1 พ.ย. 2022 เวลา 17:59 • กีฬา
อาฒยา ฐิติกุล นักกอล์ฟหญิงหลายเลข 1 ของโลก ผู้ยังคงอ่อนน้อม พร้อมขยายความเป็นที่รักของผู้คนทั่วโลก
แม้ว่าในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา LPGA Tour ไม่ได้มีโปรแกรมการแข่งขัน ซึ่งสมาชิกบางส่วนที่มีบ้านอยู่ในละแวกเอเชียหรือใกล้เคียงได้มีโอกาสกลับไปเยี่ยมบ้านในขณะที่คนบ้านไกลก็ถือโอกาสนี้เดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนในพื้นที่ใกล้เคียง ก่อนที่จะถึงการแข่งขันรายการ TOTO Japan Classic ในสุดสัปดาห์นี้ แต่ระบบของ Rolex Women's World Golf Rankings ยังคงเดินหน้าทำงานการจัดอันดับโลกอย่างต่อเนื่อง
และแล้ว จากการคำนวณตามสูตรที่ถูกกำหนดไว้ ทำให้โลกใบนี้ได้ก่อกำเนิดนักกอล์ฟหญิงหมายเลข 1 คนใหม่ล่าสุดซึ่งนับเป็นคนที่ 16 ที่ได้ครองบัลลังค์สุดยอดของตารางนี้ นั่นคือ อาฒยา ฐิติกุล หรือที่หลายคนเรียกด้วยความรักและเอ็นดูว่า "น้องจีน" หรือคนส่วนใหญ่ที่เรียกตามสถานะว่า "โปรจีน" อีกทั้งยังมีชาวโลกรวมทั้งคนไทยส่วนหนึ่งเรียกเธอว่า "จีโน่" โปรกอล์ฟสาวน้อยวัย 19 ปีจากราชบุรี สาวน้อยมหัศจรรย์ ขวัญใจชาวไทย และกำลังก้าวเข้าสู่ความเป็นขวัญใจชาวโลก
ซึ่งด้วยวัยเพียง 19 ปี 8 เดือน 11 วัน ทำให้อาฒยา เป็นนักกอล์ฟหญิงคนที่ 2 ที่สามารถขึ้นเป็นมืออันดับที่ 1 โลกในขณะที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี โดยผู้ที่ทำได้เป็นคนแรกคือ Lydia Ko ต้นตำรับ สาวน้อยมหัศจรรย์ จากนิวซีแลนด์ ซึ่งทำได้ครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2015 ในขณะที่อายุ 17 ปี 9 เดือน 9 วัน และอายุ 18 ปี 6 เดือน 2 วัน ในการขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในเดือนตุลาคม 2015
อยากจะบอกว่า สำหรับผู้ที่ติดตามผลงานของ "น้องจีน" มาอย่างต่อเนื่องแล้ว จะไม่มีใครแปลกใจเลยที่มีวันนี้เกิดขึ้น เพราะทุกคนเชื่อในใจมานานแล้วว่าเธอจะขึ้นถึงอันดับที่ 1 โลกอย่างแน่นอนไม่ช้าก็เร็ว เพราะผลงานที่ผ่านมามีหลายอย่างบ่งชี้อย่างนั้น
ย้อนไปเมื่อปี 2560 เธอสามารถคว้าแชมป์รายการ Ladies European Thailand Championship พร้อมกับการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการกอล์ฟโลก ด้วยการเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดรวมทั้งหญิงทั้งชายที่ชนะการแข่งขันกอล์ฟระดับอาชีพ ด้วยวัยเพียง 14 ปี 4 เดือน 19 วัน และยังอยู่ในสถานะเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่น
ต่อจากนั้นอีก 2-3 เดือน เธอก็สามารถผ่านการตัดตัวเข้าไปเล่น 2 รอบสุดท้าย ในการเข้าร่วมแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์สตรี รายการ Amundi Evian Championship ซึ่งเป็นสถิติผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ผ่านการตัดตัวรายการนั้นอีกด้วย
เพื่อยืนยันว่าสิ่งที่ได้มาเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือเพราะโชคช่วย แต่ได้มาเพราะฝีมือของจริง เมื่อ น้องจีน โชว์ฟอร์มเก่งต่อเนื่อง เช่น การพิชิตแชมป์การแข่งขันรายการ Asia Pacific Women's Amateur ขณะที่เหลืออีก 1 สัปดาห์ก่อนอายุครบ 15 ปี ทำให้เธอได้เข้าร่วมแข่งขันรายการ HSBC Women's Championship ของ LPGA Tour ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งในรายการนั้นเธอจบด้วยอันดับที่ 8 ซึ่งก็เป็นสถิติผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมา ที่จบใน 10 อันดับแรกในรายการนั้น
ต่อมาเมื่ออายุ 16 ปี จีโน่ ก็คว้าแชมป์ Ladies European Thailand Championship ได้อีกเป็นครั้งที่ 2 คราวนี้มาดุกว่าการได้แชมป์ครั้งแรก จากการทิ้งห่าง Esther Heinseleit โปรสาวจากเยอรมันซึ่งเป็นรองแชมป์ถึง 5 สโตรก และในช่วงฤดูร้อนต่อจากนั้น เธอก็สามารถคว้าเหรียญชนะเลิศนักกอล์ฟสมัครเล่น Low Amater รายการ AIG Women's Open พร้อมทั้งก้าวขึ้นเป็นอันดับที่ 1 ในการจัดอันดับนักกอล์ฟสมัครเล่นระดับโลก
เมื่อทุกอย่างถึงพร้อมและสุกงอมในระดับสมัครเล่น น้องจีน จึงได้เทิร์นโปรเมื่อเดือนมกราคม 2564 ด้วยวัย 16 ปี และเมื่อย่างเข้าสู่เดือนแรกของอายุ 17 ในฐานะนักกอล์ฟอาชีพ เธอก็จบอันดับที่ 4 ในรายการ Women's New South Wales Open ที่ปรเทศออสเตรเลีย ก่อนที่ทุกอย่างจะหยุดชะงักเนื่องจากการระบาดของ โควิด 19 และเธอก็กลับบ้านที่ประเทศไทย ซึ่งในช่วงนั้นการแข่งขันภายในประเทศก็ยังพอมีอยู่บ้าง และเธอก็สามารถคว้าแชมป์ ไทยแลนด์แอลพีจีเอ ได้ถึง 5 รายการ และจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 1 ในตารางการทำเงิน
ปัญหาการระบาดของ โควิด 19 ทำให้เธอต้องอยู่ที่บ้านในประเทศไทย จนถึงเดือนพฤษภาคม 2564 เธอได้รับเชิญจากสปอนเซอร์เข้าร่วมการแข่งขัน Honda LPGA Thailand และจบด้วยการเป็นรองแชมป์ ตามหลัง เอรียา จุฑานุกาล ที่ได้แชมป์ในปีนั้นเพียงสโตรกเดียว พร้อมกับการผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทาง เป็นโอกาสดีที่ จีโน่ ได้มุ่งหน้าสู่ฤดูกาลของ Ladies European Tour
ในการเล่นที่ LET น้องจีนชนะ 4 รายการในปี 2564 พร้อมคว้าตำแหน่งผู้ทำเงินสูงสุด พร้อม Rookie of the Year และได้รับการโหวตจากเพื่อนร่วมทัวร์ให้เป็น Player of the Year พร้อมทำอันดับโลกขึ้นไปอยู่ที่ 18 ของ Rolex Rankings ที่สำคัญเหนืออื่นใดคือ เธอได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีจิตใจดีและมีความเอื้ออาทรมาก โดยการยืนยันจาก Lewine Mair ผู้ดูแลเรื่องกอล์ฟให้กับ Daily Telegraph และ Global Golf Post เรียกเธอว่า “มีความพิเศษเหนือกว่าธรรมดาทั้งในและนอกสนาม”
อาฒยาเคยเล่าเรื่องราวส่วนตัวกับ Golf Digest ไว้ว่า "ในครอบครัวของฉันไม่มีใครเล่นกอล์ฟ ในขณะที่ตอนเด็กๆ นั้นฉันป่วยบ่อยมาก แม้ไม่ถึงกับร้ายแรงแต่ก็มักจะเป็นหวัดอยู่ตลอดเวลา หมอจึงได้บอกกับคุณพ่อ มนตรี และแม่ ศิริวรรณ ว่าจะต้องให้ฉันเล่นกีฬา โดยเวลานั้นคุณพ่อให้สรรหากีฬามาให้เลือก 2 อย่างคือกอล์ฟและเทนนิส ซึ่งจากการดูรายละเอียดข้อดีข้อเสียและข้อจำกัด ประกอบกับฉันได้ดูการแข่งขันกอล์ฟทางโทรทัศน์แล้ว ฉันจึงเลือกกีฬากอล์ฟ เพราะเห็นว่าเทนนิสต้องวิ่งมากเกินไป
"คุณพ่อเป็นเจ้าของร้านล้างรถ คุณแม่เป็นช่วงเสริมสวย ซึ่งต้องจัดตารางเพื่อพาฉันไปเล่นกอล์ฟ และเมื่อได้เล่นแล้วฉันรู้สึกชอบกอล์ฟทันทีเพราะมันท้าทายและสนุก อีกทั้งยังมีเพื่อนเด็ก ๆ มาเล่นด้วยกันหลายคน จนเมื่ออายุได้ 10 ขวบฉันก็รู้แล้วว่าฉันรักการเล่นกอล์ฟและชอบการแข่งขัน ทั้งยังตระหนักด้วยว่าถ้าทำได้ดีพอ ฉันจะสามารถดูแลครอบครัวได้" อาฒยากล่าว
ถึงวันนี้ อาฒยาสามารถครองแชมป์ LPGA Tour แล้ว 2 รายการ และจบใน 10 อันดับแรกอีก 12 รายการ เธอมีแนวโน้มสูงมากที่จะครองตำแหน่งผู้เล่นหน้าใหม่แห่งปี Louise Suggs Rolex Rookie of the Year และยังอยู่ในเส้นทางแห่งการครองตำแหน่ง Rolex LPGA Player of the Year
แต่ ณ วันนี้ อาฒยา ฐิติกุล ได้ครองตำแหน่งนักกอล์ฟหญิงอันดับที่ 1 ของโลกแล้ว
"สิ่งหนึ่งที่เป็นฉันคือ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะเป็นอันดับที่ 1 อันดับที่ 2-3-4 อันดับที่ 100 หรือที่ 1000 ฉันก็ยังคงเป็นฉันคนเดิม" อาฒยากล่าวผ่านสื่อเมื่อคราวก่อนแข่งขันรายการ MEDIHEAL LPGA Championship เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา “ฉันต้องการเป็นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง อยากเล่นกอล์ฟด้วยความสนุก ไม่จริงจังเกินไป ไม่ต้องการที่จะคิดว่าตัวเองเป็นซุปเปอร์สตาร์ หรือเป็นที่ 1 ของโลก"
"ฉันไม่ได้คิดเกี่ยวกับการจัดอันดับมากนัก เพราะมันเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ฉันเล่นกอล์ฟเพราะอยากดูแลครอบครัว" เธอกล่าวไว้ระหว่างการแข่งขัน BMW Ladies Championship เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา "ฉันต้องการดูแลครอบครัวของฉัน สิ่งที่ฉันเป็นอยู่ในขณะนี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว เมื่อครอบครัวของฉันมีชีวิตที่ดีขึ้นแล้ว อันดับโลกก็ไม่ได้สำคัญกับฉันขนาดนั้น"
Reference
โฆษณา