[ชตระกูล ศรีสวัสดิ์] "The End of Happiness" เขาอาศัยอยู่ที่สนามบินเป็นเวลา 18 ปี ➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖ และในที่สุดก็ ...เสียชีวิตที่สนามบิน ➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

ชตระกูล ศรีสวัสดิ์

•

3 ธ.ค. 2022 เวลา 03:39 • ประวัติศาสตร์

"The End of Happiness" เขาอาศัยอยู่ที่สนามบินเป็นเวลา 18 ปี

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

และในที่สุดก็ ...เสียชีวิตที่สนามบิน

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

โดย Tom Hanks (ชายผู้รับบท) เสียชีวิตเพียงลำพังหลังจากใช้ชีวิตอยู่ในสนามบินนานถึง 18 ปี

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ในอาคารผู้โดยสาร 2 ของสนามบิน Charles de Gaulle นัสซีรี (Nasseri)วัย 77 ปีเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวาย

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

ในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขามักจะนั่งเงียบ ๆ อยู่ที่เดิม มองออกไปนอกหน้าต่างโดยอ้าปากค้าง นัยน์ตาเป็นประกาย และเขาดูไร้ชีวิตชีวา

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

เขาอาศัยอยู่ที่สนามบินตั้งแต่ปี 2531 ถึง 2549 และกลายเป็นทิวทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่

ผู้โดยสารต่อเครื่องหลายคนมักจะถ่ายรูปกับเขา ภาพยนตร์ที่รู้จักกันดี "The End of Happiness(จุดจบของความสุข)" ดัดแปลงมาจากเรื่องราวของ Naseri

ผู้กำกับสปีลเบิร์กซื้อลิขสิทธิ์เรื่องนี้ในราคา 250,000 ดอลลาร์ และเชิญทอม แฮงก์มารับบทเป็นวิคเตอร์ ชายผู้ติดอยู่ที่สนามบิน

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ทันทีที่วิคเตอร์บินไปสหรัฐอเมริกา เขาก็ได้รู้ว่ามีการรัฐประหารเกิดขึ้นที่บ้านเกิดของเขา

และหนังสือเดินทางและบัตรธนาคารของเขาก็ใช้ไม่ได้

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

ด้วยความสิ้นหวัง เขาทำได้แค่รออยู่ที่อาคารผู้โดยสารเท่านั้น และการรอคอยครั้งนี้คือ 9 เดือน

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

ในช่วงเวลานั้นเขาได้พบกับแอร์โฮสเตสสาวสวยและตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

"The End of Happiness" ทำรายได้ในวันเปิดตัวมากกว่า 18 ล้านดอลลาร์ และ 219 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก

แม้ว่าจะไม่ได้รับรางวัลออสการ์ในปี 2548 แต่ก็ยังกลายเป็นหนังคลาสสิกในดวงใจของแฟนหนังหลายคนทั่วโลก

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

อย่างไรก็ตาม เรื่องจริงนั้นโหดร้ายกว่าในหนังมาก

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

Nasseri อาศัยอยู่ที่สนามบินเป็นเวลา 18 ปี เขาไม่ได้รับความโปรดปรานจากแอร์โฮสเตส หรือทำให้ชีวิตของเขากลับมาเป็นปกติ ในที่สุด Nasseri ก็จากไป

หลังจากการเสียชีวิตของ Nasseri โฆษกของสนามบินกล่าวว่าเขาเป็น "บุคคลสำคัญ" ที่สนามบิน

"ชุมชนสนามบินทั้งหมดรักเขาและเจ้าหน้าที่ของเราก็ดูแลเขาอย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าเราจะต้องการให้เขาพบกับ ที่หลบภัยที่แท้จริง"

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

ชีวิตที่ติดอยู่ในอาคารผู้โดยสาร

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

แม้ว่าจะถูกขังอยู่ในสนามบิน นัสเซรียังคงรักษาชีวิตที่ดี เสื้อผ้าของเขาสะอาดและเป็นระเบียบอยู่เสมอ หนวดเครา ผม และเล็บของเขาไม่เคยรุงรัง

เขายืนยันว่าจะตื่นนอนเวลา 5.30 น. ทุกเช้า แปรงฟันด้วยยาสีฟันฟรีที่สนามบิน และจัดกระเป๋าในเวลาเดียวกัน

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

เพื่อไม่ให้กระทบต่อระเบียบของสนามบิน

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

ในระหว่างวัน เขาอ่านนิตยสารและหนังสือพิมพ์เพื่อฆ่าเวลา เก็บไดอารี่ และศึกษาเศรษฐศาสตร์ ในเวลาว่าง เขาแค่เดินเล่นบนพื้นกระเบื้องสีขาวของอาคารผู้โดยสาร

เขาบันทึกประสบการณ์ของเขาและตีพิมพ์อัตชีวประวัติของเขา The Terminator

ซึ่งหนังสือพิมพ์ The Sunday Times อธิบายว่า "น่ารำคาญ แต่ ยอดเยี่ยม"

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

ในตอนกลางคืน เขารอให้ร้านค้าในสนามบินปิด

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

ก่อนที่จะเข้าห้องน้ำเพื่อซักเสื้อผ้า หลังจากซัก เขาแขวนมันไว้ที่ด้ามจับของกระเป๋าเดินทาง จากนั้นหยิบหมอน ผ้าปูที่นอน และผ้านวมออกมา

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

และนอนบนผ้าสีแดง ม้านั่งที่สนามบิน

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

เป็นเวลาหลายปีที่เขารอดมาได้ด้วยความกรุณาของคนแปลกหน้า

บัตรกำนัลอาหารและเงินฟรังก์จากพนักงานสนามบิน และการดูแลร้านอาหารในบริเวณใกล้เคียง

เขามักจะกินครัวซองต์ไข่และเบคอนจากร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดเป็นอาหารเช้า และแซนด์วิชปลาสำหรับมื้อค่ำ

ข้าวของเขามีไม่มาก กล่องสินค้าของสายการบินหกใบ กระเป๋าเดินทางที่หลุดลุ่ย และถุงพลาสติกล้วนเป็นสมบัติของเขา

ข้างในมีนาฬิกาปลุก มีดโกนหนวดไฟฟ้า กระจกส่องมือ คอลเลกชั่นหนังสือพิมพ์และรูปถ่าย โปสการ์ดและจดหมายจากทั่วโลก ตลอดจนเสื้อผ้าของเขา

หลังจากอยู่ที่สนามบินได้ไม่นาน พนักงานก็รู้จักเขา กระทั่งมีผู้โดยสารบางคนมาพบเขา มีคนต้องการให้อาหารและเสื้อผ้าแก่เขา แต่เขาปฏิเสธ และบอกอีกฝ่ายว่า

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

"ฉันไม่ใช่ขอทาน"

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

การติดอยู่ที่สนามบินซึ่งครั้งหนึ่งเคยโด่งดัง

ในเดือนสิงหาคม 2531 ระหว่างทางไปสนามบิน Charles de Gaulle นัสซีรีทำเอกสารที่สามารถพิสูจน์ตัวตนของเขาหาย

เขาเข้ามาอย่างถูกกฎหมายและรัฐบาลฝรั่งเศสไม่สามารถเนรเทศเขาได้

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

แต่เนื่องจากพิสูจน์ไม่ได้ว่าเขาเป็นใคร เขาจึงออกจากอาคารผู้โดยสารไม่ได้และทำได้เพียงอยู่ในพื้นที่รอของสนามบินเท่านั้น

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

ประสบการณ์ชีวิตของ Nasseri นั้นซับซ้อนและสับสน และมีคำอธิบายที่แตกต่างกันอย่างหนึ่ง

เขาบอกกับสื่อว่า UNHCR กำลังตามหาพ่อแม่ของเขาเพื่อพิสูจน์สถานะผู้ลี้ภัยของเขา แต่โฆษกบอกว่านั่นไม่ใช่สาระอย่างเป็นทางการ

เขาเกิดในอิหร่านในปี 2488 แต่เขาสาบานว่าเขาไม่ใช่ชาวอิหร่าน แต่เป็นพลเมืองอังกฤษที่เกิดในสวีเดน

เขากล่าวว่าเขาถูกเนรเทศเนื่องจากทำกิจกรรมต่อต้านชาห์แห่งอิหร่าน แต่การสืบค้นพบว่าไม่เป็นเช่นนั้น

ดังนั้น เมื่อสปีลเบิร์กนำเรื่องราวของเขามาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

เขาจึงให้ Nasseri ดำเนินการทางศิลปะแทน(เป็นช่างตกแต่งว่างั้น)

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

ในระหว่างการถ่ายทำ เนื่องจากมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะถ่ายทำที่สนามบินจริง

ทีมงานใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อสร้างอาคารผู้โดยสารสนามบินเต็มรูปแบบ

ในโรงเก็บเครื่องบินขนาดใหญ่ในแคลิฟอร์เนีย

ใช้เวลาเกือบครึ่งปีสำหรับ 200 คน ช่างฝีมือในการสร้างมัน

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

เนื่องจากสนามบินต้องมีการทำงานที่เหมาะสม

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

ภาพวาดแต่ละแบบจึงได้รับการตรวจสอบโดยวิศวกรมืออาชีพ และแม้แต่ข้อต่อบัดกรีขนาดเล็กก็ไม่มองข้าม

จากการออกแบบทั้งหมด สเกลที่ใหญ่ที่สุดคือพื้นหลังนอกหน้าต่างกระจกของสนามบิน

เพื่อสร้างเอฟเฟกต์ของแสงแดดที่ส่องผ่านกระจกของอาคารผู้โดยสาร

ทีมงานได้ติดตั้งโคมไฟขนาดเล็ก 2,000 ดวง และติดตั้งอุปกรณ์ให้แสงสว่าง 100,000 วัตต์บนคานเหล็ก

บันไดเลื่อนไฟฟ้าทั้ง 4 ตัวในภาพยนตร์ยังสร้างขึ้นเพื่อการถ่ายทำโดยเฉพาะอีกด้วย

หลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับความนิยม

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

นักข่าวและช่างภาพจำนวนนับไม่ถ้วนมาที่สนามบินชาร์ลส์ เดอ โกลล์เพื่อสัมภาษณ์ Nasseri

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

และ เขาประสบปัญหาในการพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ของเขา และเขายอมรับการสัมภาษณ์มากถึง 6 ครั้งต่อวัน

การเคยชิน กับชีวิตที่สนามบินและ การกลัวที่จะจากไป

ในตอนแรก Nasseri ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องใช้ชีวิตที่สนามบิน

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

ต่อมาก็กลายเป็นตัวเลือกที่ถาวร...

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

ในปี 2542 เขาได้รับข่าวดีอย่างกระทันหัน นั่นคือ สิทธิที่จะอยู่ในฝรั่งเศส

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

เขากล่าวว่า "ฉันไม่แน่ใจว่าฉันต้องการทำอะไร จะอยู่ที่สนามบิน หรือ ออกไป"

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

เจ้าหน้าที่สนามบินคนหนึ่งกล่าวว่า

"เขาเป็นเหมือน นักโทษที่ติดคุกมาหลายปี เมื่อเขาเป็นอิสระและ ฉันไม่รู้ว่าเขาจะอยู่รอดข้างนอกได้ไหม”

หลังจากใช้ชีวิตอยู่ในสนามบินเป็นเวลานานที่นี่ก็เหมือนบ้านของเขาและเขาก็ไม่กล้าจินตนาการว่าโลกภายนอกเป็นอย่างไร

แม้ว่าเขาจะสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

เขายอมแพ้

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

อย่างไรก็ตาม ยังมีการคาดเดาของสื่อด้วยว่าสาเหตุที่ Naserli ปฏิเสธที่จะจากไป

นั้นเป็นเพราะเขาถูกขังอยู่นานกว่าสิบปี

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

และชีวิตที่โดดเดี่ยวในระยะยาวของเขา

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

ทำให้เขาเสียสติไปเล็กน้อย

และเขาถูก Charles de Gaulle Airport "เลี้ยงดู" ทางจิตใจ จากสนามบิน.

โดยทางสนามบินเคารพการตัดสินใจส่วนตัวของ Nasseri และพยายามทำให้การเข้าพักของเขาสะดวกสบายที่สุด

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

ในเวลานั้น เก้าอี้พลาสติกสีแดงทั้งหมดที่สนามบินถูกถอดออก เหลือเพียงตัวที่เขานอนอยู่

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

บาทหลวงและแพทย์ประจำสนามบินมาเยี่ยมเขาทุกสัปดาห์

และพนักงานบางคนคุยกับเขาเมื่อว่าง

ในฤดูร้อนปี 2549 นัสซีล้มป่วยลง เนื่องจากเขาไม่สามารถถูกแสงแดดได้ตลอดทั้งปี ใบหน้าของเขาจึงซีดเล็กน้อย ผมของเขาเริ่มบางลง และแก้มของเขาก็บุ๋มลงไป

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและออกจากสนามบินเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

หลังจากหายจากอาการป่วยในปีต่อมา

เขาได้รับการดูแลจากสาขาสนามบินของสภากาชาดฝรั่งเศส และใช้เวลาอยู่ในโรงแรมใกล้สนามบิน

ต่อมาเขาได้อาศัยอยู่ในศูนย์การกุศลในเขตชานเมืองของกรุงปารีส

บางทีอาจจะเป็นเพราะเขามีลางสังหรณ์ว่าเวลาของเขากำลังจะหมดลง

ในช่วงกลางเดือนกันยายน

นัสเซรีกลับมาที่สนามบินอีกครั้ง และภายในไม่กี่สัปดาห์เขาก็มีอาการหัวใจวาย

และเขายังมีเงินอยู่ในร่างกายอีกหลายพันยูโร

เมื่อเขา เสียชีวิต Charles de Gaulle Airport จึงเป็นที่ๆเขาควรอยู่

จากการที่อาศัยอยู่ที่สนามบินเป็นเวลาหลายปี

มันเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของนาสรีมาช้านาน

ไม่มีใครบอกได้ว่าชีวิตนี้เขากำลังรออะไรอยู่

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

เมื่อ บั้นปลายชีวิตเขามาถึง...

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

และมันกลายเป็น "สถานีปลายทางแห่งความสุข"

ด้วยวิธีที่.....ไม่เหมือนใคร

โลกมักเป็นเช่นนี้

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

หากชะตากรรมของทุกคนถูกกำหนดโดยเทพเจ้า

➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖

บทบาทของโฮป นัสเซรีก็น่าจะแสดงถึงวิถีชีวิตที่ไม่เหมือนใครเช่นกัน....

โฆษณา

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน