดียว
- บริษัททำกำไรได้สม่ำเสมอแค่ไหน ธุรกิจหลักอยู่ในช่วงขาลงหรือเปล่า
- แนวโน้มการเติบโตในอนาคต เป็นอย่างไร
2
ทั้งหมดนี้ จึงอาจเป็นส่วนสำคัญ ที่ตลาดมองว่า QH อาจจะยังมีความเสี่ยงที่ตัวธุรกิจหลักอยู่ จึงให้ส่วนลดมูลค่า
2
นอกเหนือจากการดูธุรกิจหลัก ก็จะมีมุมของการดูบริษัทลูกด้วยว่าทำธุรกิจอะไร เป็นหุ้นที่มีการเก็งกำไรสูงหรือไม่
1
เพราะมันอาจจะทำให้การประเมินแบบ Sum of the Parts ใช้งานอะไรไม่ได้เลย เช่น กรณีของ JAS ที่ถือหุ้นใน JTS
5
ในช่วงกลางปี มูลค่าของ JTS ปรับตัวขึ้นมาหลายเท่าตัว หลังจากบริษัทรายงานว่า จะเข้าไปทำธุรกิจคริปโทเคอร์เรนซี ในปีก่อนหน้า
3
ณ จุดสูงสุด JTS มีมูลค่า 4.2 แสนล้านบาท
โดย JAS ถือหุ้น JTS อยู่ 32.8% คิดเป็นมูลค่า 1.4 แสนล้านบาท ในขณะที่ JAS มีมูลค่าเพียง 2.1 หมื่นล้านบาท เท่านั้น
2
แต่ด้วยความที่ตลาดมองว่า JTS เป็นหุ้นที่มีการเก็งกำไรสูงเกินไป มีความผันผวนสูง ราคาหุ้นของ JAS จึงไม่ปรับตัวขึ้นตาม..
4
หนังสือ BRANDING THE NATION หนังสือที่เล่าถึงการสร้างแบรนด์ของแต่ละประเทศที่ทำให้ แต่ละประเทศเป็นแบบทุกวันนี้
1
เช่น ทำไมเยอรมนีเป็นประเทศแห่งรถยนต์ ทำไมฝรั่งเศสเป็นประเทศแห่งแบรนด์หรู สั่งซื้อเลยที่
โฆษณา