14 พ.ย. 2022 เวลา 03:49 • สุขภาพ
DIABETES: ผู้ป่วยเบาหวานในไทยเพิ่มต่อเนื่อง สธ.คาด ปี 2573 เบาหวานทำคนไทยเสียชีวิต 1 ราย ในทุก 5 วินาที
แม้ว่าในประเทศไทย โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus) ถือเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) แต่ก็พบว่า มีคนไทยป่วยเบาหวานมากถึง 4.8 ล้านคน ในหลายรายยังเกิดภาวะแทรกซ้อน โดยมีผู้ป่วยเพียง 35.6% เท่านั้น ที่ได้รับการวินิจฉัยและดูแลจากแพทย์ จนสามารถบรรลุเป้าหมายในการรักษา ส่งผลให้มีผู้ป่วยมากกว่า 200 รายต่อวัน เสียชีวิตเพราะโรคเบาหวาน
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคเบาหวานทั่วโลกปีที่ผ่านมา มีผู้ป่วย 537 ล้านคน คาดว่าในปี 2573 จะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 643 ล้านคน และทำให้เสียชีวิตสูงถึง 6.7 ล้านคน หรือเสียชีวิต 1 ราย ในทุก 5 วินาที ส่วนในประเทศไทย มีแนวโน้มพบผู้ป่วยเบาหวานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 3 แสนคนต่อปี แต่มีผู้ป่วยโรคเบาหวานอยู่ในระบบทะเบียนเพียง 3.3 ล้านคน
“ปี 2563 มีผู้เสียชีวิตจากโรคเบาหวานทั้งหมด 16,388 คน อัตราตาย 25.1 ต่อประชากรแสนคน ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขในการรักษาเบาหวานเฉลี่ยสูงถึง 47,596 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ โรคเบาหวานยังเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดโรคอื่นๆ ในกลุ่มโรค NCDs เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง และโรคไตวายเรื้อรัง” อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว
โรคเบาหวาน เป็นภาวะที่ร่างกายมีปริมาณของน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เกิดจากการขาดฮอร์โมนอินซูลิน หรือฮอร์โมนอินซูลินทำงานได้ลดลง ปัจจุบันสถานการณ์ของโรคเบาหวานยังน่าเป็นห่วง สหพันธ์เบาหวานนานาชาติ (International Diabetes Federation) คาดการณ์ว่า ภายในปี 2045 จะมีผู้ป่วยโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นเป็น 700 ล้านคนทั่วโลก และเพื่อให้คนทั่วโลกเล็งเห็นถึงอันตรายของโรคเบาหวาน สหพันธ์เบาหวานนานาชาติจึงได้กำหนดให้ทุกวันที่ 14 พ.ย. ของทุกปี เป็น "วันเบาหวานโลก"
โรคเบาหวาน ถือเป็นภัยเงียบที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่มีอาการ แต่เราสามารถจำแนกกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ เช่น ผู้ที่มีภาวะอ้วน ผู้ที่มีญาติหรือคนในครอบครัวสายตรงเป็นเบาหวาน โดยแพย์แนะนำว่า แม้ยังไม่มีอาการ แต่คนกลุ่มเสี่ยงก็ควรตรวจคัดกรองเบาหวานเป็นประจำทุกปี และควรหมั่นสังเกตอาการว่ามีความผิดปกติที่เข้าข่ายอาการของโรคเบาหวานหรือไม่
สำหรับ 9 สัญญาณเตือนโรคเบาหวาน ประกอบด้วย กระหายน้ำบ่อยกว่าปกติ , ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ หรือปัสสาวะปริมาณมากกว่าปกติ , หิวบ่อย กินอาหารมากกว่าเดิม , น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ , สายตาพร่ามัว มองไม่ชัด , รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง , มีแผลแล้วแผลหายช้ากว่าปกติ , ชา ปวดแสบ ปวดร้อน หรือรู้สึกเหมือนมีมดไต่ที่ปลายมือปลายเท้า และผิวหนังแห้ง คัน โดยเมื่อมีอาการดังกล่าว ควรรีบมาตรวจเช็กกับแพทย์เฉพาะทางทันที
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมีความเสี่ยงจากโรคเบาหวานหรือไม่ แพทย์แนะนำว่า การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันโรคเบาหวานก็เป็นเรื่องสำคัญ ควรรับประทานอาหารที่เหมาะสมและมีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินเกณฑ์ และตรวจเช็กเบาหวานเป็นประจำทุกปี
#TheReporters #เดอะรีพอร์ตเตอร์ #โรคเบาหวาน
โฆษณา