16 พ.ย. 2022 เวลา 02:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ
“ป่ายล่าน” กลุ่มคนจีน ขอใช้ชีวิตตาม ยถากรรม รอวันเน่าเปื่อย
1
หมดหวัง ท้อแท้ เหนื่อยกับการใช้ชีวิต และการทำงานอย่างหนัก
2
ความรู้สึกที่คนรุ่นใหม่ในประเทศจีน กำลังเผชิญ
จนทำให้พวกเขาเลือกที่จะหันหลัง ให้กับเป้าหมายในชีวิต..
เพราะรู้ว่าทุ่มเทเท่าไร ก็คงประสบความสำเร็จในชีวิตได้ยาก
2
ทั้งสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา ผลพวงจากโรคระบาด ข้าวของแพงขึ้นจากเงินเฟ้อ ไปจนถึงการแข่งขันเข้าทำงาน ที่ยิ่งดุเดือดขึ้น
สิ่งเหล่านี้ค่อย ๆ หล่อหลอมให้คนรุ่นใหม่แดนมังกร
เริ่มหันหน้ามาดำเนินชีวิตแบบใหม่ อย่าง “ป่ายล่าน” มากขึ้นเรื่อย ๆ
แล้วการใช้ชีวิตแบบ “ป่ายล่าน” คืออะไร ?
และสาเหตุของเรื่องนี้ เกิดจากอะไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง..
ป่ายล่าน (Bǎi làn) แปลตรงตัวได้ว่า “ปล่อยให้เน่า”
ซึ่งเป็นการปล่อยวางความสำเร็จ
หลีกหนีความกดดันจากสังคม
ทำงานง่าย ๆ ไม่คาดหวังรายได้ที่สูง
และปล่อยชีวิตทุกอย่าง ให้เป็นไปตามยถากรรม
3
โดยคำว่าป่ายล่าน มีต้นกำเนิดมาจาก คำสแลง ในการแข่งขันกีฬาบาสเกตบอล ในประเทศจีน ที่ใช้พูดถึงภาวะการถอดใจจากการไล่ตามคะแนนทีมฝั่งตรงข้ามให้ทัน เมื่อรู้ว่าทีมของตนเองกำลังจะแพ้ แม้ว่าเกมการแข่งขันจะยังไม่จบ
2
ดังนั้น จึงเป็นการเปรียบเปรยชีวิตของคนรุ่นใหม่
ที่ขอยอมแพ้ในการต่อสู้กับการใช้ชีวิต
หมดไฟและแรงทะเยอทะยาน
จนบางคนละทิ้งความฝัน และขอเลือกใช้ชีวิตไปวัน ๆ
หากถามว่า อะไรคือต้นเหตุของป่ายล่าน ในประเทศจีน ?
คำตอบของเรื่องนี้ มีที่มาจากหลากหลายสาเหตุ ทั้งจาก..
1
- วิวัฒนาการต่อจาก ภาวะหมดใจ “Lying flat” หรือ ถ่าง ผิง (Tang Ping)
ในปีที่ผ่านมา กลุ่มคนรุ่นใหม่ชาวจีน ได้ออกมาแสดงจุดยืนในการใช้ชีวิต แบบถ่าง ผิง ที่ปฏิเสธการทำงานที่หนักมากเกินไป และเลือกทำงานเท่าที่จำเป็น เพื่อให้ตนเอง ได้มีเวลาพักผ่อน
1
รวมถึงไม่คิดที่จะแต่งงานมีลูก
ไม่ซื้อบ้านหรือรถยนต์
และปฏิเสธที่จะทำงานพิเศษเพิ่ม
1
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการสะท้อนอุดมการณ์ของคนรุ่นใหม่ ที่ขอปลดตัวเอง ออกจากอุดมการณ์แบบเดิม ๆ จากคนรุ่นก่อน
2
เพราะต่อให้พวกเขาดิ้นรนทำงานหนัก
เพื่อไขว่คว้าความสำเร็จมากแค่ไหน
แต่ในบริบทของสังคมที่แตกต่าง จากคนรุ่นก่อนเช่นนี้
มันจึงยากที่จะทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายในชีวิตได้
แม้พวกเขาจะตั้งใจทำเต็มที่แล้วก็ตาม..
1
- คนรุ่นใหม่ หางานทำได้ยากขึ้น จากสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาของประเทศจีน
1
โดยในเดือน ก.ค. ปีนี้
อัตราการว่างงานของคนจีน อายุ 16-24 ปี อยู่ที่เกือบ 20%
ซึ่งถือว่า เป็นตัวเลขที่สูงมาก
และยังเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ที่ตัวเลขนี้อยู่ที่ประมาณ 16%
สาเหตุก็มาจากตำแหน่งงานที่ถูกบีบให้ลดน้อยลง
เพราะสภาพเศรษฐกิจของจีนชะลอตัวครั้งใหญ่
ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการจัดการกับโรคระบาดที่เข้มงวด
2
รวมไปถึง ยังมีหลายคน “ถูกปลด” ออกจากงานอย่าง กะทันหัน
จากการที่รัฐบาลจีนแทรกแซงบริษัทเอกชน
อย่างเช่น กรณีของ “บริษัทติวเตอร์” ที่จะถูกสั่งให้กลายเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร หรืออาจถูกห้าม IPO
1
ซึ่งไม่เพียงแต่งานจะหายากเท่านั้น
กลุ่มคนรุ่นใหม่ยังต้องเผชิญกับ ภาวะเงินเฟ้อ
ข้าวของและค่าใช้จ่ายที่แพงขึ้น
มีเงินเท่าเดิมแต่กลับซื้อของได้น้อยลง
1
ทั้งหมดจึงกลายเป็นตัวกระตุ้นความสิ้นหวังของคนรุ่นใหม่ ให้ก่อตัวขึ้นแบบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้..
อย่างไรก็ตาม แนวคิดแบบป่ายล่าน ได้สร้างความกังวลให้กับนักเศรษฐศาสตร์ และรัฐบาลจีนมิใช่น้อย
เพราะแนวโน้มดังกล่าว อาจส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของจีน ที่ชะลอตัวอยู่แล้ว ให้ยิ่งแย่ลง
รวมถึงยังซ้ำเติม ปัญหาเรื่องประชากรเกิดใหม่ของจีน ที่ตอนนี้ก็อยู่ในขั้นวิกฤติอยู่แล้ว
1
นี่จึงกลายเป็นโจทย์ที่ท้าทายของภาครัฐ ในการเร่งมือแก้ไขเพื่อปลุกพลังคนรุ่นใหม่ ให้กลับมามีความหวังอีกครั้ง..
2
และจากเรื่องราวทั้งหมดนี้
กลายเป็นภาพสะท้อนให้เห็นถึงเสียงของคนรุ่นใหม่ กับปัญหาที่พวกเขาต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
1
ซึ่งจริง ๆ แล้วต้องยอมรับว่า คงไม่มีใครที่อยากสิ้นหวัง หรือท้อแท้กับชีวิต ตราบใดที่พวกเขายังมีทางเลือกที่ดีกว่านี้..
2
โฆษณา