16 พ.ย. 2022 เวลา 12:00 • ยานยนต์
BYD เบียด TESLA ครองตลาด EV เบอร์ 1 ของโลก?!
1
ถ้าได้ดูหน้า Feed เมื่อสัปดาห์ก่อนๆ คงเห็นภาพคนแห่ไปซื้อ BYD รุ่น Atto3 กันล้นหลาม ไปต่อคิวกันตั้งแต่ตี 3 ก็มี ทำเอายอดจองวันแรกทะลุ 2,500 คัน
ซึ่งกระแสของ BYD ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในไทย เพราะคนทั่วโลกก็รอต้อนรับ BYD เหมือนกัน
6
จริงไหมที่ยอดขายของ BYD แซง Tesla ขึ้นเป็น No.1 โลก?
ก็ต้องบอกว่า จริง! แต่ไม่ทั้งหมด
เพราะส่วนที่ยอดขาย BYD แซง Tesla ไปแล้วจริงๆ มันคือรถ EV ที่รวมรถไฟฟ้าทุกประเภท (BEV, PHEV, HEV)
แต่ใน Segment รถไฟฟ้า 100% Tesla ยังมี Market Share เป็นอันอับ 1 อยู่ [19%] และรองลงมาเป็น BYD [11%]
การที่ BYD ขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของรถ EV อาจไม่ใช่เรื่องน่าแปลกขนาดนั้น
เพราะ BYD ทำรถไฟฟ้าหลายแบบ หลายราคา จึงมีตัวเลือกให้คนซื้อได้เยอะ สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้กว้าง
ในขณะที่ Tesla มุ่งทำรถ Premium ที่เน้น Performance และมีเรทราคาที่สูงกว่า
อาจจะขายได้จำนวนคันน้อยกว่าก็จริง แต่อีกมุมหนึ่ง Tesla สามารถทำกำไรต่อคันได้มากกว่า BYD
7
ปัจจัยอะไรที่ทำให้ BYD ขายดี?
  • แบตฯ ถือเป็นหัวใจของรถไฟฟ้า ที่ต้องทั้งวิ่งได้ไกล และต้องปลอดภัย
1
BYD มีจุดแข็งเรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตแบตฯ ลิเธียมที่ใหญ่ที่สุดในจีน และทำการบ้านเรื่องนี้มาได้อย่างดีจนเกิดเป็น Blade Battery
Blade Battery ถือเป็นมาตรฐานใหม่ของรถ EV ในตลาดโลก
ด้วยจุดเด่นเรื่องความปลอดภัยที่ผ่านการทดสอบแบบ Nail Penetration Test
(การทดสอบความปลอดภัยแบตเตอรี่ที่ถือว่าโหดที่สุดแล้วตอนนี้)
ผลออกมาว่าเสี่ยงระเบิดน้อยกว่าแบตฯ ของรถ EV ทั่วไป
ซึ่งหลายคนก็ซื้อด้วยสาเหตุกลัวแบตฯ ระเบิดนี่แหละ
รวมถึง Elon Musk ก็ยังหันมาสนใจ อยากให้รถ Tesla ใช้แบตฯ ของ BYD ด้วย (มีแผนจะใช้ในเร็วๆ นี้)
1
Credit: https://www.autoinfo.co.th/online/382383/
เมื่อมีวัตถุดิบหลักที่ดี BYD จึงสามารถผลิตรถได้หลาย Segment หลายดีไซน์ และหลายเรทราคาจนทำให้มียอดขายในจีนเกือบ 600K คัน (593,745) เมื่อปีที่แล้ว
และขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลกในครึ่งปี 2022 นี้
1
  • ไม่ใช่แค่แบตฯ Design & Pricing ก็โดดเด่นเหมือนกัน
อย่างการออกแบบที่มี Wolfgang Egger (ผู้ออกแบบ Audi​ TT และ Lamborghini Aventador) มาเป็น Head of Design Team
บวกกับความเทพเรื่องแบตฯ เป็นทุนเดิม BYD จึงมีทั้ง Know-how และความสามารถในการควบคุมต้นทุนในการผลิตได้ (โดยเฉพาะแบตฯ)
จึงไม่แปลกที่ BYD จะสามารถต่อยอดรถ EV ได้หลายรุ่น หลายราคา ตอบสนอง ความต้องการของคนหลายกลุ่ม (ตั้งแต่รถโดยสารส่วนตัวไปจนถึงรถเพื่อการพาณิชย์)
3
นี่จึงเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้คนทั่วโลกเลือกซื้อ BYD เพราะทั้งได้รถที่ตอบโจทย์การใช้งาน และมาในราคาที่ไม่เจ็บ
3
Credit: https://www.formtrends.com/wolfgang-egger-audi-italdesign-giugiaro/
ชาวเน็ตว่าไงเกี่ยวกับ BYD?
1
BYD เป็นกระแสในทางบวกมาก ๆ อาจเพราะไม่เคยมีแบรนด์รถจีนขายดีเป็นเบอร์ 1 ของโลกมาก่อน
ชาวเน็ตหลายคนก็เชียร์ BYD มากกว่า Tesla
เพราะเชื่อว่าบริษัทจีนกำลังผลักเทคโนโลยีของรถไปไกลขึ้น โดยขายในราคาที่จับต้องง่ายกว่า
1
แล้วจะเป็นเบอร์ 1 ได้อีกนานแค่ไหน?
ยังปักใจเชื่อไม่ได้ซะทีเดียว เพราะนี่เป็นแค่ยอดขายครึ่งปีแรกของปี 2022 เท่านั้น
ในอนาคตอาจมีหลายปัจจัยที่ทำให้ยอดขายเปลี่ยน
ไม่ว่าจะเป็นแผนในอนาคตของ Tesla ที่จะเพิ่มรุ่น ECO Car เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าของตัวเอง
หรือถ้าแบรนด์รถสันดาปยักษ์ใหญ่หันมาลงในตลาดรถไฟฟ้าเต็มตัว ก็จะกลายเป็นสนามที่ดุเดือดที่จะสู้กันด้วยฐานลูกค้าและกำลังการผลิต
Credit: https://www.forbes.com/sites/qai/2022/09/28/gm-ev-vs-tesla-the-competition-for-electric-vehicle-dominance/?sh=c79e1163070e
ภาพรวมของตลาดรถ EV ตอนนี้เหมือนอยู่ในช่วงเครื่องบินกำลัง Takeoff จากที่เห็นได้รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ทะยอยเปิดตัวกันเรื่อยๆ
ดังนั้น อันดับยอดขายที่ BYD ได้ครองแชมป์ในครึ่งปีแรกนี้ อาจไม่ได้การันตีว่าจะขายดีที่สุดในครึ่งปีหลังก็ได้ ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งมีรถในตลาดเยอะเท่าไร
ผู้บริโภคอย่างเราก็ยิ่งมีตัวเลือกที่ตอบโจทย์กับความต้องการมากขึ้นเท่านั้น
ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าตลาดรถไฟฟ้าโลกจะเติบโตไปได้แค่ไหน
ใครคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง คอมเมนต์มาคุยกันนะคะ 🙋🏻‍♀️
3
โฆษณา