3 ธ.ค. 2022 เวลา 02:02 • ประวัติศาสตร์
ปีศาจประจำบาป 7 ประการ
แอสโมเดียส (Asmodeus) = ราคะ (Lust)
คือราชาปีศาจแห่งนรกขุมที่เก้า เป็นเจ้าแห่งตัณหาราคะทั้งปวง ตามความเชื่อทางศาสนาคริสต์กล่าวว่า แต่เดิม Asmodeus คือเทพชั้นเซราฟีม (Serapim) หรือเซราฟ (Seraph) คณะเทพแห่งแสงสว่าง เป็นหนึ่งในผู้นำทั้ง 7 ในการทรยศต่อพระเจ้า
เเอสโมเดียสถือกำเนิดมาจาก Sucubus ตนหนึ่ง (ซัคคิวบัสเพศหญิง ปีศาจชนิดหนึ่งที่ชอบเข้าไปสมสู่กับมนุษย์ในความฝัน) ที่ชื่อว่า อากราท แบท มาลัท(Agrat Bat Mahlat) เธอได้ใช้มนต์ปีศาจล่อลวง กษัตริย์ เดวิด ให้มาสมสู่กันในความฝัน จนกำเนิดเอสโมเดียสขึ้นมา
รูปลักษณ์ภายนอก เหมือนสัตว์ประหลาดสามหัว มีตัวเป็นมนุษย์ หัวที่หนึ่งเป็นแพะ หัวที่สองเป็นวัว หัวที่สามเป็นคน มีขาเป็นไก่ แต่กลับมีหูที่ยื่นยาวออกมาผิดปกติ เสียงแหบซ่าน ฟันแหลมคม และมีลมหายใจที่เปล่งออกมาเป็นเปลวไฟในนรกอีกด้วย
พลังของแอสโมเดียสคือสามารถหยั่งรู้อนาคต และสามารถสร้างมนต์สะกดควบคุมผู้หญิงให้มาหลงใหล เพื่อเข้าครอบงำอย่างง่ายดาย
เบเอลเซบูล (Beelzebub) = ตะกละ (Gluttony)
ชื่อของเบเอลเซบูล ปรากฏในคัมภีร์พันธสัญญาใหม่ ว่าเป็นผู้ปกครองปีศาจ หรือเจ้าชายแห่งมวลปีศาจ
แต่เดิมเบเอลเซบูลนั้นเป็นเทวทูตที่ทำหน้าที่สอนมนุษย์ให้ใช้สิ่งของให้เป็นประโยชน์ รู้จักใช้สอยสิ่งของและพิถีพิถันในการเลือกอาหารการกิน แต่แล้วก็ถูกขับจากสวรรค์ ซาตานก็ได้มาเชิญชวนให้ไปเป็นพวก เมื่อเบเอลเซบูลมาอยู่ในนรกก็ได้รู้วิธีล่อลวงจิตใจมนุษย์ เมื่อเบเอลเซบูลถูกเรียกโดยเหล่าผู้บูชาตนแล้ว มักจะปรากฏในรูปของแมลงวัน และทุกที่ที่มันไปก็จะมีฝูงแมลงวันบินตามไปด้วย เมื่อบินไปที่ไหนก็ทำให้เกิดโรคร้าย
เบเอลเซบูลนั้นมีความแตกต่างจากซาตาน เพราะพลังอำนาจของเบเอลเซบูลไม่ได้มาจากการให้ของซาตาน เรียกได้ว่า
เบเอลเซบูลปกครองนรกส่วนหนึ่ง แต่เป็นคนละส่วนของซาตาน
คำว่า "เบเอลเซบูล" นอกจากเป็น "เจ้าแห่งแมลงวัน" แล้ว ยังมีอีกชื่อหนึ่ง ก็คือเป็น "เจ้าแห่งสรวงสวรรค์"
แมมมอน (Mammon) = โลภะ (Greed)
มีความหมายถึงเงิน สมบัติพัสถาน หรือสิ่งใดก็ตามที่แสดงถึงความมั่งคั่ง เป็นหนึ่งในเจ็ดเจ้าชายแห่งนรก และเคยเป็น Archangel มาก่อนเหมือนลูซิเฟอร์ บางคนกล่าวว่า แมมมอนเป็นตนเดียวกับ Beelzebub
แมมมอนเป็นปีศาจที่สามารถเข้าสิงใครก็ได้ที่มีความกระหาย มันจะแทรกแซงเข้าไปในจิตใจตามความโลภที่ผู้นั้นมี จะบังคับให้ใครผู้นั้นทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินทองมาเป็นของตน ดังนั้นแมมมอนจึงถือเป็นตัวตนที่สะท้อน "โลภะ"
เบลเฟเกอร์ (Belphegor) = เกียจคร้าน (Sloth)
คือเจ้าแห่งห้วยลึก เป็นหนึ่งในเจ้าชายทั้งเจ็ด เป็นผู้ที่ทำให้มวลมนุษย์ค้นพบสิ่งต่างๆ เขาคอยให้คำแนะนำวิทยาการและความรู้ต่างๆแก่มนุษย์และทำให้มนุษย์ร่ำรวย มักจะปรากฏตัวให้คนที่ชอบโกง และชั่วร้าย ซึ่งมันจะให้สิ่งประดิษฐ์ที่
พิศดารแก่คนผู้นั้น เมื่อปรากฏร่างมักจะออกมาในรูปของหญิงสาว หรือไม่ก็ปรากฏในร่างของปีศาจเครายาวปากกว้างมีเขาและเล็บยาว มันชอบที่ยั่วยวนผู้ชายให้หลงใหลใน
กามรมณ์
อีกชื่อหนึ่งของมันคือ จอมเปิดโปง ซึ่งก็คือถ้าที่ไหนมีความลับ มันจะไปเปิดโปงให้คนเขารู้กันทั่ว อีกทั้งยังล่อลวงมนุษย์ให้เกียจคร้าน
ซาตาน (Satan) = โทสะ (Wrath)
กล่าวกันว่าซาตานคือเทพแพนหรือบาโพเมท ซึ่งเป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์แห่งลัทธิเพเกิน เป็นมนุษย์ประหลาดมีหีวเป็นแพะ มีเขายาว และมีปีกนั่งอยู่บนแท่น
แต่เดิมซาตาน เป็นเทพ ชื่อแพน เป็นเทพหน้าแพะ (The goat-god) ให้พลังอำนาจแห่งความปราถนา อันยากที่จะหยุดยั้งหรือควบคุม โดยเฉพาะความต้องการทางเพศอันรุนแรง
ชาวกรีกโบราณก็บูชาเทพองค์นี้กัน เพื่อขอให้ได้บุตร อำนาจแห่งความลุ่มหลงในอารมณ์ใคร่ และเทพบุตรแพนชอบที่จะดลจิตใจใฝ่ราคะนี้แก่มนุยษ์มากจนเกิดความวุ่นวายขึ้น จนโดนลงโทษ ถูกขับไล่ลงจากสวรรค์มาสร้างอาณาจักรใต้พื้นภิภพ โดยอาณานิคมแห่งใหม่ ถูกขานนามว่า "นรกนิเวศ์" เป็นที่อยู่อาศัยของวิญญาณอันชั่วร้าย สะสมไว้ด้วยกองกิเลส บุคคลที่เต็มไปด้วย โลภะ โมหะ โทสะ จึงมักจะเดินทางไปสู่ปรโลกเสียส่วนมาก
Baphomet เป็นรูปเคารพของลัทธิที่บูชา Satan ลัทธิหนึ่งที่เป็นที่เคารพของ Templar (อัศวินทางศาสนา) โดยที่ Baphomet เป็นเครื่องหมายแห่งความชั่วร้าย และ มนต์ดำ เป็นเครื้องหมายที่แทนถึง Satan
นอกจากนี้ ยังมีสิ่งประกอบอื่นๆ เกี่ยวกับ Baphomet อีก เช่น สัญลักษณ์ ดาว 5 แฉก โดยเรามักจะเห็นเครื่องหมายนี้อยู่คู่กับ Baphomet เสมอ
ดาว 5 แฉก ว่าเป็นสัญลักษณ์ของความชั่วร้ายและปีศาจ ซึ่งในยุคกลางนี้ ดาว 5 แฉกในส่วนขวาบนจะหมายถึงหน้าร้อน ในขณะที่ด้านกลับ หรือ ส่วนล่างจะหมายถึงหน้าหนาว
เลวีอาธาน (Leviathan) = ริษยา (Envy)
คืองูยักษ์เลวีอาธาน เลวีอาธานเป็นสัตว์ทะเลขนาดยักษ์ มีหลายหัว มีฟันแหลมคมเหมือนจระเข้ มีดวงตาดั่งขนตาของตะวัน (หมายถึงมันโผล่ตาขึ้นมาเหนือน้ำเหมือนที่จระเข้ทำเวลาล่าเหยื่อ ตามันจะโผล่พ้นน้ำมาเล็กน้อย เหมือนพระอาทิตย์โผล่พ้นเหลี่ยมเขาในตอนเช้า)
บางครั้งมันก็ถูกกล่าวว่าเป็นพลังแห่งความสับสนวุ่นวายเมื่อครั้งสร้างโลก คัมภีร์ปฐมกาลกล่าวว่า "ในปฐมกาลพระเจ้าทรงเนรมิตสร้างฟ้าและแผ่นดินแผ่นดินก็ว่างเปล่า ความมืดอยู่เหนือน้ำ และพระวิญญาณของพระเจ้าปกอยู่เหนือน้ำนั้นผืนน้ำคือความสับสนวุ่นวาย และก็คือเลวีอาธาน
ในบางตำรากล่าวไว้ว่า มันก็คือ Rahab อดีตเทวฑูตองค์หนึ่งในสวรรค์ เทวฑูตแห่งยุคกำเนิดโลกร่วมกับเบเฮมอธ กล่าวไว้ว่า Leviathan และเบเฮมอธ ถือกำเนิดในวันที่ 5 ของการสร้างโลก ในบางตำรา กล่าวเอาไว้ว่า ทั้งสองจัดไว้ว่าเป็น “เทวฑูตเลว”
ในหนังสือ Book of Job ที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวคริสต์และฮีบรู Leviathan ถูกบรรยายไว้ว่าเป็นปีศาจร้ายที่มีลมหายใจเป็นไฟ ความหวาดกลัวในปีศาจตนนี้ได้มีมานานมาก ซึ่งถึงขนาดปรากฎใน Dead Sea Scrolls
แต่ที่น่าสนใจคือในบันทึกนี้ บอกไว้ว่าสักวันหนึ่งบุตรแห่งแสงจะทำลายบุตรแห่งความมืดและนำมาซึ่งหายนะของ Leviathan ทำไมมันถึงได้เป็นตัวแทนแห่งความอิจฉา บางคนก็ว่ามันอิจฉาที่มนุษย์อยู่ได้ทั้งบนบกและในน้ำ มีอิสระเสรี แต่มันต้องถูกกักขังอยู่ในท้องทะเลบ้างก็ว่า มันอิจฉาในพลังอำนาจของพระเป็นเจ้า หลายคนคงคิดว่า Leviathan เป็นงูแต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ในภาษาฮีบรู Leviathan แปลว่าปลาวาฬ
ลูซิเฟอร์ (Lucifer) = อัตตา ความเย่อหยิ่ง (Pride)
เป็นชื่อของเทพที่มาจากคำละติน 2 คำผสมกัน คือ “Lux” ซึ่งแปลว่า “แสงสว่าง” และ “Ferrer” ซึ่งแปลว่า ผู้นำพา เมื่อนำมารวมกันจึงมีความว่า “ผู้นำพาซึ่งแสงสว่าง” ทั้งนี้ เทพลูซิเฟอร์เป็นอดีตเทพอัคระเทวทูตผู้ถูกสร้างมาจากแสงสว่าง ยิ่งใหญ่รองลงมาจากพระเจ้าเพียงองค์เดียวเท่านั้น แต่ด้วยความหยิ่งผยองในอำนาจและความยิ่งใหญ่ของตน จึงทำให้ลูซิเฟอร์มีใจกบฎต่อพระเจ้า จึงถูกลงโทษให้ตกสวรรค์ (Fallen Angel) และกลายมาเป็น”ปิศาจ”ในที่สุด
ชาวฮิบรูมีตำนานว่า ลูซิเฟอร์ถูกซาตานยุแยง เนื่องด้วยซาตานต้องการเป็นที่หนึ่งในจักรวาล จึงยุุยงให้เทพเจ้าองค์อื่นถูกใช้เป็นมารร้ายแทนตนเอง โดยตำนานพระคัมภีร์ฮิบรู ลูซิเฟอร์ และ ซาตานเป็นคนละคนกัน และซาตานถือเป็นหนึ่งในอัคระเทวฑูตที่ชื่อว่า Satan-Staniel (หรือ Samuel)
ส่วนตำนานของชาวคริสต์ในไบเบิล หรือพระคัมภีร์เก่า (The old Testament) ก็นิยามลูซิเฟอร์ แทน Helel ซึ่งมีความเชื่อโยงการมารร้านที่กลายร่างเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่หลอกล่อให้อดัมกับอีฟในสวนอีเดน
ส่วนในยุคกลางหรือยุคมืด (ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 15) นักบุญเจอโรม (St. Jerome) มีแนวคิดว่าควรเรียกปิศาจ ว่า ซาตาน มากกว่าที่จะเป็นลูซิเฟอร์ ยังไงก็ตาม ทั้งสองชื่อก็ถูกรวมและกลายเป็นคนเดียวกันในภายหลัง และจะพบในคัมภีร์บางเล่มว่า ลูิซเฟอร์ กับ ซาตาน ถูกใช้แทนกัน
เหตุผลที่ลูซิเฟอร์กลายเป็นตัวแทนแห่งบาปก็เพราะ ความคิดว่าตนเก่งและมีพลังเหนือผู้อื่นจนคิดก่อกบฎ จนในที่สุดก็เกิดมหาสงครามสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดนั่นเอง โดยศึกนี้ ลูซิเฟอร์ได้ชักจูงเทพได้ถึง 2 ใน 3 ของเทพทั้งหมด เพื่อต่อกรกับทัพสวรรค์ของแม่ทัพอัครเทวฑูตมิคาเอล แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ไป
เล่ากันว่า ลูซิเฟอร์มักจะปรากฏกายในลักษณ์มังกรหรือสิงโต และจะมีสมุนชื่อ Satanackia และ Agalierap ข้างกายเสมอ และสัญลักษณ์แทนตัวลูซิเฟอร์ คือ กางเขนกลับหัว และเลขแห่งความโชคร้าย 666 ซึ่งต่างจากเลขแห่งความโชคดีของพระคริสต์คือ 333
และตามลิงค์ด้านล่าง
โฆษณา