3 ธ.ค. 2022 เวลา 04:00 • นิยาย เรื่องสั้น
การเดินทาง บทตาม
ฝนตกปรอยๆในตอนนี้ทำให้บรรยากาศในบริเวณโดยรอบยิ่งเย็นลงไปอีก
cr. google
แต่ทุกคนในที่นั้นไม่ว่าจะอยู่กันเป็นกลุ่มหรือแยกเป็นปัจเจกก็ยังคงปักหลักอยู่อย่างเต็มใจ
บ้างสงบนิ่ง บ้างสวดภาวนาคลอไปกับเสียงฝนที่โปรยลงมาอย่างต่อเนื่อง
ฝนหยุดตกแล้ว
ท้องฟ้าเริ่มกระจ่าง
หมอกจางลอยตัวอ้อยอิ่งไปทั่วบริเวณ...
หลังจากนั้นต่างแยกย้ายกันไปเพื่อแสดงความคารวะต่อผู้จากไปด้วยความเคารพหรือเริ่มพิธีกรรมอื่นๆต่อไปตามแต่ความเชื่อของตน
น่าแปลกที่ช่วงปลายฝนต้นหนาวของที่นี่มักเป็นเวลาที่ผู้แสวงบุญกลุ่มต่างๆหรือผู้คนทั่วไปจะมารวมตัวกันเพื่อการแสวงบุญหรือแสดงความไว้อาลัยแก่ผู้จากไป
หากจะถามต่อว่าทำไมต้องเป็นช่วงนี้?
ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน เป็นแต่การกำหนดตามความพอใจกระมัง
สายมากแล้ว
สัมภาระที่จัดมาก็เพียงพอต่อการพักค้างแรม อุปกรณ์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นระบบนำทาง อุปกรณ์เดินป่าและอื่นๆจัดมาครบถ้วน จัดแจงเสื้อผ้าและรองเท้าอีกนิดก็พร้อมที่จะเดินทางแล้ว
ใจนึกเสียดายที่ไม่ได้เตรียมเสื้อผ้าและรองเท้าที่ให้ความอบอุ่นได้มากกว่านี้มาด้วย ยิ่งฝนตกลงมาอากาศก็ยิ่งเย็นลงไปอีก
เอาน่า ให้ร่างกายมันลำบากบ้างก็ได้
หมอกจางๆลอยตัวทั่วไปรอบบริเวณป่า
cr. google
จากพิกัดและระยะทางที่ระบุในอุปกรณ์นำทาง การเดินทางขึ้นไปที่ลานผาแสงจันทร์นั้นใช้เวลาไม่มากนัก แต่การที่มีฝนตกลงมานั้นทำให้การเดินทางยากลำบากขึ้นและใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้
และกว่าจะมาถึงลานผาแสงจันทร์ก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว
เจ้าหน้าที่ที่ดูแลที่นี่ดูโล่งอกที่ทุกคนมากันครบเพราะแม้ว่าป่าบริเวณนี้จะปลอดภัยมาก แต่ถ้ามีการหลงป่านั่นก็ไม่ใช่เรื่องน่าสนุกสักนิด
"...ถ้าจะถามว่าทำไมฉันถึงชอบดวงจันทร์ในช่วงก่อนที่จะเต็มดวง เพราะฉันคิดว่ามันเป็นช่วงที่ดวงจันทร์ทรงพลังมากที่สุดนะสิ ทำไมจะไม่ใช่ล่ะ พลังที่จะใช้เพื่อให้เต็มดวงได้น่ะก็ต้องสะสมไว้มากใช่ไหม แน่นอน สะสมไว้เพื่อทำให้ตัวเองเต็มดวงไงล่ะ แล้วหลังจากนั้นมันก็จะค่อยๆลดลงจนมืดสนิท แล้วก็สะสมพลังใหม่อีกเพื่อให้เต็มดวงอีกครั้งไง..."
เสียงใสๆแจ่มชัดในห้วงคิดคำนึง ณ.ยามนี้
นั่นมันนานเท่าไหร่กันแล้วหนอ...
ลานผาแสงจันทร์ดูสงบเงียบ
บริเวณนี้ไม่ได้กว้างใหญ่นัก เดิมเป็นลานที่ใช้สำหรับเป็นที่พักค้างแรมของผู้แสวงบุญหรือผู้มาเยือนจากที่ต่างๆ จุดนี้จะมองเห็นดวงจันทร์ได้ชัดเจนมากแม้ว่าจะไม่ได้เป็นจุดที่สูงก็ตาม
ภายหลังเจ้าหน้าที่ที่ดูแลป่าเห็นว่าลานนี้ออกจะแคบไปหน่อยจึงจัดพื้นที่ให้ใหม่ห่างจากลานเดิมไปไม่ไกลนัก ส่วนลานเดิมจะให้เข้าไปได้เฉพาะที่ขออนุญาตล่วงหน้าเท่านั้น เป็นการจำกัดจำนวนเพื่อไม่ให้เกิดแออัดจนเกินไป
คืนนี้อากาศปลอดโปร่ง น่าจะเป็นเพราะฝนที่ตกไปก่อนหน้านี้แล้วทำให้ไม่มีเมฆมากนัก
แสงจันทร์ส่องสว่างชัดเจน
หลายคนนั่งรวมกลุ่มสวดภาวนา บ้างเล่นดนตรีเบาๆ บ้างนั่งสมาธิ และมีอีกหลายคนที่อยู่ในห้วงนิทรารมณ์
ดวงจันทร์ใกล้เต็มดวงแล้ว...
cr. google
ช่วงเช้าหลังจัดภารกิจส่วนตัวเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางอีกครั้ง วันนี้อากาศดีไม่มีฝนแต่ว่าลมพัดแรง อากาศจึงยังคงเย็นอยู่
การเดินทางวันนี้เป็นการเดินทางโดยลำพัง
คนที่มาส่วนใหญ่จะมาไม่เกินลานผาแสงจันทร์ เพื่อประกอบพิธีต่างๆหรือเพื่อพักแรมกันหลายวันแล้วจึงกลับลงไป แต่จุดที่ต้องการจะไปต่อนั้นปัจจุบันเป็นที่พักแรมของเจ้าหน้าที่ดูแลป่า นักเดินป่าและนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์จริงๆ
จุดหมายที่ต้องการมาเป็นลานผาเล็กๆไร้ชื่อแห่งหนึ่งซึ่งน้อยครั้งที่จะมีใครขึ้นมาตรงนี้
ลานผาเล็กๆไร้ชื่อนี้ไม่ได้มีอันตรายใดๆเพียงแต่ก็ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องขึ้นมา
การเดินทางไม่ลำบากนักแต่ระยะทางค่อนข้างไกล ประกอบกับบริเวณปากทางเข้าลานผานั้นจะมีต้นไม้ขึ้นรกทึบอยู่ ถึงจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลแต่ก็เพียงอำนวยความสะดวกเล็กน้อยเท่านั้น ทุกอย่างถูกปล่อยให้เป็นไปตามสภาพเดิมๆตามธรรมชาติมากกว่า
ระบบนำทางใช้การได้ดีอยู่ พิกัดต่างๆที่ระบุไว้ในบันทึกถูกป้อนเข้าไปให้ระบบนำทาง แน่นอนว่าบันทึกนั้นถูกจดจำขึ้นใจแทบทุกหน้าอยู่แล้ว การวางพิกัดนั้นก็เป็นตัวช่วยเสริมเปรียบเทียบเท่านั้นเอง
และเมื่อเวลาเย็นย่ำก็มาถึงที่พักพอดี
ตัวอาคารยังคงสภาพเดิมไว้เป็นอย่างดีแม้ว่าจะถูกสร้างขึ้นไว้เมื่อนานมาแล้ว ห้องพักภายในอาคารจะแยกออกเป็น2ส่วนใหญ่ๆคือส่วนของเจ้าหน้าที่ดูแลป่าและส่วนของผู้มาพักค้างแรม ส่วนของเจ้าหน้าที่นั้นจะแยกห้องเป็นสัดส่วนแต่ของผู้มาพักค้างแรมจะจัดเป็นห้องรวมใหญ่และมีส่วนอำนวยความสะดวกต่างๆไว้พร้อมรองรับอยู่
หลังจากจัดการภารกิจส่วนตัวเรียบร้อยก็ได้เวลาเดินทางต่อไปที่ลานผา
ไม่ไกลเกินไปนักแต่การเดินป่าในช่วงค่ำแบบนี้ก็ไม่ได้ง่ายดายเช่นกัน
อาศัยว่าระบบนำทางนั้นทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ปากทางมีต้นไม้ขึ้นรกทึบปิดไว้ เจ้าหน้าที่ที่มาด้วยนั้นถางทางอีกสักพักใหญ่จึงสามารถเข้าไปได้
ลานผานี้มีขนาดไม่กว้างนักเมื่อเทียบกับลานผาแสงจันทร์ แต่ลานผาไร้ชื่อนี้ก็มีบรรยากาศที่สงบเงียบและเป็นที่ที่ผู้แสวงบุญหลายคนเคยมาเยือนเช่นกัน
ลมพัดแรงเป็นระยะ
ท้องฟ้าใสกระจ่าง
ดวงจันทร์ลอยเด่นราวกับจะเอื้อมมือคว้าได้
บรรยากาศเงียบสงบมีแต่เสียงลมที่พัด เสียงแมลงและเสียงสัตว์ป่าที่กู่ร้องอยู่ไกลๆ
ทุกอย่างในบริเวณลานผาไร้ชื่อนี้ยังเป็นเหมือนเดิม เหมือนเมื่อแรกที่ดาวันมาแสวงบุญที่พิภพกาเอียและได้ขึ้นมาที่นี่ ทั้งบรรยากาศและทุกสิ่งที่ดาวันได้บันทึกไว้
ใช่ ทุกอย่างยังคงเดิม ผิดกันแต่เพียงคนที่อยู่ที่นี่ตอนนี้ไม่ใช่ดาวัน
กล่องใส่บันทึกทั้ง2กล่องถูกเปิดออกอีกครั้ง
กล่องหนึ่งเขียนไว้ด้วยลายมือที่ด้านหน้ากล่องว่า"ถึงดาริล" ภายในเป็นสมุดบันทึกเล่มเล็กสีเขียวเขียนด้วยลายมือเป็นระเบียบอ่านง่าย
อีกกล่องหนึ่งลายมือเป็นแบบเดียวกันแต่ระบุไว้ว่า"ถึงสุนัทที" ภายในก็เช่นกันเป็นสมุดบันทึกเล่มเล็กสีน้ำเงินเขียนด้วยลายมือเป็นระเบียบอ่านง่ายเหมือนกัน
ดาวันเขียนบันทึกด้วยลายมือของตัวเองลงในสมุดทั้ง2เล่มแยกเอาไว้
ดวงจันทร์ลอยเด่น...
สุนัททีเริ่มอ่านบันทึกทั้ง2เล่มอีกครั้ง
...สุนัททีที่รัก...
.
.
.
หลังอ่านบันทึกทั้ง2เล่มจบแล้ว สุนัททีเงยหน้ามองไปที่ดวงจันทร์อีกครั้ง
cr. google
ยิ้มกว้าง
นัยน์ตาเป็นประกายสดใส
หยิบสมุดบันทึกของตัวเองขึ้นมา
แล้วก็เริ่มเขียนบันทึก...
.
.
.
บทส่งท้าย
บทตาม 0.5

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา