6 พ.ย. 2022 เวลา 00:56 • อาหาร
กิมจิ - กินอย่างไรดี?
ข่าวเรื่องผู้ผลิตกิมจิของเกาหลีใต้ประสบปัญหาร้ายแรง เนื่องจากการขาดแคลนผักกาดซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตกิมจิ สร้างความประหลาดใจให้กับคนทั่วไปไม่น้อย
ขอบคุณภาพประกอบจาก istockphoto
เหตุที่ประเทศเกาหลีขาดแคลนผักกาดเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นและฝนตกหนักมากขึ้น ทำให้พืชผักอย่างผักกาดเสียหาย ส่งผลให้อุปทานลดลง เเละในปีนี้ราคาผักกาดพุ่งขึ้นสองเท่าในเวลาไม่ถึง 3 เดือน ส่วนหนึ่งจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นเป็นระดับสูงสุดในรอบ 24 ปีในเดือนกรกฎาคม
“กิมจิ” เป็นอาหารประจำชาติเกาหลีที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีไปทั่วโลก
เวลาที่ไปรับประทานอาหารเกาหลี ของที่เขาจะนำมาเสิร์ฟก่อนก็คือ “กิมจิ” ซึ่งนอกจากกิมจิที่ทำจากผักกาดขาวแล้ว ก็ยังมีกิมจิจากผักอย่างอื่นเช่น หัวไชเท้า แตงกวา ต้นหอม ใบงา ฯลฯ ใส่ถ้วยเล็ก ๆ มาวางไว้เต็มโต๊ะ
วิธีทำกิมจิแบบดั้งเดิมเริ่มด้วยการเอาผักกาดขาวมาล้าง(ผักกาดขาวของเกาหลีต้นใหญ่และหนามากครับ) ล้างแล้วก็โรยเกลือไปทีละใบผัก เสร็จแล้วก็ตั้งพักไว้
จากนั้นมาทำแป้งพริก(paste)สำหรับพอกด้วยการต้มน้ำกับแป้งข้าวเจ้าหรือข้าวเหนียว จนได้คล้ายแป้งเปียกก็ใส่น้ำตาลเล็กน้อย เอากระเทียม ขิง และหอมใหญ่ ทั้งหมดสับละเอียดใส่ลงไป ใส่น้ำปลา กุ้งตัวเล็กๆดอง(ของเกาหลี)สับละเอียด เสร็จแล้วก็ใส่พริกแห้ง(ซึ่งทำเป็นผงแล้ว)ตามชอบลงไป กวนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
เอาใบผักกาดขาวมาล้างน้ำสะอาดให้หมดเกลือที่ทาไว้ แล้วก็เอามาทาด้วยแป้งเปียกพริกไปทีละใบ บางคนเขาก็จะใส่ส่วนผสมอื่นเช่น แครอท ต้นหอม เพื่อให้กิมจิมีกลิ่นและรสที่น่ารับประทานขึ้น เสร็จแล้วก็เอาใส่ไหหรือโอ่งแบบดั้งเดิมที่เรียกว่า Onggi แล้วเอาไปฝังดิน
 
ตามปกติ ผักสดจะกลายเป็นผักดองใช้เวลา 2 ถึง 4 วัน ถ้าจะให้ดีก็จะต้อง 20 วันขึ้นไป แต่บางคนก็จะหมักกิมจิเป็นเดือนเพื่อให้มีรสอร่อยยิ่งขึ้น สมัยใหม่ก็ดองในขวดแก้ว ไม่ต้องเอาไปขุดดินฝังไม่เปลืองแรง
ขอบคุณภาพประกอบจาก  KoreaTravelEasy
ที่กล่าวมานี้ทั้งหมดเป็นวิธีการคร่าว ๆ ถึงการทำกิมจิแบบดั้งเดิม และสูตรในการทำกิมจิก็มีหลายสูตร ผักที่ใช้ทําก็มีมากหลายหลายชนิดดังกล่าวมาแล้ว ในสมัยโบราณ พอปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม อากาศเริ่มหนาวเย็น คนในหมู่บ้านมีกี่คนก็จะถูกเรียกมาล้อมวงทำกิมจิเก็บไว้กินในฤดูหนาว ซึ่งเขาเรียกวิธีสามัคคีทำกิมจิแบบนี้ว่า Kimjang
กิจกรรมการทำกิมจิรวมหมู่ที่เรียกว่า Kimjang นี้ องค์การ UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม(Intangible Cultural Heritage of Humanity)ของโลกในปี 2556
 
แต่ถึงสมัยนี้ ก็ไม่ต้องกะเกณฑ์สมาชิกในหมู่บ้านมาทำกิมจิอีกแต่อย่างใดเพราะไปซื้อเอาแบบสำเร็จรูปคงจะง่ายกว่ามาก
ขอบคุณภาพประกอบจาก theepochtimes
คราวนี้พอได้กิมจิมาแล้ว วิธีการที่จะเอามากินก็มีหลากหลายเลยทีเดียว
เริ่มต้นก็เอากินเป็นเครื่องเคียง อาหารจานหลักจะเป็นอะไรก็ได้ เป็นข้าว เป็นบะหมี่ เป็นเนื้อย่าง หมูย่าง ก็กินแกล้มไป รสชาติเผ็ด ๆ เปรี้ยว ๆ ตัดความเลี่ยนความมันของอาหารดีนัก
หรือเอาไปทำเป็นอาหารอย่างเช่น เกี๊ยวซ่าใส่กิมจิ คนเกาหลีเขาเรียกว่า Kimchi Mandu
หรือเอาไปทำซุปกิมจิที่เรียกว่า Kimchi Jjigae ใส่หมูสามชั้นกับเต้าหู้ขาว น้ำซุปสีแดง ๆ ที่เราคุ้นเคยกันดี รสชาติเผ็ดร้อน
หรือเอาไปปรุงข้าวผัดที่เรียกว่า Kimchi Bokkeumbap แต่เขาไม่ได้ใส่ตัวผักกิมจิลงไปผัดด้วยนะครับ เขาใส่แต่น้ำผักที่ดองกิมจิ แล้วใส่เบคอน ได้ข้าวผัดสีส้มชมพู หน้าตาน่ากิน กลิ่นหอมและก็อร่อย จะให้ดีทอดไข่ดาวโปะไปอีกสักใบ ก็ครบเครื่องเรื่องข้าวผัดเลยครับ
นี่เป็นเพียงตัวอย่างนะครับ ยังความจริงแล้วยังเอากิมจิไปทำอาหารได้อีกมากมายหลายชนิด เช่น ผัดกับอูด้ง เอาไปต้มกับไก่ ฯลฯ เรียกว่า กิมจิเป็นของกินที่ขาดไม่ได้ของคนเกาหลีเลยจริง ๆ
ขอบคุณภาพประกอบจาก tripadvisor
ส่วนประโยชน์ของกิมจิก็มีมากมายหลายประการ ในเว็บไซต์ของ KRUA.CO ได้กล่าวถึงประโยชน์ของกิมจิไว้ว่า
(1) เป็นตัวช่วยการทำงานของระบบย่อยอาหาร โพรไบโอติกส์และแบคทีเรียแลคโตบาซิลลัสในกิมจิช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
(2) เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ในของหมักดองจะมีแบคทีเรียแลคโตบาซิลลัสที่ดีต่อสุขภาพ ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างเต็มที่
 
(3) ดีต่อหัวใจ เพราะพบว่าคนที่กินกิมจิ มีระดับน้ำตาลในเลือด และระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงโรคหัวใจลดลงอย่างชัดเจน
(4) ลดอาการอักเสบ โพรไบโอติกส์ในกิมจิสามารถต่อต้านอาการอักเสบที่จะเกิดขึ้นแก่อวัยวะหรือการทำงานของระบบภายในได้
(5) ควบคุมน้ำหนัก กิมจิทำจากผักที่มีแคลอรี่และน้ำตาลน้อย แต่อุดมด้วยวิตามินและกากใยจำนวนมาก จึงช่วยระบบขับถ่ายและช่วยควบคุมน้ำหนักตัว
1
และ (6) ผิวสวยหน้าใส กรดแลคติกในกิมจิช่วยชะลอไม่ให้ผิวพรรณร่วงโรยง่าย รวมกับวิตามินซีที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน จึงทำให้ผิวกระชับ เต่งตึง อีกทั้งสารต้านอนุมูลอิสระยังช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวไม่ให้เสื่อมเร็ว ป้องกันการอักเสบในร่างกาย ทำให้ผิวแก่ช้า
ว่ากันว่ากิมจิเป็นคลิปเคล็ดลับความมีหุ่นดีของดาราสาวเกาหลีหลายคน หรืออย่าง Lisa นักร้องสาวชาวไทยแห่งวง Blackpink ที่โด่งดังของเกาหลีก็เล่าว่า แต่ก่อนเธอไม่ค่อยชอบกิมจิมากนัก จนกระทั่งวันหนึ่งเธอกลับจากฝึกซ้อมตอนดึกกับ Miyeon แห่งวง (G)I-dle (สมัยที่ยังเป็น trainee กันอยู่) กลับมาถึงหอด้วยความหิว เปิดตู้เย็นก็มีแต่กิมจิอยู่กล่องเดียว ทั้งสองคนก็เลยเปิดกิมจิทานกับบะหมี่สำเร็จรูปด้วยความเอร็ดอร่อย ทำให้เธอชอบกิมจิตั้งแต่นั้นมา มารู้เอาภายหลังว่ากิมจิกล่องนั้นเป็นฝีมือของคุณย่าของ Miyeon เอง
ขอบคุณภาพประกอบจาก BLACKPINK LISA SG
ข้างฝ่ายพระเอกรูปหล่อ Park Seo Joon จากซีรี่ส์ดังหลายเรื่องเช่น Itaewon Class, What’s wrong? with Secretary Kim และอื่นๆ ก็ถูกนำมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ของกิมจิสำเร็จรูปยี่ห้อหนึ่ง
มาถึงสมัยนี้ ก็มีการเอากิมจิไปรับประทานกับอาหารต่างชาติเช่น เอาไปกินกับเบอร์เกอร์ เอาไปกินกับชีส ก็อร่อยไปอีกแบบ
Gourmet Story ยังไม่เคยเห็นใครเอากิมจิไปกินกับอาหารไทย แต่คิดดูแล้ว เอาไปกินแกล้มข้าวเหนียวไก่ย่าง ก็ดูน่าจะเข้ากันนะครับ
แต่สำหรับ Gourmet Story เองแล้ว ก็เอามากินอย่างง่าย ๆ กับ “หมูกรอบ” ความอร่อยของหนังหมูที่กรอบ ผสานกับรสชาติเค็ม ๆ ของเครื่องปรุงที่หมักเข้าเนื้อหมูและชั้นไขมันที่นุ่มชุ่มฉ่ำ แกล้มด้วยกิมจิที่มีรสชาติเผ็ด เปรี้ยว อร่อยขนาดเอาสเต็กมาแลกก็ไม่ยอมเลยครับ
เรื่องตอนที่แล้ว "อะไร ๆ ก็ใส่เห็ดทรัฟเฟิล”
อ่านได้ที่
Gourmet Story - เรื่องราวเกี่ยวกับอาหารที่เป็นเกร็ดความรู้ เล่าสู่กันฟัง เพิ่มความอร่อยของอาหารที่เรารับประทาน ติดตามได้ที่
โฆษณา