#SSColumn | #SSบอลโลก
พรีวิวฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม : กลุ่ม G
โดย : เบียร์ หลังหนาม
อีกไม่กี่วันฟุตบอลโลกครั้งที่ 22 ก็จะเริ่มอย่างเป็นทางการแล้ว! และเมื่อดูจากรายชื่อนักเตะที่แต่ละชาติเผยออกมาให้เห็นนั้น พูดได้ เลยว่าน่าสนใจมาก ๆ เพราะมันมีในส่วนที่ทำเกินคาด และมีในส่วนที่ชวนประหลาดใจ
อาทิตย์นี้เราเดินทางมาถึงกลุ่ม G กันแล้ว นี่ถือเป็นอีกกลุ่มที่มีเต็งแชมป์ปักหลักอยู่ ส่วนที่เหลืออีก 3 ทีมใช่ย่อยเสียที่ไหน การันตีได้เลยว่ากลุ่ม G มีความมันส์แบบครบเครื่อง
กลุ่ม G ประกอบไปด้วย : บราซิล , เซอร์เบีย , สวิตเซอร์แลนด์ , แคเมอรูน
1.บราซิล
‘ทีมชาติบราซิล’ ผ่านเข้ามาเล่นในฟุตบอลโลกครั้งนี้อย่างลอยลำ พวกเขาคืออันดับ 1 ของตาราง ในรอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ อยู่เหนืออันดับ 2 อย่าง ‘อาร์เจนติน่า’ ถึง 6 คะแนนด้วยกัน บราซิลถือเป็นตัวแทน 1 ใน 4 ทีมจากทวีปอเมริกาใต้
อย่างที่หลายคนพอจะรู้กันอยู่บ้าง ชาติแซมบ้ามักเป็น 1 ในตัวเต็งแชมป์ฟุตบอลโลกเกือบทุก ๆ ปี แต่ทว่าแชมป์สมัยล่าสุดของพวกเขา ต้องย้อนกลับไป 20 ปีนู่นเลย...แล้วปีนี้ล่ะ จะยังเป็นแค่ตัวเต็งอยู่หรือเปล่า? นี่เป็นสิ่งที่แฟนบอลทั่วโลกตั้งคำถาม และให้ความสนใจ
⚽️ อันดับ Ranking ใน FIFA : อันดับที่ 1
⚽️ โค้ช ปัจจุบัน : อาเดโนร์ เลโอนาร์ดู บัคกี / สัญชาติบราซิล
‘อาเดโนร์ เลโอนาร์ดู บัคกี’ หรือที่แฟนบอลและสื่อพากันเรียกว่า ‘ติเต้’ คือโค้ชยอดฝีมือที่เข้ามารับตำแหน่งคุมทัพแซมบ้าตั้งแต่ปี 2016 จากนั้นเจ้าตัวก็ทำผลงานออกมาได้ค่อนข้างดี เขาสามารถพาทีมคว้าความสำเร็จอย่าง ‘แชมป์โคปาอเมริกาปี 2019’ มาได้
สำหรับฟุตบอลโลก 2022 อาจเป็นรายการสุดท้ายของติเต้ เพราะก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้ออกมาประกาศว่าจะวางมือจากการเป็นโค้ชทีมชาติบราซิลหลังเสร็จสิ้นฟุตบอลโลก และเขาต้องการจะพาบราซิลไปให้ไกลที่สุดเท่าที่ทำได้ในวาระสุดท้ายของการเป็นโค้ช
แบบแผนการเล่นที่ติเต้ถนัด และมักจะใช้อยู่เป็นประจำคือระบบแผงหลัง 4 ตัวอย่าง 4-3-3 , 4-2-3-1 และ 4-4-2
⚽️ สภาพความพร้อมของทีมและนักเตะดาวเด่น
อย่างที่หลาย ๆ ท่านรู้ ทีมชาติบราซิลเป็นแหล่งผลิตนักฟุตบอลระดับโลก ด้วยศักยภาพของตัวผู้เล่น ทักษะและพรสวรรค์ที่เหมือนจะมีตั้งแต่เกิดของคนบราซิล ทำให้ทุกยุคสมัยทุกสมัยของบราซิลไม่เคยขาดผู้เล่นชั้นยอด
ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ ผู้เล่นดาวเด่นสูงสุดของทีมชาติบราซิลต้องยกให้กับ ‘เนย์มาร์’ ยอดกองหน้าจาก ‘ปารีส แซงต์ แชร์กแมง’ จากนั้นก็ตามมาด้วย ‘วินิซิอุส จูเนียร์’ จาก ‘เรอัล มาดริด’ , ‘กาเบรียล เชซุส’ ที่กำลังทำผลงานได้ดีกับทาง ‘อาร์เซน่อล’ , ปีกจอมลีลาอย่าง ‘แอนโทนี่’ จาก ‘แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด’ ต่อด้วย ‘ราฟินญ่า’ จาก ‘บาร์เซโลน่า’ และอีกตัวรุกที่ทำผลงานในทีมชาติได้ค่อนข้างดีอย่าง ‘ริชาร์ลิซอน’ จาก ‘สเปอร์ส’
ส่วนดาวเด่นในตำแหน่งกองกลาง , กองหลังและนายประตูได้แก่ ‘คาซิมิโร่’ และ ‘เฟร็ด’ จาก ‘แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด’ , ‘ฟาบินโญ่’ จาก ‘ลิเวอร์พูล’ , ‘บรูโน่ กิมาไรส์’ จาก ‘นิวคาสเซิล’ , ‘ติอาโก้ ซิลวา’ จาก ‘เชลซี’ และ ‘มาร์กินญอส’ จาก ‘ปารีส แซงต์ แชร์กแมง’ , ‘อลิซง เบคเกอร์’ เป็นต้น
ส่วนคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้กล่าวชื่อนั้น ไม่ใช่ว่าไม่เด่นไม่ดัง อันที่จริงก็อยู่ในระดับเดียวกันกับที่กล่าวมาข้างต้นเลย
สภาพความพร้อมและภาพรวมของทีมชาติบราซิลในปีนี้ ถือว่ายังคงแข็งแกร่งไม่ต่างจากปีก่อน ๆ พวกเขามีตัวเลือกมากมายให้หยิบจับ เพราะมองจากนักเตะบราซิลที่ไม่ได้ติดทีมชาติ ก็เป็นผู้เล่นชื่อดังอยู่หลายคนเช่นกัน หวังว่า 26 คนที่ติเต้เลือกมา จะสามารถพาทีมไปยังจุดสูงสุดได้
.
⚽️ คาดการณ์ผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม
มองแค่หางตาก็รู้ได้ทันทีว่าพวกเขาเป็นแชมป์ของกลุ่ม G บราซิลดูไม่มีปัญหาอะไรในรอบแบ่งกลุ่มเลยสักนิด พวกเขาแค่เล่นไปตามเกมของตัวเอง ที่เหลือก็เฝ้าดูอีก 3 ทีมที่เหลือแย่งชิงอันดับ 2 ของกลุ่มกัน
2.เซอร์เบีย
‘ทีมชาติเซอร์เบีย’ ผ่านเข้ามาเล่นฟุตบอลโลกครั้งนี้ได้โดยการเป็นที่ 1 ของกลุ่ม A ในรอบคัดเลือกโซนยุโรป เหนือทีมชาติ ‘โปรตุเกส’ ที่ได้อันดับ 2 ของกลุ่ม เซอร์เบียเป็นตัวแทน 1 ใน 13 ทีมจากทวีปยุโรป
เซอร์เบียเป็นอีกหนึ่งชาติที่เข้ามาเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอยู่บ่อย ๆ ซึ่งในปีนี้ ขุมกำลังของพวกเขาก็ถือว่ามีความแข็งแกร่งพร้อมปะทะ เรียกได้ว่า ‘พอตัว’
⚽️ อันดับ Ranking ใน FIFA : อันดับที่ 21
⚽️ โค้ช ปัจจุบัน : ดราแกน สตอยโควิช / สัญชาติเซอร์เบีย
‘ดราแกน สตอยโควิช’ เริ่มเข้ามาคุมทีมชาติเซอร์เบียเมื่อตอนปี 2021 ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเป็นโค้ชให้กับสโมสรชื่อดังของเอเชียอย่าง ‘นาโกยา แกรมปัส’ ในเจลีกของประเทศญี่ปุ่น และ ‘กว่างโจว อาร์แอนด์เอฟ’ ในลีกไชนีส ซุเปอร์ลีกของประเทศจีน
ซึ่งผลงานโดยรวมของสตอยโควิชที่ทำไว้ตอนอยู่กับทีมระดับสโมสร ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีพอสมควร ส่วนผลงานในระดับทีมชาตินั้น เขาคือคนที่พาทัพเซอร์เบียคว้าตั๋วฟุตบอลโลกในครั้งนี้มาได้อย่างง่ายดาย
แบบแผนที่สตอยโควิชถนัดนั้น จะเป็นในรูปแบบ 3-4-1-2 และ 3-4-2-1
⚽️ สภาพความพร้อมของทีมและนักเตะดาวเด่น
นักเตะเซอร์เบียชุดนี้ ถือว่าเป็นชุดที่ได้ทำการเปลี่ยนถ่ายออกมาได้ดี ผู้เล่นอายุไม่มากที่เป็นตัวหลัก ก้าวขึ้นมาเป็นตัวแบกทีมอย่างเต็มตัว จากนั้นก็มีผู้เล่นวัยรุ่นวัยหนุ่มมากฝีมือ เข้ามาเสริมทัพเพิ่มความน่ากลัว
กองทัพเซอร์เบียในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ นำทัพมาโดย ‘อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช’ ที่กำลังโชว์ฟอร์มเดือดเหนือความคาดหมายกับ ‘ฟูแล่ม’ จากนั้นก็ตามมาด้วย ‘ดูซาน ทาดิช’ จาก ‘อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม’ และ ‘ดูซาน วลาโฮวิช’ จาก ‘ยูเวนตุส’ ที่ถึงแม้ช่วงหลังจะฟอร์มดร็อปไปบ้าง แต่ก็ยังถือว่ากองกำลังสำคัญของเซอร์เบียที่ขาดไม่ได้
ในส่วนของผู้เล่นกองกลางและกองหลัง นำทีมโดย ‘มาร์โก กรูยิช’ จากยอดทีมแห่งโปรตุเกสอย่าง ‘เอฟซี ปอร์โต้’ , ‘ฟิลิป คอสติช’ จาก ‘ยูเวนตุส’ และ ‘เซอร์เกจ์ มิลินโควิช-ซาวิช’ จาก ‘ลาซิโอ’ , ‘นิโกล่า มิเลนโควิช’ จาก ‘ฟิออเรนติน่า’ , ‘สเตฟาน มิโตรวิช’ จาก ‘เคตาเฟ่’ เป็นต้น
สภาพความพร้อมของทีมชาติเซอร์เบีย ถือว่าค่อนข้างพร้อมเป็นอย่างมาก มีอาวุธดี ๆ ที่สามาถใช้งานได้หลากหลายขึ้นอยู่กับสถานการณ์
⚽️ คาดการณ์ผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม
ด้วยศักยภาพของทีมนั้น ดูมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเข้ารอบต่อไป เพียงแต่ว่าต้องไม่อยู่ในกลุ่มนี้!? หากตัดเต็ง 1 ของกลุ่มอย่างบราซิลออกไป อีก 2 ทีมที่เหลืออย่างสวิตเซอร์แลนด์ และแคเมอรูนนั้น ต่างก็มีไม้เด็ดไม่ต่างจากเซอร์เบียเลยแม้แต่น้อย หากบราซิลมีโอกาสเข้ารอบต่อไปที่ 60 เปอร์เซ็นต์ อีก 3 ทีมที่เหลือก็น่าจะแบ่งกันไปคนละ 20 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นเซอร์เบียต้องใส่ให้หมดแม็กซ์แบบไม่กั๊ก ถึงจะเข้ารอบต่อไปได้
3. สวิตเซอร์แลนด์
‘ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์’ ผ่านเข้ามาเล่นฟุตบอลโลกครั้งที่ 22 ได้ ด้วยการจบเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม C ในรอบคัดเลือกโซนยุโรป ซึ่งในกลุ่มเดียวกันนั้นมีทีมชั้นนำอย่าง ‘อิตาลี’ อยู่ในกลุ่มด้วย
ในฟุตบอลโลกหนก่อน พวกเขาเข้าไปถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ด้วยการเป็นที่ 2 ของกลุ่ม และในตอนนั้นก็มีเซอร์เบียอยู่ร่วมกลุ่มด้วยอีกต่างหาก ซึ่งในครั้งนี้พวกเขาต้องกลับมาเจอกันอีกครั้ง น่าดูว่าผลลัพธ์จะเหมือนเดิม หรือต่างออกไป?
⚽️ อันดับ Ranking ใน FIFA : อันดับที่ 15
⚽️ โค้ช ปัจจุบัน : มูรัต ยาคิน / สวิตเซอร์แลนด์
‘มูรัต ยาคิน’ เข้ามารับใช้ทีมชาติในฐานะโค้ชเมื่อปีที่แล้ว ด้วยสัญญาระยะสั้นจนจบรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 พ่วงด้วยเงื่อนไขต่อสัญญาที่ขึ้นอยู่กับผลงาน และยาคินก็ไม่ทำให้คนทั้งชาติผิดหวัง เขาสามารถพาสวิตเซอร์แลนด์คว้าตั๋วฟุตบอลโลกมาได้ด้วยการจบเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มในรอบคัดเลือก ท้ายที่สุดยาคิดได้รับการขยายสัญญา และเข้ามาลุยในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้พร้อมกับลูกทีม
ซึ่งก่อนหน้าที่ยาคินจะเข้ามาคุมทีมชาตินั้น เขาเคยคุมสโมสรที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาไม่น้อยเหมือนกัน เพียงแต่ว่าไม่ได้อยู่ใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป อาทิเช่น ‘บาเซิล’ , ‘สปาร์ตัก มอสโก’ และ ‘กราสฮอปเปอร์’ เป็นต้น
แบบแผนที่ยาคินเลือกใช้เป้นประจำได้แก่ 4-2-3-1 และ 4-3-2-1
⚽️ สภาพความพร้อมของทีมและนักเตะดาวเด่น
นักเตะทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ที่เข้ามาในการแข่งขันหนนี้ ส่วนมากจะเป็นผู้เล่นหน้าเก่า ๆ ที่มากไปด้วยประสบการณ์ และส่วนมากที่ว่าก็ค้าแข้งอยู่กับทีมต่าง ๆ ในยุโรป
ดาวเด่นของทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ได้แก่ ‘กรานิต ชาก้า’ ที่กำลังทำผลงานได้อย่างน่าดูชมกับต้นสังกัดอย่าง ‘อาเซน่อล’ ตามมาด้วย ‘เดนิส ซากาเรีย’ จาก ‘เชลซี’ , กองหลังตัวเก่งอย่าง ‘ฟาเบียน แชร์’ จาก ‘นิวคาสเซิล’ และกองหน้าตัวฉกาจอย่าง ‘บรีล เอ็มโบโล่’ จาก ‘โมนาโก’
นอกเหนือจากนี้ สวิตเซอร์แลนด์ยังมีจอมเก๋าอย่าง ‘เซอร์ดาน ชากิรี่’ จาก ‘ชิคาโกร์ ไฟร์’ ที่เป็นอดีตผู้เล่นตัวสำคัญของ ‘ลิเวอร์พูล’ เข้ามาร่วมลุยศึกในครั้งนี้ด้วย
ภาพรวมความพร้อมของทีมถือว่าดูดี แต่เมื่อเทียบกับเซอร์เบียแล้ว สวิตเซอร์แลนด์ดูจะขาดความสดใหม่ไปเสียหน่อย แต่อาจจะได้เปรียบในเรื่องของประสบการณ์
⚽️ คาดการณ์ผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม
อย่างที่กล่าวไปในพาร์ทของเซอร์เบีย ส่วนตัวมองว่าทางด้านสวิตเซอร์แลนด์มีโอกาสเข้ารอบอยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์ เท่า ๆ กับของเซอร์เบียและแคเมอรูน พวกเขาต้องงัดอาวุธทุกอย่างที่มีออกมาใช้เพื่อผลลัพธ์ที่ต้องการ ซึ่งการแข่งขันนัดแรกที่ทีมต้องเจอกับแคเมอรูน ผลการแข่งขันในนัดนั้นจะสามารถชี้ชะตาสวิตเซอร์แลนด์คร่าว ๆ ได้เลยว่าเส้นทางบนฟุตบอลโลกหนนี้จะเป็นอย่างไร
4. แคเมอรูน
‘ทีมชาติแคเมอรูน’ เข้าร่วมฟุตบอลโลกครั้งที่ 22 ด้วยการเอาชนะทีมชาติ ‘แอลจีเรีย’ มาได้ด้วยกฎอเวย์โกล์ ในรอบคัดเลือก โซนแอฟริกาใต้ รอบที่ 3 พวกเขาเป็นตัวแทน 1 ใน 5 ทีมจากทวีปแอฟริกาที่เข้ามาร่วมในฟุตบอลโลกครั้งนี้
แคเมอรูนกลับมาฟุตบอลโลกอีกครั้ง หลังจากที่ครั้งก่อนไม่ได้ส่วนร่วม ทั้งนี้ยังขนผู้เล่นมากความสามารถมาเต็มทีมอีกด้วย
⚽️ อันดับ Ranking ใน FIFA : อันดับที่ 43
⚽️ โค้ช ปัจจุบัน : ริโกแบร์ ซง / สัญชาติแคเมอรูน
‘ริโกแบร์ ซง’ อดีตนักเตะของ ‘ลิเวอร์พูล’ ชายที่ครั้งหนึ่งเคยเอาชนะอาการป่วยหลอดเลือดในสมองมาได้สำเร็จ เขาเพิ่งเข้ามารับหน้าที่เป็นกุนซือทีมชาติ ‘แคเมอรูน’ ในปีนี้ และจะพาทีมไปลุยศึกฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในฐานะโค้ช
ซึ่งก่อนที่ซงจะก้าวขึ้นมาเป็นโค้ชชุดใหญ่ เขาเคยเป็นโค้ชให้กับชุดเล็กหรือชุด U-23 มาก่อน
รูปแบบแผนที่ซงถนัดใช้ ส่วนมากจะเป็นในรูปแบบของ 4-3-3 เป็นหลัก
⚽️ สภาพความพร้อมของทีมและนักเตะดาวเด่น
นักเตะส่วนใหญ่ของทัพ ‘หมอผี’ มักจะไปค้าแข้งอยู่กับทีมดังต่าง ๆ ในทวีปยุโรป และมีหลายคนที่สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองจนเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ซึ่งนักเตะดาวเด่นของทีมชาติแคเมอรูนชุดนี้คือ ‘เอริค แม็กซิม ชูโปโมติง’ จาก ‘บาเยิร์น มิวนิค’ ที่ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีอายุ 33 ปี และมีฟอร์มการเล่นที่ไม่ได้หวือหวาเหมือนเมื่อก่อน แต่ฝีเท้าของเขายังเป็นที่ต้องการของชาติเสมอ คนต่อมาคือ ‘บรีย็อง เอ็มเบวโม่’ จากสโมสร ‘เบรนท์ฟอร์ด’ ของอังกฤษ ที่ก่อนหน้านี้ทำผลงานกับทางต้นสังกัดออกมาค่อยข้างดีเลยทีเดียว และอีกคนคือ ‘อองเดร ฟรองค์ แซมโบ อองกีสซ่า’ จากสโมสร ‘นาโปลี’ ที่กำลังช่วยทีมให้อยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์
ซึ่งนอกเหนือจากนี้ แคเมอรูนยังมีนักเตะที่น่าสนใจ และคู่ควรต่อการจับตามองอีกหลายคนที่ไม่ได้กล่าวถึง และอันที่จริงแคเมอรูนยังมีนักเตะชื่อดังอีกคนหนึ่ง ที่ประกาศเลิกเล่นทีมชาติไปเพราะมีปัญหากับทางสหพันธ์ฟุตบอลของประเทศ และคนคนนั้นก็คือ ‘โจเอล มาติป’ ปราการหลังตัวเจ็บของ ‘ลิเวอร์พูล’
ภาพรวมนักเตะของแคเมอรูน ถือว่าอยู่ในระดับที่ไปวัดไปวาได้ เพียงแต่ถ้าเอาชื่อชั้นนักเตะมาเทียบกับทีมอื่น ๆ ในกลุ่ม แคเมอรูนดูยังเป็นรองอยู่หน่อย ๆ
⚽️ คาดการณ์ผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม
ทุกทีมในกลุ่ม G ถือเป็นงานหินของแคเมอรูนหมดเลย แต่ดีที่พวกเขาก็อยู่ในจุดที่ยืนแลกหมัดกับทุกทีมได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ พวกเขายังมีโอกาสเข้ารอบต่อไป เกมที่สำคัญที่สุดก็น่าจะเป็นเกมแรกที่เจอกับ ‘สวิตเซอร์แลนด์’ ถ้าพวกเขาผ่านนัดแรกไปด้วยด้วยผลชนะ โมเมนตัมหลายอย่างจะมาอยู่ที่พวกเขาโดยไม่รู้ตัว
👏 สรุปภาพรวมกลุ่ม G
สำหรับจ่าฝูงของกลุ่ม G นั้น น่าจะไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก ผมขอยกให้ ‘บราซิล’ เป็นยืนหนึ่งในจุดนี้ ด้วยตัวผู้เล่นและขุมกำลังที่เต็มไปด้วยทักษะ , รูปแผนการเล่นที่ชาญฉลาด , ฟอร์มการเล่นในช่วงที่ผ่านมา ผนวกกับชื่อชั้นของพวกเขาเอง ไม่มีเหตุผลที่จะมองให้พวกเขาไปจบด้วยอันดับอื่นได้เลย
ปัญหาน่าหนักใจของกลุ่มนี้น่าจะเป็นเรื่องของอันดับ 2 เพราะผมพยามคิดอย่างถ้วนถี่แล้ว แต่ก็เลือกยากมากจริง ๆ ว่าใครจะตามบราซิลไป อย่างที่กล่าวไปว่าอีก 3 ทีมที่เหลือมีโอกาสเข้ารอบเท่า ๆ กัน แต่ถ้าต้องให้เลือก(เดา) ผมขอตัดแคเมอรูนออกไปทีมแรก เนื่องด้วยเทียบสภาพทีมโดยรวมแล้ว แคเมอรูนยังดูเป็นรองให้กับอีก 2 ทีม
เหลือเซอร์เบียกับสวิตเซอร์แลนด์ ทั้งนักเตะและระดับการเล่นของพวกเขาใกล้เคียงกันมาก ทุกอย่างขึ้นอยู่กับแผนการและโมเมนตัมในสนาม ขอนุญาตปิดตาข้างเดียวแล้วจิ้ม ผมเลือกให้เซอเบียร์เข้ารอบต่อไปในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่ม ส่วนสวิตเซอร์แลนด์ก็คว้าอันดับ 3 ไป
SoccerSuck พร้อมนำเสนอรายการที่ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล!
ผ่านทุกช่องทางของ SoccerSuck TH แล้วที่
Instagram: https://bit.ly/3xzln0z
YouTube: https://bit.ly/3reBi3f
TikTok: https://bit.ly/3Oq18JC
Blockdit: https://bit.ly/3qU7B5G
Website: www.soccersuck.com
สนใจติดต่อโฆษณา
Tel. 065-4695416 (คุณหวา)
E-mail: sale@soccersuck.com
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
