10 พ.ย. 2022 เวลา 22:21 • เพลง & ซีรีส์ เกาหลี
#ติ่งอะไรในเคป็อป
รีวิวเคป็อปอัลบั้ม (2022)
17. LEE CHANHYUK ‒ ERROR
Released : 2022/10/17
Genres : synthwave-pop, folk-pop, soul ballad-pop
Produced by 이찬혁 (LEE CHANHYUK)
(이찬혁 (LEE CHANHYUK), MILLENNIUM, SIHWANG)
“สภาวะก่อนจากโลก”
** CONTENT TRIGGER WARNING!! **
: อุบัติเหตุ, ความตาย, คำสถบ/หยาบคาย, งานศพ
-
เนื่องจากเนื้อหาโพสต์นี้ค่อนข้างกระทบต่อจิตใจสำหรับบุคคลที่มีสภาวะจิตใจไม่แข็งแรงมากพอ เพื่อให้การบรรยายไปได้กับเรื่องราวมากที่สุดอาจจะมีการพูดอย่างตรงไปตรงมาบ้างในบางพาร์ทหรือในประโยคบางส่วนของเนื้อหาสอดคล้องกับสิ่งที่ทางแอดมินอยากนำเสนอมากที่สุด จึงขอกำชับว่าทางเพจเราได้มีการติดป้ายเตือนดังกล่าวเอาไว้ก่อนจะเริ่มต้นอ่านเนื้อหาข้างล่างนี้เป็นการรับผิดชอบสิ่งที่ตนเองได้ใส่เนื้อหาคำเหล่านั้นลงไปในคอนเท้นท์ หากผู้อ่านท่านใดรู้สึกไม่สบายใจอ่านเนื้อหาของโพสต์นี้
ทางแอดมินต้องขออภัย ณ ทีนี้ไว้ด้วยค่ะ
-
• จริงๆมันก็ควรจะถึงคราวที่คนอย่าง “ชานฮยอก” ได้เวลาปล่อยของในนามเดี่ยวอย่างเต็มรูปแบบมานานหลายปีแล้วแต่ด้วยความที่เจ้าตัวเป็นคนค่อนข้างทำตัวติสท์แตกบวกกับการทำงานใน อัคมู(AKMU) ยังสามารถสร้างลูกเล่นอะไรได้หลายๆมิติจนกระทั่งการตัดสินใจครั้งใหญ่อย่างการไปรับใช้ชาติในอายุที่ยังน้อยนิดเพื่อกักเก็บประสบการณ์ต่างๆมาเป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์เพลงจนได้ผลงานที่โคตรจะ masterpiece ของวงอย่างอัลบั้ม SAILING
ที่พลิกสไตล์โฟล์คป็อปเพราะๆกลายเป็นผลงานติดสูตรความเป็นอินดี้บัลลาดผสมผสานอัลเทอร์เนทีฟได้อย่างลงตัวท่ามกลางความรู้สึกอันหลากหลายในมหาสมุทรอันแสนกว้างใหญ่ไพศาลพร้อมผลักดันน้องสาวของตัวเองในช่วงที่ COVID-19 ระบาดให้ได้ปล่อยซิงเกิ้ลโซโล่อย่างเพลง ALIEN กลับมาทำอะไรสนุกๆเข้าถึงทุกวัยแซมด้วยจังหวะแดนซ์ให้ได้โยกตาม ใครที่เป็นแฟนเพลงตัวยงของสองพี่น้องคู่นี้มาตั้งแต่เริ่มเดบิวท์คงไม่ต้องสาธยายอะไรให้ยุ่งยากถึงความสามารถในการเป็นนักร้องและนักแต่งเพลงฝีมือของพี่ชายแสนอัจฉริยะที่ทำได้ทุกแนวเพลง
• แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เริ่มไม่ค่อยเชื่อมั่นในความเป็นอัคมูมากสักเท่าไหร่ในช่วงหลังเพราะดูเหมือนว่าชานฮยอกเริ่มที่จะเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลในการทำเพลงมากจนเกินไปจนลืมหนึ่งคู่หูอย่าง “ซูฮยอน” ผู้เป็นน้องสาวที่ไม่ได้เอ่ยปากให้ความคิดเห็นอะไรได้มากมายแม้คนเป็นน้องจะยอมบ้างเพราะเชื่อใจในตัวพี่ชายจนได้ผลงานที่ออกมาสมบูรณ์แบบไม่มีการคัดค้านในแง่ของการแบ่งท่อนร้องที่ไม่สมเหตุสมผล แต่ในบางทีการรับฟังความคิดจากคนอื่นมันก็อาจจะทำให้อะไรๆดีขึ้นบ้างก็ได้
อย่างในอีพีอัลบั้ม NEXT EPISODE เลยเห็นได้ชัดถึงความสามัคคีที่ยังคงแน่นแฟ้นแต่ด้วยภาพรวมที่มันออกมาค่อนข้างแบ่งเส้นกันอย่างชัดเจนแม้กระทั่งในพาร์ทที่เป็นเพลงรวมของทั้งคู่ยังสัมผัสได้ถึงความอึดอัดในบางช่วงได้เลย การผ่านเรื่องราวอิสรภาพต่างๆจาก SAILING เหมือนจะไม่ค่อยได้ช่วยอะไรมากสักเท่าไหร่
• it’s time!! พอลงสนามงานเดี่ยวของตัวเองอย่างเป็นทางการไม่ต้องคอยแคร์คนอื่นก็ลุยไปเลยเต็มที่แต่มันก็จะมีฟีลแอบน้อยใจอยู่เหมือนกันที่คนเป็นพี่ชายได้ปล่อยอัลบั้มเต็มโชว์ศักยภาพตัวเองไปเลยเต็มที่แต่กับน้องสาวซูฮยอนได้แค่เพียง digital single ไม่รู้จะพูดอะไรได้นอกจากความลำเอียงของค่าย(แล้วเป็นสิ่งที่อยากบ่นมาตลอดตั้งแต่ยุค 2NE1 กับการดูแลศิลปินหญิงจนอยากถามว่าเป็นอะไรหร๋อ!?) btw ก็ทำได้แค่น้อยใจยังไงซะไม่ว่าคนพี่หรือคนน้องจะปล่อยอะไรมายังคงเชื่อใจที่จะฟังผลงานที่เต็มเปี่ยมด้วยศักยภาพที่พรั่งพรู
• เท่าที่ไปไล่อ่านคอนเซ็ปอัลบั้มจากปากของชานฮยอกในบทสัมภาษ์งาน showcase เปิดตัวอัลบั้มแล้วนั้น.. เหมือนเจ้าตัวยังคงมีอะไรที่ติดค้างในใจจาก NEXT EPISODE ที่อยากจะเล่าต่อในพาร์ทของตัวเองไปจนถึงตอนจบแบบรวดเดียว สิ่งที่ไม่คาดคิดมันก็เป็นอย่างที่นึกเอาไว้ไม่มีผิดแปลก
ชานฮยอกเลยกำลังจินตนาการตัวเองว่าถ้าวันหนึ่งชะตาชีวิตของตัวเองได้ถูกกำหนดให้ตายจากไปบนโลกนี้ขึ้นมาจริงๆ จะมีอะไรที่อยากทำหรืออยากจะบอกใครก็รีบซะก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไปแล้วมาย้อนนึกคิดตอนเป็นวิญญาณมันไม่ได้ทำอีกแล้ว ERROR ชื่ออัลบั้มที่มีความ internet-cyber แต่ก็เปรียบกับสภาวะชีวิตที่เริ่มอยู่ในเส้นยายแดงผ่าแปดระหว่างความเป็นกับความตายอยู่รอมร่อ
• เปิดด้วยแทร็คแรกก็สร้างความจ๊าบแปลกแหวกกว่าเดิมอย่างที่เคยเป็นมาด้วยซาวนด์สไตล์ hybrid wave อย่าง Eyewitness account แม้จะมีการโปรโมทด้วยโปสเตอร์พร้อมกับเบอร์โทร 070-8984-1017 ที่จะได้ยินเสียง operator พูดเอาไว้ว่า ‘หากท่านใดที่พบเห็นชานฮยอกโปรดกรุณาแจ้งมาด้วย’(แน่นอนว่าแอดไม่เคยโทร) เป็นเบอร์โทรแจ้งเหตุการหายตัวไปที่เหมือนจะรู้ตัวแล้วว่าได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเจ้าตัว
แค่อินโทรก็ริฟท์กีต้าร์ซะเร้าใจจัดๆแต่ในเวลาเดียวกันกลับเป็นเหตุการณ์เหมือนพาให้เรายืนอยู่ตรงกลางแยกที่ไม่รู้ว่าจะซ้ายหรือขวาระหว่างรอดหรือร่วง ถ้านึกภาพไม่ออกว่าเหตุการณ์แนวนี้มันจะเป็นยังไง ฟีลลิ่งเดียวกับเอ็มวีในตำนานของวง Infinite ในเพลง The Chaser พาร์ทของแอลที่ประสบอุบัติเหตุแล้วรถพลิกคว่ำตลบไปมา นั่นแหละคือเหตุการณ์เดียวกันกับของชานฮยอกในแทร็คนี้แบบเป๊ะๆ
• Siren เสียงไซเรนจากรถฉุกเฉินมาถึงพร้อมนำผู้ประสบเหตุขึ้นรถเพื่อไปทำการรักษา ชานฮยอกกลายเป็นคนที่สติหลุดไปพร้อมกับวิญญาณในความคิดของตัวเองโดยสมบูรณ์แล้วได้แต่มองร่างตัวเองที่นอนหายใจเต็มไปด้วยบาดแผลจากอุบัติเหตุในระหว่างการรักษาบนรถฉุกเฉินของเจ้าหน้าที่ไปพลางๆ “เชี่ย.. ความตายแม่งเริ่มอยู่ตรงหน้ากูแล้วจริงๆ” ซาวนด์มาเป็นแนวกึ่ง hyperpop อัพบีทให้จังหวะมันเร็วได้ตรงจุดราวกับว่ารถฉุกเฉินพร้อมขับพาผู้ประสบเหตุไปให้ถึงโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว
• ถึงโรงพยาบาลพร้อมรักษาอาการบาดเจ็บแต่ยังไม่ได้สติดีพอด้วย Panorama ตอนนี้กลายเป็นว่าอยู่ในสภาวะของอาการโคม่าที่ไม่รู้ว่าจะรอดหรือไม่ แต่ในห้วงของวิญญาณที่ได้แต่มองดูร่างของตัวเองที่เต็มไปด้วยเครื่องช่วยหายใจบนเตียงนอนที่คิดว่ายังไงชีวิตกูก็ไม่รอดแล้วแต่ก็ดันมีเสี้ยวของความคิดหนึ่งแว๊บเข้ามาในหัวว่า เฮ้ย! มีอะไรหลายๆอย่างที่ยังไม่ได้ทำก่อนหน้านี้เลยเพราะงั้นแล้วกูจะมาตายแบบไม่ได้
Time! Stop! เป็นการร้องขออ้อนวอนให้เวลาหยุดมันซะเดี๋ยวนี้เลย แล้วพยายามให้ตัวเองหลุดจากการเป็นวิญญาณที่เอาแต่จ้องมองร่างที่หายใจรอนๆได้ตื่นขึ้นมีสติลืมตาดูโลกอีกหนึ่งครั้งต่อให้ตอนนี้จะอยู่ในขั้นของอาการโคม่าก็ตามที แต่อย่างน้อยก็ขอให้ตัวเองได้หลุดจากสภาวะนี้ไปก่อนชั่วคราว ซาวนด์มาในแบบ synthpop สองแทร็คต่อเนื่องที่จังหวะของเพลงก็ทำเอาแอบนึกถึงสไตล์ของพ่อหนุ่ม The Weeknd อยู่ไม่น้อย
• ผ่านเรื่องราวเฉียดตายก็เริ่มเข้าสู่ช่วงเวลาพักฟื้นตัวเองในช่วงกลางที่ว่าด้วยเรื่องของความรักของตัวเองล้วนๆอย่าง If I can’t go see you right now ถ้าวันนึงฉันไม่สามารถไปหาเธอได้แล้วในตอนนี้มันจะเป็นยังไงนะ, Goodbye, stay well งั้นเราทั้งคู่มาอำลาจากกันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเถอะ เพลงนี้ได้ guest คนพิเศษเพียงหนึ่งเดียวอย่าง ชองฮา มาร่วมฟีทเจอร์ริ่งที่ไม่ต้องมีเทคนิคอะไรให้มันมากมาย ฟีลลิ่งปล่อยหัวใจตัวเองไปตามความรู้สึกล้วนๆ
• Missed Call กลายๆว่าภาคต่อจาก Next episode ที่เล่าถึงชีวิตของตัวเองที่ร้องไห้ต่อหน้าผู้เป็นแม่ แต่คราวนี้มาในมาดที่โตขึ้นเริ่มออกห่างจากบุพการีจนลืมรับสายของท่านทั้งคู่ เป็นช่วงเวลาสามแทร็คที่ทำให้เห็นว่าชานฮยอกเริ่มจะคิดถึงคนรอบข้ามที่เคยปล่อยปะละเลยไปก่อนหน้านี้ เป็นอีกหนึ่งความตั้งใจใน bucket list ที่ต้องสะสางให้เสร็จสิ้นก่อนที่จะไม่ได้มีโอกาสได้ทำมันอีกครั้ง
• What the เลยเป็นความละอายแก่ใจในชีวิตของตัวเองก่อนหน้านี้ที่ไม่สามารถทำในสิ่งที่ต้องการได้เสียทุกอย่าง มู้ดเรโทร soul-ballad สูตรสไตล์เกาหลีเป็นแน่แท้ บรรยากาศที่ชานฮยอกสื่อออกมาทำให้เราได้เห็นถึงความเศร้าของเจ้าตัวจนอยากตบไหล่เบาๆปลอบใจ เป็นเพลงเดียวในอัลบั้มที่รู้สึกว่าติดสูตรความเป็นอัคมูจาก NEXT EPISODE มาแบบ 100% แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจมาก ก็เจ้าตัวเป็นโปรดิวเซอร์นี่หน่า..
• ไทม์มิ่งช่วงสุดท้ายของอัลบั้มพร้อมที่จะลงมือทำเพื่อก่อนที่มันจะสายเกินไป Castle in my dream การเปรียบเทียบถึงสิ่งที่อยากทำเป็นปราสาทหลังใหญ่ที่เคยวาดฝันเอาไว้ว่าจะต้องสร้างมันให้ได้ในสักวันหนึ่งของชีวิตยังคงเป็น folk pop ปล่อยใจสบายๆแต่ก็หนักแน่นไปด้วย passion ที่พร้อมจะลงมือทำมันเสียเลยตอนนี้
• A DAY เลยเป็นการต่อเนื่องที่สุดท้ายแล้วจะมีชีวิตอยู่รอดแค่เพียงวันเดียวเท่าไหร่ ทำตามความฝันของตัวเองมันซะเลยสิเดี๋ยวมาบ่นเสียเวลาทีหลังไม่ได้แล้ว อีกหนึ่งอย่างของเพลงนี้คือสิ่งที่ชานฮยอกโยนคำถามให้กับคนฟังเหมือนกันว่าถ้ามีชีวิตแค่เพียงหนึ่งวันจะเลือกทำอะไร ซาวนด์มาในสไตล์ r&b-blues แต่ใช้เทคนิคการร้องบิดพริ้ว auto-tune ซะแอบเซ็งกับมู้ดที่ไม่ค่อยเข้ากันหน่อยๆ
• Funeral Hope แทร็คปิดจบอัลบั้มเมื่อตัวเองได้ตายจากโลกนี้โดยสมบูรณ์ หวังว่าคำอวยพรในงานศพจะสามารถส่งไปถึงบนท้องฟ้า เป็นการบิ้วท์อารมณ์ตัดฉับ transition ช่วงระหว่างโทนบัลลาดเงียบๆเหมือนกับว่าเรากำลังสวดมนต์ภาวนาให้เขาได้ไปสู่ภพภูมิที่ดีในโลกหน้าจนไปสู่การสรรเสริญสไตล์ gospel
ทำเอาคิดตามไปโดยปริยายว่ายังไงซะคนเราแม่งก็ต้องใช้ชีวิตเพื่อวันข้างหน้าต่อไปอยู่ดี สวดมนต์ภาวนาหรือร้องเพลงอ้อนวอนต่อพระเจ้าให้ตายท้ายที่สุดมันก็เป็นได้แค่การปลดปล่อยความทุกข์ตัวเอง ณ เวลาตรงนั้นที่คนใกล้ตัวจากโลกนี้ไปแล้ว สิ่งที่ชานฮยอกหวังในงานศพของตัวเองแค่ต้องการให้ทุกคนไม่จมปลักกับความเศร้าของตัวเองก็พอ
• คาดไม่ถึงว่าชานฮยอกจะเลือกแนวคิดที่เหมือนกับว่าเป็นเสี้ยวสุดท้ายของความทรงจำตัวเองมานำเสนอลงในอัลบั้มแรกของตัวเองได้ ว่ากันตามตรงศิลปินเคป็อปส่วนมากไม่เคยมีใครหยิบแนวคิดตรงนี้มาเล่นกันตั้งแต่แรกเริ่ม มองกลับกันแล้วชานฮยอกดูพัฒนาจากเมื่อก่อนที่คอยทำเพลงเนื้อหาสบายๆเน้นเข้าถึงง่ายทุกเพศทุกวัย กลายเป็นว่าตอนนี้เขาสามารถทำในสิ่งที่ใจต้องการเพื่อสอดคล้องต่อความคิดในสมองของตัวเองมากที่สุด
ใครจะไปคิดว่าการที่ตัดสินใจเข้ารับใช้ชาติในอายุยังน้อยที่แค่สั่งสมประสบการณ์เพื่อมาแต่งเพลงในอัลบั้ม SAILING จะกลายเป็นการต่อยอดความคิดที่ขยายความไปสู่ชีวิตในอนาคตต่อไปได้ ผนวกไปถึงภาคดนตรีที่เขาอยากลองทำอะไรหลายๆอย่างที่คนมักสบประมาทว่าไม่ประสบความสำเร็จหรือไม่มีทางทำมันได้ก็ทำให้เห็นถึงความประจักษ์ในฝืมืองานโปรดิวซ์ที่ร้อยเรียงทิศทางมาแล้วเป็นอย่างดี
วิธีการเล่าเรื่องในส่วนนี้มันเลยเชื่อมโยงต่อกันแบบไม่สวิงไปมาจนรู้สึกเกิดอาการสับสนหรือหลงทาง แม้จะมีช่วงเวลาที่มันยังไม่ได้ไปสุดทางหรือแอบปล่อยไก่บ้างเพื่อคลายเครียดไม่ตึงจนเกินเหตุจำเป็น
• เริ่มเข้าใจในการกระทำของชานฮยอกที่ผ่านมามากขึ้นตั้งแต่การที่ยกเอาโซฟาไปนั่งอยู่กลางฟุตบาทบนถนนใหญ่แล้วอ่านหนังสือพิมพ์มันตรงนั้นหรือจะอยู่ในกระจกแก้วตามสถานที่ต่างๆเพื่อโปรโมทอัลบั้มแม้กระทั่งโกนหัวตัวเองกลางรายการ inkigayo ระหว่างโชว์ มันไม่ใช่การกระทำที่มองว่า เฮ้ย! มึงอยากจะติสท์แตกหรือเปล่า? ไม่เลย มันเชื่อมต่อเรื่องราวในอัลบั้มที่เมื่อรู้ตัวว่าเราต้องการที่จะทำอะไร ใช่ มึงทำมันตอนนี้เลยอย่าสนคนอื่นว่าใครจะมองการกระทำที่แปลกประหลาดตายไปก็ไม่ได้ทำอยู่ดี เสียดายตอนเป็นวิญญาณก็ไม่ทันเสียแล้ว
แต่ก็รู้สึกได้อีกหนึ่งอย่างว่าไอ้ความคิดที่อยากทำอะไรทำก่อนจะตายมันไม่ได้แว๊บเข้ามาในหัวเป็นช่วงประเดี๋ยวประด๋าวเล่นๆ สัมผัสได้เลยว่าชานฮยอกเริ่มจมปลักกับแง่คิดการมีชีวิตอยู่ของตัวเองในปัจจุบันที่ทั้งผ่านเรื่องราวของ COVID-19 แพร่ระบาดกักตัวอยู่หลายรอบมันเลยส่งผลกระทบไปถึงจิตใจของตัวเองจนฟุ้งซ่านเกินขอบเขตจำกัดความคิดไปไกลเกินกว่าจะรั้งเอาไว้แล้ว มองในแง่ที่ว่ามันเป็นเรื่องราวอนาคตที่น่าจะเกิดขึ้นได้ยากก็ตามเหอะ
แต่การจำลองสถานการณ์ตัวเองแนวนี้มันกลับคิดได้ยากว่าเจ้าตัวจะสามารถหลุดพ้นออกมาจากจินตนาการตรงนี้ได้แม้ว่าเราจะไม่มีทางรับรู้ว่ามันต้องใช้เวลานานถึงเมื่อไหร่กันแน่ ต่อให้ตอนนี้จะยังมีคนรอบข้างคอยอยู่เคียงข้างแต่กลัวว่าสักวันนึงเขาจะกลายเป็นคนจมปลักไปกับความคิดของตัวเองโดยสมบูรณ์
“ไปสุดทางมันดีนะแต่ก็ไม่ควรจมปลักอีกด้วยเช่นกัน”
Score: 7.5/10
Top Tracks: Eyewitness account, Siren, Panorama, Time! Stop!, Missed Call, What the, Castle in my dream
thank u for reading 🙏
ถ้ามีคำหรือประโยคไหนที่ใส่มาเพื่อความอรรถรสแล้วไม่ถูกใจผู้อ่านทุกท่านขออภัย ณ ที่นี้ด้วย
-
โฆษณา