13 พ.ย. 2022 เวลา 04:11 • ไลฟ์สไตล์
... คนที่เพิ่งมารู้จักเราในช่วง 4-5 ปีหลัง อาจจะมองว่าเราเปนคนใจเย็น เงียบๆ นิ่งๆ ไม่ค่อยพูดมาก ชอบฟังมากกว่าพูด แต่ในความเปนจริงคือ เราเปนคนใจร้อนมากมาแต่ไหนแต่ไร! ทุกวันนี้ก็ยังเปน เพียงแต่เราเลือกที่ 'ใจร้อน'​ กับบางอย่างที่มันดีๆ เช่น รีบทำงานให้เสร็จ! รีบอ่านหนังสือหรือดูซีรีส์ให้จบ! จะได้ไปทำอย่างอื่นต่อ อะไรเทือกนี้
... แต่ความใจร้อนอันเปนด้านมืด ก็ยังคงมีอยู่ครบครัน (อาจเปนเพราะว่าไพ่ The Devil เปนหนึ่งในสองของไพ่ประจำตัวเราด้วยแหละ มันจึงยังคงส่งอิทธิพลต่อความคิดจิตใจและพฤติกรรมของเราอย่างแก้ไม่หาย)​ เพียงแต่เราเลือกที่จะไม่แสดงมันออกมาแบบทันทีทันควัน เหมือนตัวเองเปนฝาผนังที่พอมีลูกบอลลอยมากระทบ ก็เด้งมันกลับไปด้วยความแรงเท่ากันอย่างแต่ก่อน
... พูดให้ชัดเจนกว่าที่พูดไปคือ เวลามีปัญหาซึ่งส่งผลกระทบต่อเราโดยตรงเกิดขึ้น เราจะ 'เลือก'​ นิ่งเฉยก่อน เพื่อรอดูทีท่าสถานการณ์ว่ามันจะลุกลามคืบหน้าหรือบานปลายไปถึงไหน ถ้ามันคลี่คลายไปเองด้วยดี ก็ถือว่าโชคดีรอดตัวไป แต่ถ้าปล่อยไว้แล้วมันเหมือนเดิม ไม่มีวี่แววว่าอะไรๆ มันจะดีขึ้นตามมาล่ะก็ โอกาสที่จะเกิดความ 'แตกหัก'​ ระหว่างเรากับตัวปัญหาก็ย่อมมีสูง
... นั่นก็เพราะว่า เรายังเปนคนใจร้อน ยังเกรี้ยวกราด ยังควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อย เพียงแต่ท่าทีที่แสดงออกต่อหน้าคนอื่นอาจจะ 'ซอฟต์'​ ลงไปพอสมควร ทั้งด้วยวัยที่เพิ่มขึ้น ทั้งด้วยประสบการณ์เก่าที่สอนเราอยู่หลายครั้งหลายหนว่า ความใจร้อนโผงผางกราดเกรี้ยวไม่เคยช่วยแก้ปัญหา มีแต่ทำให้ทุกอย่างแย่ลงกว่าเดิม
... อย่างน้อยที่สุดก็คือความรู้สึกของเราเองที่ต้องตกอยู่ในสภาพบอบช้ำอย่างเลี่ยงไม่ได้!
...​ พูดง่ายๆ คือทุกครั้งที่เราไป 'ออกศึก'​ รบพุ่งกับปัญหา หรือสิ่งที่มันทำให้เรารู้สึกว่าไม่เปนธรรม กำลังโดนเอารัดเอาเปรียบ ไปจนถึงล้ำเส้น ไม่ให้เกียรติ ไม่มีความเคารพซึ่งกันและกัน... ในท้ายที่สุด ก็มีแต่เราคนเดียวที่ต้องหอบร่างมานอนเลียบาดแผล(ใจ)​ หาทางเยียวยา(อารมณ์ความรู้สึก)​ ตัวเองตามลำพังเสมอ
... เพราะงั้น หลังๆ เวลาเกิดปัญหา เราจึงเลือกที่จะนิ่งและเงียบไว้ก่อน ไม่พูดจนกว่าจะรู้สึกว่ามันจำเปนจริงๆ ทั้งนี้ก็เพื่อมิให้ตนเองต้องเจอกับเรื่องเดิมๆ ปัญหาเดิมๆ ซึ่งถ้ายิ่งทนก็จะยิ่งระคายใจกลายเปนมลพิษในอารมณ์จนเกินแก้ไข
... พูดอีกแบบก็คือ เราจะ 'ลุย'​ ก็ต่อเมื่อแน่ใจแล้วว่าจะยอมแตกหัก เพื่อจบปัญหาให้สิ้นซาก!
... ช่วงสัปดาห์ก่อน เราเพิ่ง 'ออกศึก'​ มาสดๆ ร้อนๆ พูดได้ว่าเปนการไปทะเลาะกับชาวบ้านเปนครั้งแรกในรอบหลายปีของเราเลยแหละ และเราก็คิดว่าตัวปัญหาหรือคู่กรณีของเราคงไม่คิดหรอกว่า ปัญหาของเราเกิดจากพฤติกรรมของเค้าหรอก ขอพูดตรงๆ แบบชาวบ้านละกันว่า... ก็คนมันไม่รู้สึกรู้สาใดๆ อะเนาะ! มันจะยอมรับว่าตัวมันทำผิดเหรอ ขอโทษสักคำมันยังไม่พูด สะกดไม่เปนด้วยซ้ำละมัง!
...​ก็ต้องทำใจคิดเสียว่า โชคชะตากำลังทดสอบจิตใจเรา ด้วยการชักนำให้เราต้องเจอคนประเภทนี้ ซึ่งก็เปนประเภทเดียวกับที่เราเคยเจอเมื่อหลายปีก่อน อันทำให้เราตัดสินใจเลิกเขียนหนังสือไปอย่างถาวร (อดคิดไม่ได้ว่า เราคงมีพลังดึงดูดคนแบบนี้เข้ามาสู่ชีวิตแน่ๆ เพราะพิมพ์เดียวกันเป๊ะ!)​
... เอาเถอะ! ไหนๆ ก็ออกศึกไปเปนที่เรียบร้อยแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้ เท่าที่ทำได้คือ 'เรียนรู้'​ จากสิ่งที่เกิดขึ้น เราเลยให้ไพ่เปนตัวบอกถึงบทเรียนที่ได้จากการทะเลาะครั้งนี้ โดยเปิดไพ่เมเจอร์ 3 ใบ ให้ใบที่หนึ่งสรุปบทเรียนจากศึกครั้งแรก ใบที่สองสรุปบทเรียนจากศึกครั้งสอง และใบที่สามสรุปบทเรียนโดยรวมจากทั้งสองครั้ง
... ไพ่ที่เปิดได้คือ 1) Justice 2) The High Priestess และ 3) Temperance
... ไพ่ใบที่หนึ่งพูดถึง 'ความยุติธรรม'​ ถือว่าตรงมากๆ เพราะปัญหาที่เราเจอเปนเรื่องของ 'ความแฟร์'​ การไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบเราอยู่ฝ่ายเดียว ทำให้เราตัดสินใจในสิ่งที่ควรทำเพื่อปกป้องสิทธิ์ของตนเอง แม้ว่าเราจะเปนฝ่ายต้องสูญเสียผลประโยชน์ แต่การต่อสู้ในครั้งนี้ก็ให้บทเรียนแก่เราว่า ไม่ว่าจะทำสิ่งใดต้องคิดถึงความยุติธรรมทั้งต่อตัวเองและผู้อื่นให้มาก อย่ายอมให้ใครมาเอาเปรียบ และอย่าปล่อยให้ใครเอาเปรียบเรา ชีวิตจึงจะเจริญ
... ไพ่ที่สองพูดถึง 'การใช้อารมณ์' ซึ่งก็ค่อนข้างตรงอีก เพราะตอนเราที่เกิดปัญหา เราพยายามใช้ความนิ่งสงบและอดทน โดยยึดหลัก "แก้ไขคนอื่นไม่ได้ก็จงแก้ที่ตัวเอง" แต่พอได้ยินบางคนบอกว่า "ยังไงอีกฝ่ายก็ไม่รู้สึกอะไรหรอก" เราเลยตัดสินใจระเบิดออกมาจนมันกลายเปนเรื่องใหญ่อย่างที่ไม่ควรเปน! เนื่องจากรู้สึก 'กดดัน'​ กับปัญหานี้มานาน ซึ่งเปนสิ่งที่เราแก้ไม่ได้ด้วย เพราะไม่มีอำนาจที่จะไปทำอะไร จึงได้แต่อดทนมาตลอด จนกระทั่งทนไม่ไหวอีกต่อไป
... โชคดีที่การระเบิดอารมณ์ของเราในครั้งนี้ไม่ก่อผลเสียหายตามมามากนัก เท่าที่เกิดขึ้นก็สามารถปรับความเข้าใจกันได้ทัน แต่ก็ทำให้เราตระหนักได้ถึงด้านร้ายของการควบคุมอารมณ์เองไม่อยู่ ว่ามันส่งผลร้ายแรงแบบคาดไม่ถึงได้อย่างแท้ทรู!
... ส่วนไพ่ใบที่สามซึ่งเปนการสรุปบทเรียนในภาพรวม บอกให้เราพยายามค้นหาความสมดุลในตัวเองระหว่าง 'เหตุผล'​ และ 'อารมณ์'​ ในการแก้ปัญหา เพราะบางเรื่องใช้เหตุผลมากไปก็ไม่ดี แต่บางเรื่องใช้อารมณ์มากไปก็แย่ จึงต้องหาทางนำทั้งสองอย่างมาผสมเข้าด้วยกันให้พอดี เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างราบรื่น ลุล่วงไปด้วยดี ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบหรือความเสียหายใดๆ ตามมา
... แต่ว่าก็ว่าเถอะ! จะหาว่าพูดแบบเข้าข้างตัวเองก็ได้ คือเราว่าเราก็ 'อดทน'​ เวลาเจอปัญหานานาอยู่ระดับหนึ่ง อย่างเรื่องโดนเอาเปรียบ เราก็ยอมตกเปนฝ่ายถูกเอาเปรียบอยู่สักพัก จนชักจะทนไม่ไหวแล้ว ถึงค่อยลุกขึ้นมาสวมชุดเกราะกับเค้าบ้าง เพราะคิดว่าถ้าขืนปล่อยไว้ อีกฝ่ายก็มีแต่จะได้ใจ แถมเราเองยังได้ชื่อว่ามีส่วนสนับสนุนให้คนบางคน มันเห็นแก่ตัวยิ่งขึ้นไปอีก!
...​ ก็จะกลายเปน 'เวรกรรม'​ ติดตัวเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เรียกว่าซวยทั้งขึ้นทั้งล่องเลยทีเดียว... :'-P
(11/11/2565)​
โฆษณา