3 พ.ย. 2022 เวลา 12:00 • การ์ตูน
ช่วงแนะนำอนิเมะ Lycoris Recoil
คุณชอบ John Wick ไหมครับ แล้วคุณชอบอะไรที่มันโมเอะ ๆ ไหม ถ้าคุณชอบทั้งสองอย่าง ผมขอแนะนำอนิเมะเรื่อง Lycoris Recoil
Lycoris Recoil
จริง ๆ ผมมีบทความเตรียมไว้สำหรับสัปดาห์นี้แล้ว แต่เมื่อวานเข้า Netflix เพื่อตาม Spy x Family และ MSG: The Witch from Mercury แล้วบังเอิญพบว่า Netflix เอา Lycoris Recoil มาลง ใจผมตื่นเต้นมากเพราะดีใจที่ประชาชนชาวอนิเมะ Netflix จะได้มีโอกาสดู Original Series เรื่องนี้ได้ง่าย ดังนั้น บทความอื่นขอเอาไว้ก่อน ผมขอพูดจาแนะนำให้ไปดูเรื่องนี้กัน
Lycoris Recoil เป็นอนิเมะต้นฉบับ นั่นคือ เป็นอนิเมะที่ไม่ได้ดัดแปลงมาจากมังงะหรือไลท์โนเวล เริ่มฉายเมื่อฤดูร้อนของปีนี้พร้อมกับอนิเมะเรื่องอื่น เช่น Call of the Night, Classroom of the Elite ซีซั่น 2 และ Rent a Girlfriend ซีซั่น 2 กับเรื่องอื่น ๆ แต่แม้ว่าจะฉายพร้อมกับอนิเมะชื่อดังเรื่องอื่น ๆ ผมกลับติดตาม Lycoris Recoil แบบติดหนึบมากกว่า
ด้วยความที่มันเป็นอนิเมะต้นฉบับ การตามอาทิตย์ต่ออาทิตย์สร้างความตื่นเต้นให้ผู้ชมอย่างมาก ถ้าเป็นอนิเมะดัดแปลงจากสื่อรูปแบบอื่น เราจะสามารถไปตามอ่านได้ก่อน เช่นอนิเมะยอดนิยมในฤดูกาลนี้ อย่าง Bleach ซีซั่นสุดท้าย Spy x Family ซีซั่น 1 Part 2 หรือ Chainsaw Man
การตามอาทิตย์ต่ออาทิตย์จึงมีความเสี่ยงอย่างมาก เพราะแม้ว่าเนื้อเรื่องและตัวละครจะปูพื้นมาอย่างดี แต่ตอนจบอาจจะล่มก็ได้ ซึ่งในฤดูกาลนี้มีเรื่อง MSG: The Witch from Mercury ซึ่งไม่ได้ดัดแปลงมาจากสื่อรูปแบบอื่นเหมือนกัน ทำให้ต้องตื่นเต้นตามทุกอาทิตย์ แต่สำหรับ Lycoris Recoil แล้ว ผมพบว่ามันคุ้มค่ามากที่ติดตามอย่างคาดหวังจนจบ และต้องการให้อนิเมะเรื่องนี้มีซีซั่นที่สองมาก
Mobile Suit Gundam: The Witch from Mercury
เรื่องย่อของ Lycoris Recoil คือ ให้จิตนาการภาพ John Wick แต่เป็นเด็กผู้หญิง ที่ญี่ปุ่นมีองค์กรชื่อ Lycoris ที่รวมเด็กผู้หญิงกำพร้ามาฝึกฝนเพื่อเป็นนักฆ่า องค์กรนี้มีเป้าหมายเมื่อรักษาความสงบสุขของประเทศด้วยการสืบค้น ติดตาม และสกัดกั้นไม่ให้การก่อการร้ายเกิดขึ้น มือสังหารจึงทำการเก็บเหล่าคนไม่ดีก่อนที่พวกเขาจะมีโอกาสทำอาชญากรรม ได้ความรู้สึกคล้าย ๆ ธีมของเรื่อง Psycho Pass
เรื่องราวมีการผสมระหว่างปริศนา ฉากบู๊ การใช้ชีวิตประจำวันของสาว ๆ อย่างลงตัว ตัวละครมีความเป็นมนุษย์มากทำให้ผู้ชมติดตามที่ตัวละครไปพร้อมกับเนื้อเรื่องและลุ้นกับภยันตรายที่รอพวกเธออยู่ ปริศนาที่เกิดขึ้นทำให้เราต้องประเด็นและคำถามว่าใครคือผู้ร้ายกันแน่ หรือ กระบวนการยุติธรรมลับ ๆ แบบศาลเตี้ยแบบ Batman มันถูกต้องอย่างนั้นหรือ ปัญหาทางศีลธรรม กับจุดยืนที่แตกต่างแต่เหมือนกันระหว่างตัวเอกกับตัวร้าย
แน่นอนว่าด้วยความเป็นอนิเมะช่างคิดของทางญี่ปุ่น ปัญหาทางปรัชญาเรื่องของจุดประสงค์หรือจุดมุ่งหมายของชีวิตย่อมมีเช่นกัน ซึ่งหากจะให้ผมพูดเรื่องนี้คงจะยาว และเนื้อความส่วนใหญ่โดยทั่วไปก็เคยเขียนเอาไว้ในบทความอื่น ๆ แล้ว
เหตุผลสำคัญที่ผมชอบอนิเมะเรื่องนี้มาก ๆ เป็นเพราะตัวละครต่าง ๆ ของเรื่อง โดยเฉพาะนางเอกทั้งสองคน จิซาโตะ กับ ทาคินะ จิซาโตะเป็นผู้หญิงที่สดใส เอนจอยชีวิต และมีไลฟ์สไตล์ไม่เหมือนมือสังหารคนอื่น ๆ คือใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นและ Balance กับชีวิตงานของเธอได้อย่างสนุกสนาน นอกจากนี้ เธอยังเป็นยอดนักฆ่า จนได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะในการฆ่า แม้ว่าจะมีพรสวรรค์แบบนั้น แต่เธอปฏิเสธที่จะใช้กระสุนจริง และใช้กระสุนยางแทน
จิซาโตะ (ซ้าย) นั่งแบบชิว ๆ กับทาคินะ (ขวา) นั่งแบบจริงจัง
ทาคินะเป็นทุกสิ่งที่ตรงกันข้ามกับจิซาโตะ การออกแบบตัวละครแสดงออกถึงความแตกต่างนั้น เธอไม่ได้สดใสแบบจิซาโตะ เป้าหมายของเธอก็ไม่เหมือนกับจิซาโตะ ทาคินะจงรักภักดีกับองค์กรมาก และต้องการที่จะเป็นอันดับหนึ่งขององค์กร เพื่อรับใช้องค์กร แต่เมื่อเนื้อเรื่องดำเนินต่อไป และเมื่อเธอพบเจอและรู้จักกับจิซาโตะ ทาคินะค่อย ๆ มีความเปลี่ยนแปลงแบบ Character Development
ในปีนี้เรามีผู้เข้าแข่งขัน Best Girl เป็นจำนวนมาก ต้นปีนี้เรามี มาริน คิตากาวะ จากเรื่อง My Dress-up Darling ซึ่งในตอนนั้นผมวางเดิมพันไว้กับเธอเลย แต่ในฤดูกาลเดียวกันเราเจอกับน้องอาเคบิจากเรื่อง Akebi’s Sailor Uniform แต่น้องยังเป็นน้อง และได้แต่คิดว่า ถ้ามีลูกสาวก็อยากจะเลี้ยงให้สดใสเหมือนกับน้อง
Marin Kitagawa จาก My Dress-up Darling
ฤดูใบไม้ผลิมีผู้เข้าแข่งขันเพิ่ม อย่างยอร์ จาก Spy x Family ตัวละครหญิงต่าง ๆ จากเรื่อง Kaguya-Sama (แม้ว่าจะเป็นซีซั่นต่อ แต่ตอนจบคากุยะน่าจะกลับขึ้นแท่นในการแข่งขันนี้ได้เหมือนกัน) เช่นเดียวกับโคมิ จาก Komi-san Can’t Communicate (ซึ่งส่วนตัวแล้วคิดว่าซีซั่นนี้ทำออกมาได้ไม่เท่ากับซีซั่นที่แล้ว) หรือ ชิกิโมริ จาก Shikimori’s not just a Cutie และเดซุมิจาก Love After World Domination
ในฤดุกาลเดียวกันกับ Lycorsi Recoil ผุ้เข้าแข่งขันอื่นมีมากมาย เช่น สาว ๆ แวมไพร์จาก Call of the Night สาว ๆ จาก Classroom of the Elite และ แฟนเช่าต่าง ๆ จาก Rent a Girl Friend แต่ผมให้ Best Girl ของฤดูกาลนี้เป็นจิซาโตะเท่านั้น แม้ว่าจะในเรื่องนี้ไม่มีพล็อตโรแมนติกเลย (จะบอกว่าไม่มีเลยก็คงไม่ถูก แต่เรียกว่ามันพิเศษก็แล้วกัน) เพราะผู้ชายในเรื่องแทบจะไม่มี แต่จิซาโตะมีเสน่ห์อย่างมาก
นอกจากความสดใสของจิซาโตะแล้ว คะแนนของผมพุ่งขึ้นเพราะเสียงพากษ์ของเธอ จิกะ อันไซ ผู้ที่พากษ์เสียงเรย์นะ ใน Sound! Euphonium ซึ่งจิซาโตะมีลักษณะนิสัยและน้ำเสียงตรงกันข้ามกับเรย์นะเลยด้วยซ้ำ แต่น้ำเสียงของจิซาโตะ วิธีการพูด และทำนองจังหวะการออกเสียงแสดงออกถึงความเป็นเด็กผู้หญิงวัยรุ่นอารมณ์ดีที่กำลังสนุกสนานกับชีวิตวัยเยาว์ได้อย่างดีเยี่ยม
จิกะ อันไซ (ภาพจาก: https://www.youtube.com/watch?v=oVk9pt9XxuM)
แม้ว่าในเรื่องจะมีการยิงกันเป็นว่าเล่น เนื้อเรื่องวนเวียนอยู่กับการสังหาร แต่ผมต้องขอชื่นชมการกำกับของชินโง อะดาจิ ที่ทำให้การสนทนาของเรื่องระหว่างตัวละครมีความลื่นไหลและสมจริง ในเรื่องอื่น ๆ เมื่อตัวละครพูดกัน ฝ่ายหนึ่งมักจะรอให้อีกฝ่ายพูดเสร็จก่อนแล้วจึงพูด แต่ในชีวิตจริง คนเราพูดทับกันไปมาอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเรื่องนี้มีลายละเอียดแบบนั้นด้วย อย่างไรก็ตาม ผมชอบเสียงของจิซาโตะมาก แม้ว่าฟังญี่ปุ่นไม่ออก แต่แค่ได้ยินเสียงก็รู้สึกสดใสแล้ว
นอกจากการพากษ์เสียงที่มีคุณภาพแล้ว กับเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม ฉากบู๊ของเรื่องได้เพิ่มไปอีกหนึ่งดาว เรื่องนี้ใช้อาวุธปืนเป็นส่วนใหญ่ และเป็นปืนธรรมดาทั่วไป (นอกจากจิซาโตะที่ใช้กระสุนยาง) ทำให้เรื่องของความสมจริงย่อมต้องมีส่วนสำคัญ และเรื่องนี้ทำออกมาได้อย่างดีมาก
จิซาโตะในฉากบู๊
อย่างที่ผมบอก เรื่องนี้มีความเป็น John Wick มาก ต่างกับอนิเมะแอ็กชั่นเรื่องอื่น ๆ ที่มักใช้อาวุธประหลาด ๆ เพื่อความน่าสนใจ เช่นดาบ หรือพลังเหนือมนุษย์ต่าง ๆ ลายละเอียดในการยิงกันทำได้ออกมาอย่างยอดเยี่ยม ตั้งแต่การตั้งท่าถือปืน การเล็ง ความแม่นยำ ซึ่งแม่นบางไม่แม่นบาง ระยะ การขยับของปืนก่อน ระหว่าง และหลังยิง เป็นอนิเมชั่นที่ลื่นไหลมาก เมื่อเนื้อเรื่องเข้าฉากบู๊เมื่อไหร่ ผมจะตื่นเต้นทุกครั้ง เป็นการตู่สู้ที่สบายตามาก
Lycoris Recoil มีทั่งหมด 13 ตอน ถือว่าไม่เยอะเลย แต่มันสามารถใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่ามาก ๆ เป็นการใช้งบประมาณทำอนิเมะได้อย่างไม่สิ้นเปลือง ไม่มีวินาทีไหนที่ใช้ไปอย่างสุรุ่ยสุร่าย ไม่มีฉากไหนที่ทำออกมาอย่างไร้เหตุผล เรื่องนี้ไม่ปล่อยโอกาสที่จะแสดงออกถึงนิสัยใจคอของตัวละคร การดำเนินเรื่องราวต่อไปข้างหน้า หรือเพื่อที่จะทำให้ผู้ชมสนใจในตัวละครหรือเนื้อเรื่องเลย
เอาเป็นว่า ผมชอบเรื่องนี้มาก แต่ก็ไม่ค่อยชอบแนะนำอนิเมะให้คนอื่นดูแบบง่าย ๆ (เพราะรู้ว่าการเริ่มดูสักเรื่องมันลำบากลำบน เรื่องล่าสุดที่แนะนำคนอื่นดูคือ Kaguya-sama) แต่ไหน ๆ เรื่องนี้ก็เอามาลง Netflix แล้ว มันทำให้หาดูได้ง่ายขึ้น มีแค่ 13 ตอน เนื้อเรื่องตามง่ายและดูง่าย สนุก คุ้มค่าทุกนาที โปรดักชั่นดี ไหน ๆ ก็มีแค่ 13 ตอน แล้วยังหาดูง่ายแล้ว หากยังไม่สนใจ ผมท้าให้ลองดู 3 ตอนแรก ถ้าไม่ติดใจ จะหยุดก็ไม่เสียหายครับ
จริง ๆ มีอนิเมะอีกเรื่องหนึ่งที่ผมอยากจะแนะนำ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่จะแนะนำกับใครได้ง่าย ๆ เพราะเรื่องนี้มันเก่าแล้ว แต่ก็กำลังจะเข้า Netflix ในเดือนนี้เหมือนกัน นั่นคือเรื่อง Kimi ni Todoke ซึ่งเป็นอนิเมะโรแมนติก แต่เอาไว้มันเข้าให้เรียบร้อยก่อน แล้ววันไหนผมอารมณ์ดี อาจจะมาเขียนแนะนำหรือเขียนความคิดเห็นส่วนตัวกับอนิเมะโรแมนติกเรื่องคลาสสิกเรื่องนี้
kimi ni Todoke
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Lycoris Recoil จะไม่ได้ติดอันดับอนิเมะที่ผมชอบมากที่สุด แต่ก็ติดรายชื่ออนิเมะที่ผมชอบ และอยากให้มีซีซั่นที่สองอย่างมาก มันไม่เหมือนอนิเมะเรื่องอื่น ๆ ที่เคยมีมา และทำได้เกินกว่าที่คาดหมายไว้มาก แนวคิดที่ไม่ใหม่เท่าไหร่นัก แต่สร้างออกมาดีเยี่ยม แบบ Solid A ทำให้ Concept แบบที่ให้หญิงสาวทำอาชีพนักฆ่ามีความสดใหม่ขึ้นมา และการนำเสนอแง่มุมต่าง ๆ ได้อย่างน่าสนใจโดยที่ไม่ได้ปาเข้าหน้าผู้ชมจัง ๆ
ต่อเรื่องนี้ แม้ว่าคนดูอาจจะไม่ได้อยากจะคิดอะไรมากกับข้อความและเนื้อหาของเรื่อง อยากดูสนุก ๆ ก็ทำได้เช่นกัน เพราะจุดเด่นของเรื่องนี้อยู่ที่ฉากบู๊ที่น่าตื่นเต้น และบทสนทนาลื่นไหลผนวกกับเสียงพากษ์ชั้นเลิศ ทำให้จะดูแบบจริงจังก็ได้ หรือจะดูฆ่าเวลาก็ดี ผมอวยมามากพอแล้ว เอาเป็นว่า ลองไปดูกันสักสามตอนนะครับ
Lycoris Recoil
โฆษณา