7 พ.ย. 2022 เวลา 03:45 • การศึกษา
รวย-จน ประเดี๋ยวเดียว
กลัวก็ต้องตาย ไม่กลัวก็ต้องตาย ทุกคนล้วนตายหมด และก็เคยตายกันมาแล้วทั้งนั้น
คุณครูไม่ใหญ่
ความตายไม่น่ากลัว
ความตายเป็นสิ่งที่เราจะต้องนำมาคิด คิดถึงความตายวันละนิด จิตแจ่มใส เพระจะทำให้เราดำเนินชีวิตได้อย่างถูกวัตถุประสงค์ ของการเกิดมาเป็นมนุษย์ จะไม่ประมาท จะสั่งสมบุญอยู่ตลอดเวลาเลย จะไม่คร่ำครวญเมื่อชีวิตลำเค็ญ เพราะรู้ว่าเราจะลำเค็ญอยู่ในโลกมนุษย์ไม่กี่ปีก็ตายแล้ว โดยเฉพาะอายุขัยเฉลี่ยมนุษยัในยุคนี้แค่ ๗๕ ปี
เพราะฉะนั้น ลำเค็ญก็ไม่นาน ยากจนก็ประเดี๋ยวเดียว อย่าไปทุกข์ใจเลย สั่งสมบุญกุศลกันไป เราไปเอาดีกันภพเบื้องหน้า ไปศึกษาเรื่องเหตุและผลที่เราเป็นอยู่ในปัจจุบัน เพราะเราประกอบเหตุในอดีตมา ผลที่เราเกิดมาลำบากยากจน อัตคัดเรื่องปัจจัย ๔ เป็นเพราะในอดีตเรามีความตระหนี่ หวงแหนเสียดายทรัพย์ ไม่สั่งสมบุญเอาไว้
เราอาจจะเป็นคนเคยรวย มีทรัพย์มาก และมีความคิดว่า เรารวยขึ้นมาเพราะหนึ่งสมองสองมือ ไม่ใช่เพราะอย่างอื่น ทำให้เรามีมานะทิฐิ และประมาทในชีวิต ใช้ทรัพย์นั้นเพื่อแสวงหาทรัพย์และแสวงหาความสุขอย่างเดียว
ใครจะมาชักชวนให้ทำความดี มาบอกบุญ ก็จะถือเนื้อถือตัวไม่ต้อนรับบ้าง ไม่ยอมรับคำแนะนำบ้าง แม้จะต้อนรับทางกายก็ตามนี่ก็เป็นสิ่งที่เราประกอบเหตุเอาไว้ เพราะมีความตระหนี่ เราจึงมาลำบากในชาตินี้ แต่ลำเค็ญประเดี๋ยวเดียวก็จะหมดเวลาของชีวิตแล้ว
เพราะฉะนั้นอดทนสั่งสมบุญกันไปเถอะนะลูกนะ ส่วนใครที่ชาตินี้ร่ำรวย ก็ให้คิดว่า รวยแค่ประเดี๋ยวเดี่ยวเช่นกัน จะรวยกี่แสนล้าน ก็รวยประเดี๋ยวเดียว เดี๋ยวก็ต้องตาย แล้วจะรวยมากแค่ไหนก็ตาม มีบ้านกี่พันหลังก็อยู่ได้ทีละหลัง มีเตียงกี่พันเตียงก็นอนได้ทีละเตียง มีห้องกี่พันห้องก็นอนได้ที่ละห้อง มีรถกี่พันคันก็นั่งได้ที่ละคัน มันที่ละคันเท่านั้นเอง
ที่เหลือก็ต้องเสียค่าบำรุงดูแลรักษากันไป จ่ายกันไป ได้ปลื้มหน่อยที่ว่า เรามีเหนือกว่าคนอื่น หรือเท่าคนอื่นเขา หรือคนอื่นเขาไม่มี มันก็แค่นั้น แล้วก็ตาย มัวแต่ปลื้ม ๆ กันอยู่อย่างนี้ หรือมัวสนุกเพลิดเพลิน เพราะเรามีทรัพย์เยอะ สนุกสนานเฮฮากันบ้าง หรือเอาทรัพย์ต่อทรัพย์ มัวแต่ทำมาหากินอย่างเดียว ไม่ได้สั่งสมบุญ
เพลินกับสเตทเม้นต์ ดูตัวเลขขึ้นไปหลักสองแสนกว่า ล้านสามแสน สี่แสนล้าน ปลื้มไม่กี่ทีก็ตายแล้ว ถ้าตายตอนนั้นแล้วมาเกิดใหม่เป็นมนุษย์ ไม่ได้อยู่ที่เดิมนะ สิ่งที่เราสร้างไว้ก็เอาไปไม่ได้ ตกเป็นของคนอื่น
เหมือนลูกขอทานคนหนึ่ง อดีตเป็นเศรษฐี แต่ตระหนี่ไม่สั่งสมบุญพอตายแล้ว ได้เข้าท้องคนขอทาน ขณะอยู่ในครรภ์มารดา แม่ไปขอทานที่ไหน ไม่มีใครให้เลย คลอดลูกออกมาพาไปขอทานที่ไหนก็อด ลำบาก
จนกระทั่งโตพอช่วยเหลือตัวเองได้ แม่ก็ส่งกะลาให้บอก ลูกเอ๋ย นี่คืออุปกรณ์ทำมาหากินของลูก ถือกะลาไปขอทานที่ไหน ก็โดนเขาไถ่ออกมาอีก แถมมีหน้าตาอัปลักษณ์เหมือนปีศาจคลุกฝุ่น แต่เพิ่งตายหยกๆ พอจะมีบุญระลึกชาติได้เดินผ่านบ้านเศรยฐี จำได้เอ๊ะ! นี่บ้านของเรานี่ นั่นลูกชายเรา
แต่ใครจะไปจำได้ เพราะอยู่ในยูนิฟอร์มใหม่ มาในมาดของลูกขอทาน ด้วยร่างกายที่อัปลักษณ์ประดุจปีศาจคลุกฝุ่นอย่างนั้น ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปใช้ทรัพย์ของตัวในอดีตชาติที่เคยรวย และสร้างมากับมือ
เราจะไปอ้างสิทธิ์ว่า ชาติที่ผ่านมา ฉันเคยอยู่บ้านนี้สร้างมากับมือ ไม่เชื่อไปดูขุมทรัพย์อะไรต่างๆ อย่างนั้นอย่างนี้สิ ก็ไม่มีใครเชื่อ มีแต่จะจับโยนออกจากบ้าน
เพราะฉะนั้น ก็แปลว่า รวยก็รวยไม่กี่ปีในเมืองมนุษย์ จึงควรนำทรัพย์ที่เราหามาได้มาเป็นบุญต่อบุญ สมบัติต่อสมบัติกันดีกว่า มาทำประโยชน์ให้เกิดขึ้นแก่ชาวโลก และมาสั่งสมบุญ
บุญจะได้เต็มที่ ต่อเมื่อทรัพย์นั้นได้มา ด้วยการประกอบสัมมาอาชีวะ การประกอบอาชีพเป็นเรื่องสำคัญนะ ไม่ใช่ว่าอาชีพอะไรก็ได้ขอให้ได้ปัจจัย ๔ มาเลี้ยงชีวิต จะไปเบียดเบียนใครก็ได้ อย่าคิดอย่างนั้น
เพราะว่ามันมีวิบากกรรมรองรับอยู่ มันเป็นกฎที่ไม่มีใครจะเอาชนะได้ ทุกคนภายในโลกนี้แม้แต่พระเจ้าจักรพรรดิปกครองโลก ก็ยังตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม เทวดาเหาะเหินเดินอากาศได้ ก็ยังตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมทั้งสิ้น
มนุษย์ยังขาดแคลนความรู้ตรงนี้ มามีความรู้ตรงนี้ต่อเมื่อพระสัมมาสัมพุทธจ้าบังเกิดขึ้นมาโปรด จึงเป็นความรู้สากลที่ทุกคนจะต้องศึกษาเอาไว้ เพื่อจะได้ดำเนินชีวิตได้ถูกต้อง
เพราะฉะนั้น จะรวยหรือจนก็ประเดี๋ยวเดียว อย่าชะล่าใจ สั่งสมบุญเอาไว้ให้ดี และบุญจะต้องได้มาจากทรัพย์ที่ประกอบสัมมาอาชีวะ แม้ทรัพย์น้อย แต่หัวใจเกินร้อยเลื่อมใสในพระรัตนตรัย ก็ได้บุญใหญ่ ไปสู่สุคติโลกสวรรค์ได้นี่ก็เป็นสิ่งที่ต้องศึกษากันเอาไว้
โอวาทคุณครูไม่ใหญ่
๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๘
2
จากหนังสือ สิ่งที่ต้องแสวงหา (หน้า ๘๓-๘๗)
ภาพจาก เพจการบ้าน
โฆษณา