เพลงนี้ขึ้นสูงสุดใน Chart ที่อเมริกาในอันดับ 3 เป็นรองแค่ End of the Road ของ Boyz II Men ที่มาอันดับ 1 และ Baby-Baby-Baby ของ TLC ที่อยู่ในอันดับ 2
MV มันถูกจดจำเพราะเจ้าสาวที่สวยหยาดเยิ้ม, เจ้าบ่าวก็เป็นร็อคสตาร์ผมยาว, ชุดแต่งงานสวยๆ, งานแต่งงานที่ฝนเทลงมา, แขกที่มาร่วมงานกระโจนพุ่งใส่เค็กแต่งงานจนพังชิบหายวายป่วง, ลีลาการ Solo กีต้าร์ของ Slash , โลงศพเปิดฝาโชว์ศพเจ้าสาว, งานศพที่ฝนกระหน่ำ ฯลฯ ทั้งหมดนี้ถูกถ่ายทอดออกมาในสไตล์ Baroque Rock opera โดย Axl Rose เล่นเป็นเจ้าบ่าว และ Stephanie Seymour ซุปเปอร์โมเดลเล่นเป็นเจ้าสาว
ทั้งหลายทั้งปวงนี้เกิดขึ้นเมื่อ 30 ปีที่แล้วในยุคที่ยังไม่มี social media ให้เล่าสู่กันฟัง แต่สมัยนี้มันมีช่องทางในการสื่อสาร ผู้กำกับ Andy Morahan เลยเฉลยว่าเขาสร้าง Storyboard จาก Without You ที่เป็นเรื่องสั้นของ Del James
ตอนที่ Guns N’ Roses ได้ตัว Andy มาทำ MV นั้นเขาไม่ใช่คนโนเนม เขาดังแล้วนะครับเพราะเขาร่วมงานกับ George Michael และ Elton John มาแล้ว
Axl ไปเห็น MV เพลง Father Figure ของ George Michael ที่เป็นเรื่อง romance ของนางแบบ กับคนขับแท็กซี่แล้วชอบมากเลยอยากได้งานประมาณนี้ โดยที่ตัวเขาอยากเล่นเป็นพระเอกเอง อยากมีโมเม้นท์คั่วนางแบบเหมือน George Michael ใน Father Figure
พอได้ตัวผู้กำกับ Andy มาก็ลงตัวเลย
Andy ใช้เงินถึง 1.5 ล้านเหรียญทำ MV นี้ และครองสถิติงานสร้าง MV ที่แพงที่สุดในโลกอยู่ยาวนาน แถมในช่วงเวลาใกล้เคียงกันนั้น วง Nirvana มีเพลง Smells Like Teen Spirit แล้ว Nirvana ทำ MV ด้วยเงินไม่มากนัก MV ของทั้ง 2 เพลงนี้เลยถูกนำไปเปรียบเทียบกัน และแน่นอนว่าของ Guns N’ Roses โดนแซะว่า "ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ"
November Rain กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ธุรกิจจัดงานแต่งงาน, ธุรกิจเทียนหอม หรือแม้กระทั่ง Sofia Coppola ผู้กำกับหนังคนดังยังปลื้ม November Rain มากจนติดต่อขอดู storyboard จากผู้กำกับ Andy แถม Sofia ยังเป็นคนแนะนำให้ Donald Trump อดีตผู้นำสหรัฐดู MV นี้อีกต่างหาก
Sofia บอกว่า "November Rain โคตรจะมหากาพย์ โคตรจะเท่ so epic and glamorous” พอ Trump ได้ยินแบบนั้น Trump เลยไปบอกให้ จนท.ทำเนียบขาวดู MV นี้ตามคำเชียร์ของ Sofia
ร่วมงานกับ Guns N’ Roses นี่ต้องมีความอดทนนะครับเพราะพวกร็อคสตาร์มันเป็นพวกคนกลางคืน Andy บอกว่าทำ MV นี่หมูมาก แต่การบริหารจัดการชีวิตของพวกร็อคสตาร์ต่างหากที่เป็นงานโคตรหิน
"แม่งเป็นแวมไพร์โดนแสงแดดกันไม่ได้รึไง? พอบอกว่าจะถ่ายกันตอนกลางวันนี่งอแงกันทั้งวง ต่อรองจะขอเข้ากล้องกันตอนกลางคืนอย่างเดียว ขนาดใน storyboard บอกว่า Daytime แต่กว่า Guns N’ Roses จะเสด็จมากองถ่ายก็ต้องรอให้พระอาทิตย์ตกดินก่อนทุกที (ฮา) They wouldn’t turn up till after sunset.”
หลายๆครั้งที่ผู้กำกับ Andy ต้องใช้วิธีเจ้าเล่ห์ด้วยการถ่ายทำตอนกลางคืนแล้วพักกองถ่าย ถ่วงเวลา ไม่ยอมทำอะไรแบบต่อเนื่อง เอาล่อเอาเถิดยื้อเวลาให้ถึงเช้าเพื่อที่จะได้ถ่ายฉากกลางวัน แม้จะทำแบบนี้แต่ก็ยังไม่ได้ 100% ตามแผน เพราะบางฉาก เช่น ฉากงานศพ Andy ต้องจำใจถ่าย shot ที่ Axl ยืนอยู่ที่หลุมศพของ Stephanie ในตอนกลางคืนทั้งๆที่ตอนจัดงานศพจัดตอนกลางวัน
Axl เองก็เป็นคนมีหัวครีเอทีฟใช้ได้ เขาเป็นคนเสนอว่าอยากได้ฉากงานเลี้ยงแต่งงานที่บรรยากาศออกไปทาง Italy ผู้กำกับ Andy เลยไปใช้เรฟเฟอร์เร็นซ์จากหนังเรื่อง Godfather ซะเลย ไปถ่ายกันที่ Villa del Sol d’Oro วิลล่าเก่าแก่ในยุค 1920s แบบ Tuscan-style villa ที่ Sierra Madre