#ร้อยคนร้อยหุ้น หุ้น TVI : สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)
TVI เบี้ยโตดี รายได้โตดี แต่ทำไมกำไร Q3 ถึงลดลงเยอะ
ลองมาดูแต่ละรายการว่าสาเหตุอยู่ที่ตรงไหน
1.เบี้ยประกัน Q3 = 2,035 +266 +15% YoY
รายได้สุทธิ Q3 = 1,613 +247 +18% YoY
ข้อสังเกตุ จะเห็นว่ารายได้สุทธิโต 18% โตในสัดส่วนที่มากกว่าเบี้ยประกันที่โต 15% สาเหตุเพราะเบี้ยประกันจะทยอยรับรู้ตามสัญญา ทำให้เบี้ยที่ได้ในแต่ละไตรมาส จะถูกรับรู้ประมาณ 1ใน4 ส่วนที่เหลือจะเป็นเบี้ยจาก 3Q ก่อนหน้าที่โตระดับ 20% ผลคือทำให้รายได้สุทธิโตมากกว่าการโตของเบี้ยเพราะได้แรงส่งจาก 3Q ก่อนหน้า
2. ค่าสินไหมทดแทนสุทธิ Q3 +328 +45% YoY
Loss ratio Q3/64 = 53.5%
Loss ratio Q3/65 = 65.6% +12.1% YoY
ค่าสินไหมสุทธิเทียบรายไตรมาส Q3 +222 +26% QoQ
Loss ratio Q2/65 = 58.2%
Loss ratio Q3/65 = 65.6% +7.4% QoQ
ค่าสินไหมสุทธิเฉพาะประกันรถ Q3 +367 +58% YoY
Loss ratio Q3/64 = 51.3%
Loss ratio Q3/65 = 68.3% +17% YoY
ค่าสินไหมสุทธิเทียบรายไตรมาส Q3 +208 +26.2% QoQ
Loss ratio Q2/65 = 56.6%
Loss ratio Q3/65 = 68.3% +11.7% QoQ
คำอธิบายข้อ 2
เราจะเห็นว่าค่าสินไหมสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 328 ล้าน ใน Q นี้
ในขณะท่ีค่าสินไหมฝั่ง Auto เพิ่มขึ้นถึง 367 ล้าน สูงว่าสินไหมสุทธิแสดงว่าสินไหมประกันชนิดอื่นลดลง
ข้อมูลตรงนี้ทางบริษัทให้ข้อมูลว่าเกิดจากการเปิดเมือง ฝนตกหนักและน้ำท่วม
ทำให้ Auto Loss ratio เพิ่มขึ้นถึง 17% ! ในไตรมาสนี้
คำถามต่อมาคือ เปิดเมืองทำให้ Loss ratio เพิ่มขึ้นเท่าไหร่ (ปัจจัยถาวร)
แล้วผลกระทบจากน้ำท่วมและฝนตกหนักในรอบหลายปี (ปัจจัยชั่วคราว) ทำให้ loss ratio เพิ่มขึ้นเท่าไหร่ ?
จะตอบคำถามนี้ได้จะใช้วิธีเทียบ QoQ เพราะเรามีการปิดเมืองใน Q3 ปีที่แล้ว และทยอยเปิดเมืองใน Q ต่อๆมา เราจะพบว่า Q ที่มีการเปิดเมือง Loss ratio จะอยู่ที่ 56.6% ก่อนโดดมา 68.3% ใน Qที่มีฝนตกน้ำท่วมหนักในรอบหลายปีอย่าง Q3
แสดงว่าปัจจัยฟ้าฝนทำให้ loss ratio เพิ่มขึ้น 11.7%
ในขณะที่ปัจจัยเปิดเมืองทำให้ loss ratio เพิ่มขึ้นเพียง 6.3%
และถ้าเราเอาเฉพาะปัจจัยฟ้าฝนมาคำนวณค่าสินไหมในส่วนประกัน (ปัจจัยชั่วคราว)
เราจะได้ค่าสินไหมที่ 1,464x11.7% = 163 ล้าน
ในขณะกำไร Q3 ปีที่แล้วอยู่แค่เพียง 126 ล้านบาท
สรุป ผลจากค่าเคลมใน ข้อ 2 ที่เพิ่มขึ้นทำให้กำไร Q3 ลดลงมาก โดยเฉพาะปัจจัยฟ้าฝน
ถ้าปัจจัยนี้คลี่คลายเหลือแค่ปัจจัยเปิดเมือง เราคงจะได้เห็นกำไรใน Q นี้ในระดับ 170-180 ล้านบาท
3. ค่าใช้จ่าย
ค่าจ้างและค่าบำเหน็จ Q3/64 = 239 คิดเป็น 13.5% ต่อเบี้ยประกัน
ค่าจ้างและค่าบำเหน็จ Q3/65 = 298 คิดเป็น 14.6% ต่อเบี้ยประกัน
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน Q3/64 = 192 คิดเป็น 10.8% ต่อเบี้ยประกัน
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน Q3/65 = 238 คิดเป็น 11.6% ต่อเบี้ยประกัน
ฝั่งค่าใช้จ่ายถ้าคิดเป็นตัวเลขอาจจะดูเพิ่มขึ้นพอควร แต่จริงๆแล้วคือเพิ่มขึ้นตามเบี้ยประกัน เพราะพอเทียบสัดส่วนกับเบี้ยประกันกลับเพิ่มขึ้นไม่มาก หรือเพิ่มขึ้นราวๆ 1%
4. ฝั่งลงทุน
รายได้ดอกเบี้ยและปันผล Q3 = 27.8 ล้าน +1.5 ล้าน +5.7%
ฝั่ง capital gain +3.5 ล้าน
ข้อสังเกตุ เดิมปัจจัยการลงทุนฝั่ง cap gain กดดันผลประกอบการ TVI มา 2 ไตรมาส ไตรมาสละประมาณ 100 ล้าน การที่ฝั่ง cap gain กลับมาเป็นบวกแสดงว่าปัจจัยตรงนี้น่าจะคลี่คลายแล้ว ซึ่งถ้าดูในรายละเอียด ฝั่ง cap gain ยังมีขาดทุนอยู่เล็กน้อยในส่วนขาดทุนจากเครื่องมือลงทุน 1.2 ล้าน กับ ปรับมูลค่ายุติธรรมลง 2 ล้านบาท แต่มีกำไรอัตราแลกเปลี่ยน 6.8 ล้านบาท ! (หมายเหตุประกอบงบข้อ 15-16) ตรงนี้พออนุมานได้ว่าบริษัทน่าจะตัดขายหน่วยลงทุนกองทุนต่างประเทศไปเยอะแล้ว และถือเงินสดในรูปดอลล่าร์ไว้ทำให้มีกำไรอัตราแลกเปลี่ยน
สรุป ปัจจัยที่กดดันผลประกอบการ TVI ในไตรมาสนี้ได้เปลี่ยนจากปัจจัยฝั่งลงทุนมาเป็นปัจจัยฟ้าฝนและปัจจัยเปิดเมืองทำให้ค่าสินไหมหรือค่าเคลมประกันรถเพิ่มขึ้นถึง 367 ล้านบาท ทำให้กำไรของ TVI ลดลงจาก 126 ล้านบาทเหลือแค่ 10 ล้านบาท สวนทางรายได้และเบี้ยประกันที่เติบโตค่อนข้างดี
โดยปัจจัยเปิดเมืองเพิ่ม Loss ratio 6.3%
ปัจจัยฟ้าฝน น้ำท่วมเพิ่ม Loss ratio 11.7%
เสริม แล้วบริษัทอื่นๆในอุตสาหกรรมเป็นอย่างไรบ้าง ?
TIP ทิพยประกัน ภาพรวมกำไรเติบโตดีเพราะอัคคีภัยและเบ็ดเตล็ดโตดี แต่รถกำไรลดลงแม้เบี้ยประกันรถจะโตดีมาก Loss ratio ประกันรถเพิ่มจาก 46% ไปเป็น 62% เพิ่มขึ้น 16%
BKI ภาพรวมกำไรกลับมาเติบโตดี non auto ดีทุกตัว แต่กำไร Auto ลด 50% สวนทางเบี้ยที่โตขึ้น Loss ratio ประกันรถเพิ่มจาก 43.8% ไปเป็น 60% เพิ่มขึ้น 16.2%
MTI กำไรเติบโต ประกันรถ Loss ratio เพิ่มจาก 50% ไปเป็น 54.6%
ข้อสังเกต เราจะพบว่าผลประกอบการ TVI ล้อไปตามอุตสาหกรรม ฝั่ง non auto ดีทั้งการเติบโตในแง่กำไรและ loss ratio ที่ลดลง แต่ฝั่ง Auto loss ratio จะเพิ่มขึ้น ทำให้กำไรลดลงแม้เบี้ยจะเติบโตดี แต่ TVI มีเบี้ยฝั่ง Auto สูง ทำให้ได้รับผลกระทบในไตรมาสนี้ค่อนข้างหนัก
ความเห็นส่วนตัว จากปัจจัยน้ำท่วมหนักในปีนี้ทำให้อุตสาหกรรมประกันรถได้จะได้ผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่น้ำท่วมหนักคงไม่ได้เกิดขึ้นทุกปี ปีหน้าถ้าน้ำฝนอยู่ในภาวะปกติ loss ratio จะไม่สูงเท่าไตรมาสนี้ ในขณะเดียวกันเพราะปัจจัยน้ำท่วม บริษัทประกันทุกแห่งมีโอกาสที่จะปรับขึ้นเบี้ยประกันรถชั้น 1 ที่คุ้มครองภัยน้ำท่วมเพื่อชดเชยความเสี่ยง ดังนั้นก็มีโอกาสสูงที่ผลประกอบการอุตสาหกรรมประภัยรถยนต์จะดีขึ้นทั้งอุตสาหกรรมในปีหน้า
สามารถเข้าไปอ่านกระทู้ "ร้อยคนร้อยหุ้น" อย่างละเอียดต่อได้ที่ https://board.thaivi.org/viewtopic.php?p=1957239#p1957239
เป็นกระทู้พิเศษสำหรับสมาชิกเท่านั้น สามารถสมัครทดลองใช้ฟรี 30 วันก่อนอ่านได้ที่ลิ้งค์นี้ครับ https://board.thaivi.org
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
