ตู้ Pinball ธุรกิจผลิตเงินสด ของวอร์เรน บัฟเฟตต์
รู้หรือไม่ว่าวอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยพูดกับบิลล์ เกตส์ ว่าตู้ Pinball หยอดเหรียญ เป็นธุรกิจที่ดีที่สุด ที่เขาเคยทำมา
เพราะธุรกิจนี้สามารถคืนทุนให้เขาได้ภายใน 1 สัปดาห์
ทำให้เขา สามารถขยายกิจการได้อย่างรวดเร็ว
แล้วตู้ Pinball หยอดเหรียญ ที่ไว้เล่นฆ่าเวลากลายมาเป็น สุดยอดธุรกิจของบัฟเฟตต์ได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ย้อนกลับไป สมัยที่บัฟเฟตต์ยังเป็นเด็ก เขาเล่าว่า
ได้ค่าขนมไปโรงเรียนเพียงสัปดาห์ละ 5 เซนต์ หรือประมาณ 40 บาทในปัจจุบัน
แต่เขาไม่ต้องการ ที่จะได้เงินเพียงเท่านั้น
เขาจึงมีความคิดที่จะหาเงินเพิ่ม ด้วยการทำธุรกิจตั้งแต่เด็ก
โดยเริ่มตั้งแต่ ขายโค้กตามบ้าน ขายหมากฝรั่ง
ขายหนังสือพิมพ์ ขายนิตยสาร นั่นทำให้บัฟเฟตต์
เริ่มที่จะมีเงินเป็นกอบเป็นกำขึ้นมา
จนกระทั่งในปี 1946 ขณะที่บัฟเฟตต์อายุ 17 ปี
เขาเกิดปิ๊งไอเดียในการทำธุรกิจใหม่ขึ้นมา นั่นคือ ธุรกิจตู้ Pinball
บัฟเฟตต์ได้ซื้อตู้ Pinball มือสองมา ในราคา 25 ดอลลาร์สหรัฐ
นำมาซ่อมนิดหน่อย แล้วก็หาสถานที่ดี ๆ ในการติดตั้ง เพราะเขารู้ว่า สำหรับธุรกิจนี้ ทำเลเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
หลังจากตระเวนหาอยู่นาน บัฟเฟตต์ก็ได้พบกับทำเลดี ๆ แล้ว นั่นก็คือ ร้านตัดผม เพราะเป็นสถานที่ที่คนมาใช้บริการ เป็นประจำสม่ำเสมอ ทุกเดือน
ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ลูกค้าที่ร้าน สามารถเล่นเกม
ฆ่าเวลาระหว่างรอคิวตัดผมได้แล้ว
เจ้าของร้านยังได้ค่าเช่าสถานที่ ในรูปของส่วนแบ่งกำไรจากตู้ Pinball ถึงครึ่งหนึ่ง เรียกได้ว่า Win-Win กันทั้งคู่
ซึ่งในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ บัฟเฟตต์ก็สามารถทำเงิน
ได้ถึง 25 ดอลลาร์สหรัฐ และสามารถนำเงินไปซื้อตู้ Pinball มาตั้งเพิ่มอีก 1 เครื่อง
ในเวลาเพียงไม่นาน บัฟเฟตต์ก็มีตู้ Pinball ถึง 8 เครื่อง
ในร้านตัดผมทั่วทั้งเมือง
โดยตู้ Pinball เพียง 1 เครื่อง สามารถสร้างผลตอบแทน
ได้ถึง 25 ดอลลาร์สหรัฐต่อสัปดาห์ หรือ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี
แต่บัฟเฟตต์มีถึง 8 เครื่อง แสดงว่าใน 1 ปี ธุรกิจตู้ Pinball
สามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 10,400 ดอลลาร์สหรัฐ
หรือคิดเป็นมูลค่าในปัจจุบันเท่ากับ 5.7 ล้านบาท
ด้วยต้นทุนเพียง 110,000 บาทเท่านั้น
ซึ่งบัฟเฟตต์ ถึงกับกล่าวว่า ตู้ Pinball
เป็นธุรกิจที่ดีที่สุดที่เขาเคยทำมา
แล้วปัจจัยใดคือสิ่งที่ทำให้ ธุรกิจตู้ Pinball หยอดเหรียญ
ประสบความสำเร็จ ?
- ทำเลดี ทำให้มีคนมาใช้บริการสม่ำเสมอ
- มีรายได้เป็นเงินสด ทำให้สามารถขยายกิจการได้ง่าย
- ไม่ต้องดูแลด้วยตัวเอง แต่จ้างเจ้าของร้านตัดผมให้ช่วยดูแลตู้ Pinball ด้วยการแบ่งกำไรให้ครึ่งหนึ่ง
ซึ่งเราจะเห็น โมเดลธุรกิจคล้าย ๆ กันนี้ในประเทศไทย
เช่น ตู้สติกเกอร์ถ่ายรูป ตู้เต่าบิน ตู้คีบตุ๊กตา เป็นต้น
โดยหลักการลงทุนนี้ ก็คล้ายกับการลงทุนในหุ้นของบัฟเฟตต์ ที่ตัวเขาไม่ต้องลงแรงเข้าไปบริหาร
แต่เน้นการศึกษาและลงทุนในกิจการที่สามารถดูแลตัวเองได้ และคอยผลิตเงินสดให้กับตัวเขาไปเรื่อย ๆ นั่นเอง..
หนังสือ BRANDING THE NATION หนังสือที่เล่าถึงการสร้างแบรนด์ของแต่ละประเทศที่ทำให้ แต่ละประเทศเป็นแบบทุกวันนี้
เช่น ทำไมเยอรมนีเป็นประเทศแห่งรถยนต์ ทำไมฝรั่งเศสเป็นประเทศแห่งแบรนด์หรู สั่งซื้อเลยที่
- 27
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
