แก้วมังกรแดงกับแก้วมังกรขาว แบบไหนขายได้ราคาดี?
“แก้วมังกร” หรือ “Dragon Fruit” เป็นผลไม้ยอดนิยมที่คนไทยนิยมรับประทาน เนื่องจากหาทานง่าย และมีราคาไม่แพง แก้วมังกรที่ปลูกในไทย มีทั้ง สีแดงและสีขาว แต่เพื่อน ๆ ชาวเกษตรสัญจร ทราบมั้ยครับว่าแก้วมังกรสีแดงและสีขาวนอกจากมีสีที่แตกต่างกันแล้ว ยังมีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง และแก้วมังกรสีอะไรขายได้ราคาดีมากกว่ากัน เกษตรสัญจรขอนำความรู้ดี ๆ มาฝากเพื่อน ๆ ครับ
หากสังเกตุจากลักษณะภายนอก จะทราบได้อย่างไรว่าข้างในเป็นแก้วมังกรสีแดงหรือขาว ให้สังเกตุจากครีบของแก้วมังกร หากเป็นแก้วมังกรสีขาวครีบจะชิดกับผิว หากเป็นแก้วมังกรสีแดงครีบจะตั้งและมีเนื้อที่ครีบเยอะมากกว่า
แก้วมังกรแดงกับขาวสีอะไรขายได้ราคาดีกว่ากัน?
แก้วมังกรสีขาวเปลือกแดง ข้อดีคือ ใช้ระยะเวลาในการปลูกน้อยกว่า แก้วมังกรสีแดง ขนาดผลมีขนาดใหญ่กว่า เนื้อมีความกรอบมากกว่า ติดผลง่าย ทำให้ได้ผลผลิตต่อไร่สูง และเป็นที่นิยมของตลาด
ข้อเสียของแก้วมังกรเนื้อสีขาวคือ จะมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว เม็ดมีกลิ่นเหม็นเขียวเล็กน้อย และอ่อนแอกว่าพันธุ์อื่นทำให้สามารถติดโรคได้ง่าย ปัจจุแก้วมังกรสีขาวไซต์ใหญ่ จำหน่ายที่กิโลกรัมละ 30 - 35 บาท
แก้วมังกรสีแดงเปลือกสีแดง ข้อดีคือ มีสารต้านอนุมูลอิสระ และสารแอนติออกซิแดนท์สูง สามารถนำไปแปรรูปได้หลากหลาย รสชาติหวาน และทนต่อโรค ออกดอกและให้ผลผลิตได้หลายรอบ
ข้อเสียของแก้วมังกรเนื้อสีแดงคือ เนื้อจะไม่กรอบเท่าสีขาวและมีน้ำเยอะ แก้วมังกรเนื้อสีแดง ปัจจุบันจำหน่ายที่ กิโลกรัมละ 40 - 50 บาท
เคล็ดลับการทานแก้วมังกรให้อร่อย ก่อนรับประทานแก้วมังกร ควรนำแก้วมังกรไปล้างทั้งเปลือกให้สะอาด จากนั้นสามารถนำมาผ่าครึ่งและตักกินได้เลย หรือหากต้องการทานแก้วมังกรให้รสชาติดี ควรนำแก้วมังกรไปแช่เย็นทั้งเปลือกก่อนนำมารับประทาน จะทำให้รสชาติของแก้วมังกรสดชื่นมากยิ่งขึ้นครับ
ประโยชน์ของแก้วมังกร
1.มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีสรรพคุณช่วยป้องกันมะเร็ง
2.มีแคลอรี่ต่ำ สามารถนำมารับประทานในช่วงที่ลดน้ำหนักได้ แก้วมังกร 1 ผล จะมีแคลอรี่แค่ 66 แคลอรี่
3.ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย แก้ท้องผูกเนื่องจากมีไฟเบอร์สูง
4.ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและความเสี่ยงในโรคหัวใจขาดเลือดได้
5.เหมาะกับคุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรเนื่องจาก มีแคลอรี่ต่ำและมีธาตุเหล็กและวิตามินซีสูงช่วยกระตุ้นน้ำนมหลังคลอด
วิธีการขยายพันธุ์แก้วมังกรสามารถทำได้ 3 วิธี คือ เพาะเมล็ด เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ แต่วิธีที่ทำได้ง่ายที่สุดคือวิธีปักชำ ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
1.คัดเลือกต้นแม่พันธุ์ที่แก่และสมบูรณ์
2.เมื่อได้ต้นแม่พันธุ์แล้ว นำมาตัดเป็นท่อน ท่อนละ 30 เซนติเมตร
3.เมื่อได้กิ่งพันธุ์แล้ว สามารถนำกิ่งพันธุ์มาปักชำได้เลย โดยนำทางโคนปักลงไป หากไม่ทราบฝั่งไหนเป็นโคน ให้สังเกตุจากหนาม ถ้าปักถูกต้องหนามจะชี้ขึ้นข้างบน
4.นำแก้วมังกรที่ปักชำไว้มาเก็บไว้มในที่ร่ม รดน้ำวันละ 2 - 3 ครั้ง จนระยะเวลาประมาณ 2 เดือน สามารถให้ผลผลิตได้
ระหว่างแก้วมังกรขาวกับแก้วมังกรแดง เพื่อน ๆ เกษตรสัญจรชอบทานแก้วมังกรสีไหนมากกว่าสามารถนำมาแชร์กับเกษตรสัญจรได้นะคับ
……………………………………
เกษตรสัญจร สื่อเกษตรยุคใหม่ แหล่งข้อมูลสาระที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
รวมเรื่องเด็ด เกษตรกูรู ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเกษตรเพิ่มเติมได้ที่ :
𝗙𝗮𝗰𝗲𝗯𝗼𝗼𝗸: เกษตรสัญจร
𝗟𝗜𝗡𝗘 𝗢𝗳𝗳𝗶𝗰𝗶𝗮𝗹: @kasetsanjorn
𝗕𝗹𝗼𝗰𝗸𝗱𝗶𝘁: blockdit.com/kasetsanjorn/
𝗬𝗼𝘂𝗧𝘂𝗯𝗲: youtube.com/c/Kasetsanjorn
𝗧𝗶𝗸𝗧𝗼𝗸: tiktok.com/@kasetsanjorn
𝗧𝘄𝗶𝘁𝘁𝗲𝗿: twitter.com/kasetsanjorn/
𝗪𝗲𝗯𝘀𝗶𝘁𝗲: kasetsanjorn.com
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
