สรุปเรื่องสำคัญ ลงทุนในธุรกิจต้องคิดอะไรบ้าง ?
ใครๆ ก็อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง และมันจะไม่มีปัญหาเลย ถ้าเรามีเงินมากพอ แต่ในชีวิตจริงทรัพยากรที่จำกัดสุดๆในชีวิตเราก็คือ “เงินทุน” แล้วเราจะทำอย่างไรถ้าวันนี้มีเงินทุนจำกัด แต่อยากจะเลือกลงทุนในธุรกิจให้คุ้มค่าที่สุด
Zero to Profit ชวนทุกคนมาคิดไปพร้อมๆ กันค่ะว่าเราควรคิดอะไรบ้างก่อนลงทุนในธุรกิจสักธุรกิจนึง
1. ลงทุนในธุรกิจ ก็เหมือน “จัดพอร์ต”
เชื่อว่าหลายคนคงผ่านการเปิดพอร์ตและเล่นหุ้นกันไม่มากก็น้อย (และทุกวันนี้ก็อาจจะดอยอยู่เป็นได้…แง)
การลงทุนในธุรกิจส่วนตัวก็เช่นกันค่ะ มันก็เหมือนกับการเล่นหุ้น ที่เราต้องเลือกซื้อหุ้นตัวที่เหมาะสมมาไว้ในพอร์ตให้ได้มากที่สุด ในขณะที่เงินในพอร์ตเรานั้นก็มีอยู่จำกัด
หุ้นแต่ละตัวในพอร์ตก็เหมือนกับ “สินทรัพย์” แต่ละตัวค่ะ เจ้าของธุรกิจต้องตัดสินใจว่าเราจะเลือกซื้อสินทรัพย์ชนิดไหน หรือเก็บสินทรัพย์อะไรไว้ในพอร์ตธุรกิจของเราบ้าง
วิธีเช็คง่ายๆ ว่าเรามีพอร์ตสินทรัพย์แต่ละชนิดจำนวนเท่าไร ลองหยิบงบแสดงฐานะการเงิน แล้วโฟกัสลงไปดูที่สินทรัพย์ คิดอัตราส่วนง่ายๆ โดยกำหนดให้สินทรัพย์รวมเท่ากับ 100% จากนั้นลองเช็คสักนิดว่ามีสินทรัพย์ประเภทต่างๆ เก็บอยู่ในธุรกิจจำนวนเท่าไรบ้าง
ส่วนใหญ่แล้วสินทรัพย์ที่ทุกธุรกิจนิยมมีในพอร์ตก็คือ เงินสด ลูกหนี้ สินค้า อาคาร อุปกรณ์ เป็นต้น
2. ตัดสินใจว่าควรมีสินทรัพย์แต่ละชนิดจำนวนเท่าไร
พอจะมองเห็นภาพพอร์ตโฟลิโอของธุรกิจตัวเองขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไหมคะ แต่เท่านี้ยังไม่พอค่ะ เราต้องตัดสินใจกันต่อว่าสินทรัพย์ที่เราเลือกมีไว้ในพอร์ตนั้น ควรมีจำนวนเท่าไร และเพราะอะไร?
ตัวอย่างสินทรัพย์ที่มีมากไป-น้อยไป ส่งผลกระทบยังไงกับธุรกิจ
เงินสด
มีมากไป : เสียโอกาสเอาเงินไปลงทุนสร้างกำไร
มีน้อยไป : ขาดสภาพคล่อง
ลูกหนี้
มีมากไป : เสี่ยงเก็บเงินไม่ได้
มีน้อยไป : อาจเกิดจากยอดขายลด เข้มงวดเรื่องเครดิตเกินไป
สินค้า
มีมากไป : เสี่ยงของเสีย ของพัง ขายไม่ออก
มีน้อยไป : ขายไม่พอ เสียลูกค้า
อาคาร
มีมากไป : ไม่ได้ใช้งาน ชำรุด
มีน้อยไป : ต้องเช่า มีค่าใช้จ่ายรายเดือน
เครื่องจักร
มีมากไป : กำลังผลิตเกินต้องการ เสียค่าบำรุง
มีน้อยไป : ผลิตไม่ทันยอดสั่งซื้อ เติบโตช้า
3. วิเคราะห์ผล ลงทุนแล้วรายได้กลับมาเยอะป่าว
จัดพอร์ตเสร็จแล้ว ตัดสินใจไปแล้วว่าควรเก็บสินทรัพย์ชนิดไหนไว้เท่าไรบ้าง เพียงเท่านี้ก็ยังไม่พอค่ะ
เพราะพวกเราอาจตัดสินใจพลาดก็ได้ใครจะไปรู้ ดูอย่างพี่มาร์ค เจ้าของ Facebook หรือ Meta เค้ายังออกมายอมรับเลยว่าเคยตัดสินใจบางเรื่องในธุรกิจผิดพลาดไป จนต้องเลย์ออฟพนักงานกว่า 10,000 ชีวิต
วิธีวัดผลการตัดสินใจได้ดีที่สุด คงหนีไม่พ้นตัวเลขทางบัญชี
ถ้าอยากรู้ว่าเราลงทุนในสินทรัพย์แต่ละอย่างแล้วหมุนกลับมาเป็นรายได้ธุรกิจได้จริงไหม ลองใช้สูตรนี้คำนวณ
อัตราหมุนเวียนของสินทรัพย์ = รายได้/สินทรัพย์
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราคำนวณได้ 1.5 เท่า นั่นแปลว่า สินทรัพย์ที่เราลงทุนไป 100 บาท สร้างรายได้กลับมาเท่ากับ 150 บาท แล้วเราพอใจกับสิ่งนี้ไหม ก็ต้องมาคิดกันต่อ เช่น ถ้าเห็นคู่แข่งทำได้ 2 เท่า เราก็อาจจะไม่พอใจเท่าไรนัก
ฉะนั้น เราก็ต้องย้อนกลับมาคิดต่อว่าการจัดพอร์ตโฟลิโอของธุรกิจที่ตัดสินใจไว้ มันต้องปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงอะไรไหมนะ
แต่สำหรับบางธุรกิจที่โฟกัสเรื่องลงทุนในที่ดิน อาคาร เครื่องจักรเป็นหลัก ก็อาจจะเปลี่ยนมาวัดผลจากสูตรนี้ก็ได้นะคะ
อัตราหมุนเวียนของสินทรัพย์ถาวร = รายได้/ที่ดิน อาคาร อุปกรณ์รวม
ถ้าใครลองวิเคราะห์ไปพร้อมๆ กัน 3 เรื่องนี้แล้ว ตอนซื้อของเข้าธุรกิจ เราก็คงตัดสินใจง่ายขึ้นว่าต้องซื้อเฉพาะของมีประโยชน์ และทำเงินกลับมาได้เท่านั้น เพราะเราคงไม่อยากให้พอร์ต มีหุ้นเน่าๆ เก็บไว้โดยไม่มีทางสร้างกำไรได้จริงไหมคะ
#zerotoprofit #วิเคราะห์สินทรัพย์
ปรึกษาปัญหาบัญชีธุรกิจ จัดพอร์ตธุรกิจที่ใช่สำหรับธุรกิจคุณ ติดต่อ
Line: @zerotoprofit หรือ https://lin.ee/36U1ks0Y
ติดตาม Zero to Profit ได้ที่
Website: https://zerotoprofit.co
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
