9 พ.ย. 2022 เวลา 07:57 • ไลฟ์สไตล์
"Cheese & Beer" เมื่อชีสไม่จำเป็นต้องทานคู่กับไวน์ เพียงอย่างเดียว (ฉบับมือใหม่) 😁🍺🧀
ไม่ใช่แค่ไวน์ที่จับคู่ดื่มกับชีส ได้อย่างลงตัวเพียงอย่างเดียว
แต่ “เบียร์ (Beer)” ก็เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มยอดนิยมดื่มคู่กับชีสด้วยเหมือนกันนะ !
งั้นวันนี้พวกเรา InfoStory ขอหยิบยกเบียร์และชีสยอดนิยมหาได้ง่ายตามร้านค้า มาจับคู่ทานในแบบฉบับมือใหม่หัดรู้จักกันดีกว่า ! 🥰🍺🧀
การจับคู่ชีสกับเบียร์ อาจเรียกได้ว่าง่ายกว่าการจับคู่กับทานกับไวน์
อาจเป็นเพราะ…🍺🧀
- เบียร์ มีส่วนประกอบที่ผลิตมาจากพืช (เช่น ข้าวบาร์เลย์ ข้าวสาลี เมล็ดธัญพืช/มอลต์) ในขณะที่ชีสเองก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากน้ำนมสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (และกินพืชเป็นอาหาร) ตรงนี้ก็จะแตกต่างจากองุ่นทำไวน์
- เบียร์ ไม่มีรสชาติที่ซับซ้อนแบบไวน์ อย่างเช่น ระดับความฝาด(แทนนิน) ความหวาน
- เบียร์ ส่วนใหญ่จะมีรสสัมผัสที่คล้ายคลึงกันกับชีส (พวกโทนแบบ nutty, toasty, yeasty) จึงทำให้จับคู่ทานกันได้ง่ายและหลากหลาย
อย่างไรก็ดี การจับคู่ชีสกับเบียร์หรือไวน์เนี่ย ก็ไม่ได้มีกฎตายตัวแต่อย่างใดนะคร้าบ
แต่ถ้าจะจับคู่ให้สนุกปาก ก็จะมีรูปแบบที่คล้ายคลึงกันคือ จับคู่ตามความเข้มข้นของรสชาติ
งั้นเดี๋ยวพวกเราสรุปสั้น ๆ สไตล์มือใหม่หัดจับคู่ทานง่าย ๆ ด้านล่างเลย !
[ 💡 ทิปส์เล็กน้อย สไตล์มือใหม่หัดจับคู่ดื่มเบียร์และชีส 🍺🧀 ]
ไม่ว่าจะเป็นไวน์หรือเบียร์ หากจะจับคู่ทานกับชีส ก็จะมีลักษณะที่คล้ายกัน
1. ชีสอ่อน จับคู่กับ เบียร์สีอ่อน เช่น Lager, Pilsner, Wheat Beer, Belgian-style blonde
2. ชีสกึ่งแข็ง/ชีสแข็ง จับคู่กับ เบียร์ที่มีความเข้นข้นขึ้น เช่น Pale Ale, IPA, Pale Lager, Brown ale
3. บลูชีสที่มีกลิ่นและรสเข้มข้น จับคู่กับ เบียร์ดำ เช่น Stout, Porter, Dark Lager (Bock/DoppelBock)
หรือจับคู่กับเบียร์ที่มีกลิ่นและรสของฮอปส์และมอลต์ที่ชัดเจน เช่น IPA, New England IPA, Imperial IPA, Hazy IPA
4. ชีสแข็งที่มีระยะเวลาการบ่มนาน (อย่างพวก Aged Gouda) ก็จับคู่ทานกับเบียร์กลุ่มที่เด่นฮอปส์ ได้ดีไม่แพ้กัน (เช่นกลุ่ม Hoppy American IPAs จากข้อ 3 ) หรือจับคู่กับเบียร์ที่มีความขมสูง เช่น พวก ESB (Extra special bitter)
- พวกกลุ่มเบียร์ผลไม้ Fruit Beer ก็สามารถเข้ากับกลุ่มบลูชีสได้ดีเหมือนกันนะ
ปิดท้ายด้วยเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจ
[ เพื่อน ๆ รู้จัก “Beer Cheese” กันไหมเอ่ย ? (ที่ไม่ใช่เบียร์ดื่มคู่กับชีสนะ) ]
เดาว่าเพื่อน ๆ หลายคนอาจรู้จักกันเนอะ
คือ เจ้าเบียร์ชีส (Beer Cheese) เนี่ย ให้พูดง่าย ๆ มันก็คือชีสรสชาติเบียร์ นั่นเองคร้าบ
มันก็จะออกเป็นแนว Cheese dip หรือ Cheese Spread สีส้มเข้ม ๆ หน่อย
เอ… แล้ว เบียร์กับชีสเนี่ย มันผสมกันได้ด้วยเหรอ ? ใครเป็นคนคิดค้นเมนูนี้กันละ ?
มารู้จักกันสักหน่อยดีกว่า เผื่อเพื่อน ๆ ไปเที่ยวกันแล้วเจอเจ้าชีสตัวนี้ จะได้ไม่ตกใจ 😁
เบียร์ชีส (Beer Cheese) ว่ากันว่ามีต้นกำเนิดมาจากเชฟชาวอเมริกันในรัฐเคนทักกี้ (Kentucky) ที่โรงแรม Driftwood Inn ในช่วงประมาณปี 1950 🇺🇸
โรงแรมของพี่น้องAllman
เรื่องราวกำเนิดก็ง่ายแสนง่ายจากสองพี่น้องตระกูล Allman ที่ชื่นชอบเบียร์เป็นพิเศษอยู่แล้ว และด้วยความหัวหมอทางการค้า คุณ Johnnie Allman เขาได้หยิบอาหารและเครื่องดื่มยอดนิยมประจำโรงแรม นั่นคือ “ชีส + เบียร์” เลยทำออกมาเป็นแบบฉบับของชีสสเปรด ที่สามารถเอามาปาดกินกับอาหารอเมริกันได้ทุกรูปแบบ
(ต่อมา 2 พี่น้องก็ได้ไปแพ้พนัน จนทำให้ล้มละลายต้องขายโรงแรม พร้อมกับสูตรเบียร์ชีสสเปรดไป 😰)
ว่ากันว่า ในตอนที่พระราชินีอลิซาเบธที่ 2 มาเยือนที่สหรัฐอเมริกา ก็เคยมีการเสิร์ฟเบียร์ชีสสเปรด จนพระราชินีได้ชื่นชอบในความแปลกใหม่สไตล์ชาวอเมริกันมากๆ (เพราะที่อังกฤษไม่ค่อยพบเห็นมาก)
(ในแบบฉบับของอเมริกัน เค้าไม่ได้เสิร์ฟในถ้วยเล็ก ๆ นะ แต่ว่าเอาเจ้าเบียร์ชีสใส่ลงในถังควอท แล้วเสิร์ฟให้ราชินีอลิซาเบธที่ 2 ให้นึกภาพไอศกรีมสเวนเซ่น 1 ควอท นั่นแหละนะ 😳😅)
ซึ่งเจ้าเบียร์ชีส ก็จะใช้ตัวชีสเชดดาร์ (Cheddar) หรือไม่ก็ Pepper Jack พร้อมใส่มีส่วนผสมอื่น ๆ เพื่อชูรสชาติ อย่างเช่น เครื่องเทศต่าง ๆ พริกหยวก กระเทียม
สูตรดั้งเดิม (Kentucky) เค้าจะใช้เบียร์สไตล์ German Lager ในการทำเบียร์ชีส
แต่ว่าสูตรสมัยใหม่ขึ้น ก็จะนำเบียร์ IPA, Stout หรือ คราฟต์เบียร์อื่น ๆ มาใช้เพื่อสร้างลูกเล่นให้กับเบียร์ชีส
ก็พอหอมปากหอมคอกันไปเช่นเคย
ในเรื่องของเบียร์จับคู่กับชีส เราอาจจะไม่ได้ลงในเรื่องของการจับคู่ไปเยอะมากเท่ากับไวน์ เพราะสำหรับเบียร์กับชีสแล้ว เรียกได้ว่าแทบจะเข้ากันได้เกือบทุกชนิดเลย
ขอแค่จับคู่ความเข้มของชีสกับระดับความขมของเบียร์ หรือเอาง่าย ๆ ดูจากสีของเบียร์ก็ได้เช่นกัน
(เช่น ชีสนุ่มชีสสด ก็จับคู่กับเบียร์ที่มีสีทองสีอ่อน เป็นต้น อันนี้ว่ากันตามประสามือใหม่นะคร้าบ 😁🍺🧀)
โฆษณา