3 พ.ย. 2022 เวลา 17:14 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ควรทำอย่างไร ถ้าหุ้นที่คุณถืออยู่ ตกอย่างผิดปกติในวันนั้นๆ
หลายคนคงเคยเจอ เหตุการณ์หุ้นที่ตัวเองถืออยู่ จู่ๆก็ตกอย่างรุนแรง แบบเกิน5% หรืออาจจะมากเป็น10% (ผู้เขียนเคยเจอทีเดียว1Floor ในวันเดียว สาเหตุเพราะโรงงานหุ้นนั้นๆมีเหตุไฟไหม้)
ถ้าเราเจอแบบนี้ควรทำอย่างไรดี จะขายทิ้งเลยตามระบบเทรด หรือจะรอดูข่าวก่อนดี ถ้าจากประสบการณ์ จะเจออยู่ไม่กี่แบบคือ
1.เกิดข่าวลือทางลบกับหุ้นเหล่านั้น เช่นงบที่จะออกมาไม่ดีเท่าที่ควร หรือมีการขายทิ้งของรายใหญ่
วิธีตรวจสอบข่าวพวกนี้ คือดูว่าหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันนั้น ลงเหมือนกันมั้ย หรือลงอยู่ตัวเดียวคือตัวที่เราถือนั้นแหละ
และส่วนใหญ่ในตลาดไทยถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ ในช่วงใกล้งบออก ส่วนใหญ่งบที่ออกมา มักจะเป็นไปในทิศทางของราคาหุ้นที่ขึ้นแรง หรือลงแรง -*-
ลองดูจากบทความนี้ https://www.siamquant.com/post-earning-announcement-drift-pead/
ลงแบบไม่มีข่าวประกาศอะไรเลย
2. มีข่าวเกิดขึ้นจริงตามพื้นฐาน ที่จะประกาศออกมาในวันนั้นๆ หรือก่อนหน้านั้น แต่พึ่งมามีผลลัพธ์ อย่างเร็วๆนี้ก็มาตรการยกเลิก LVT ทำให้อสังหาบ้านเดี่ยวลงพร้อมกัน
ส่วนใหญ่จะเป็นนโยบายจากทางรัฐ หรือเกิดเหตุการณ์แย่กับตัวบริษัทเองเลย
3.หาข่าวไม่ได้ จู่ๆก็ลงซะงั้น แล้วค่อยหาเหตุมาอธิบาย พร้อมข่าวลือต่างๆนานๆ
วิธีการแก้ปัญหาถ้าเจอแบบนี้ คือ
1. ซื้อแบบไหน ก็ขายแบบนั้น
- คือถ้าซื้อเพราะข่าว, ก็ต้องขายเพราะข่าว
- หรือถ้าซื้อเพราะระบบเทรด แล้วราคามันร่วงลง และระบบเทรดบอกให้ขาย ก็ต้องยอมขาย
ข้อดีคือรักษากระสุนเงินไว้ แต่ข้อเสียคืออาจเจอเหตุการณ์ stop hunter หรือทุบเพื่อให้ออกของ
2.ซื้อเพราะงบการเงิน+พื้นฐาน ก็ควรจะตรวจสอบข่าวเอง ไม่ใช่เอาแต่ไปโพสถามว่า หุ้นxxx ลงแรงวันนี้เพราะอะไรครับ?
ลองดูจากโพสของเพจนี้ดูครับ เขามีบทสรุปให้ ถ้าราคาที่ลง ไม่เกี่ยวกับพื้นฐาน ส่วนใหญ่ราคาจะเด้งกลับมามากขึ้นจากเดินใน30วัน เกิน10% ถ้าหุ้นนั้นๆพื้นฐานไม่แพงเกินไป และmomentum ยังดีอยู่
ตัวอย่างของสถิติ ว่าถ้าหุ้นลงแรงที่ไม่เกี่ยวกับงบการเงิน ส่วนใหญ่เวลาผ่านไป1เดือน หุ้นจะเด้งกลับมา ยกเว้นถ้าราคาหุ้นแพงเกินไป
รูปอธิบายถึงการฟื้นตัวของราคาหุ้น หลังเหตุการณ์หุ้นตกแรงๆแบบไม่เกี่ยวกับงบการเงิน
สรุปถ้าหุ้นตกแรงๆ แบบไม่มีข่าวอะไรเลย วิธีแก้คือ ทำตามระบบของคุณที่ทำการซื้อหุ้นตัวนั้นๆมา
อย่าให้นายตลาด หรือราคาหุ้นลงแรงจนทำให้การตัดสินใจเหวี่ยงไปตามนั้น
และจะให้ดีมากขึ้น คือควรมีแผนสำหรับหุ้นทุกตัว ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ราคาขึ้น ลง แรงๆ เราควรจะจัดการยังไง
เพื่อป้องกันอาการหัวร้อน หรือรนหน้างานนั่นเอง
โฆษณา