Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่าจากอินทนิลขวาง
•
ติดตาม
16 พ.ย. 2022 เวลา 13:13 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่องเล่าจากอินทนิลขวาง
ตอนที่ 85 นำพี่กรกลับบ้าน ...
หลังจากที่ผมกำลังเพลิดเพลินอยู่กับการเอาคืนโจทย์เก่าของผมจนผมเกือบจะลืมสัญญาที่เคยให้ไว้กับน้องน๊อตลูกชายของพี่กร
จนกระทั่งคืนหนึ่งผมก็ฝันเห็นพี่กรมายืนหน้าตามอมแมมที่ข้างบ้านของผมในอินทนิลขวาง
ในความฝันนั้นพี่กรบอกให้ผมช่วยนำเขากลับมาพบลูกชายของเขา
เมื่อตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้นผมจึงเล่าความฝันของผมให้กับกุ้งฟัง
“พี่กรคงเหงาแหละ ต้องมาตายเพียงลำพังคนเดียว”กุ้งบอกกับผมหลังจากที่ฟังผมเล่าความฝันให้เธอฟัง
“เราเองก็จนปัญญาที่จะเอาศพของพี่กรออกมาจริงๆ เพราะตอนนี้นอกจากทหารพม่าที่เราเองก็ยังไม่รู้ว่าจะยังหลงเหลืออยู่ในหมู่บ้านอีกหรือป่าว เส้นทางเข้าออกจากหมู่บ้านก็โดนทหารไทยปิดกั้นไว้หมดอีก แถมยังมีทหารลาดตระเวนทั้งวันทั้งคืน ไม่มีหนทางที่เราจะเข้าไปในหมู่บ้านได้เลย”ผมบอกกับกุ้งถึงสาเหตุที่ผมไม่สามารถเข้าไปนำศพพี่กรออกมาได้ เพราะที่ผ่านมาฝ่ายเจ้าหน้าที่ของไทยพยายามปกปิดว่ามีชาวบ้านโดนทหารพม่ายิงตายจากการปฏิบัติการร่วมของพวกเขา พวกเขาจึงไม่ยอมให้ใครได้เข้าไปในหมู่บ้านอินทนิลขวางอีก
“ถ้าเข้าไปแล้วมันเสี่ยงก็อย่าเพิ่งเข้าไปเลย ไม่งั้นอาจจะต้องไปนอนกับพี่กรอีกคนก็ได้”กุ้งบอกกับผมด้วยความเป็นห่วง
“แต่เรารับปากน้องน๊อตไว้แล้ว ยังไงเราก็ต้องเข้าไปเอาศพของพี่กรออกมาให้ได้”ผมบอกกับกุ้งความตั้งใจของผม
“เราว่ารอดูสถานการณ์ไปก่อนดีกว่า อย่าเพิ่งรีบร้อน”กุ้งบอกกับผม
“เราคิดว่าวันนี้เราจะไปทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้พี่กรก่อน”ผมบอกกับกุ้งถึงความตั้งใจของผมในวันนี้ที่พอจะทำให้พี่กรได้บ้าง
“ก็ดีเหมือนกัน ว่าแต่จะไปทำบุญที่วัดไหนดีล่ะ”กุ้งถามผมขึ้นมา
“แหม่.. ระดับพวกเราจะไปวัดอื่นได้ไง ก็ต้องไปวัดป่าช้าสิ”ผมบอกกับกุ้งภรรยาของผมอย่างอารมณ์ดี
จากนั้นผมกับกุ้งก็ขับรถยนต์ไปถวายสังฆทานทำบุญให้พี่กรที่วัดป่าช้าซึ่งเป็นที่ตั้งของทหารที่เคยจับตัวผมกับกุ้งไว้ในช่วงสายของวันนั้น
โดยตอนที่ผมขับรถยนต์เข้าไปที่วัดป่าช้าก็ไม่มีเหตุการณ์อะไร
แต่หลังจากถวายสังฆทานเสร็จผมกับกุ้งก็ขับรถยนต์กลับออกมาผ่านบริเวณหน้าหน่วยทหารแห่งนั้น
“เฮ้ยๆ นั่นไอ้ทรายๆ”เสียงของทหารในหน่วยต่างตะโกนบอกกันอย่างโหวกแหวก
“เป็น ควย ไรกันครับ ไม่เคยเห็นคนหล่อเหรอ”ผมจอดรถยนต์แล้วตะโกนด่าไปด้วยความโมโหก่อนที่จะขับรถยนต์ออกมา
จากนั้นผมก็โทรหาตาเยาว์เพื่อขอเบอร์โทรจากรองผู้การซึ่งตอนนี่รักษาการแทนผู้การที่ย้ายไป
“รองฯ นี่ผมทรายนะ รบกวนดูแลลูกน้องของรองฯให้อยู่ในระเบียบวินัยด้วยนะ ผมมาทำบุญที่วัดตะโกนโหวกเหวกหยั่งกะเปรตได้ส่วนบุญ”ผมบอกกับรองผู้การไปด้วยความโมโห
“แล้ววัดอื่นมีเยอะแยะ ทำไมไม่ไป มาทำบุญมาที่วัดนี้ทำไม”รองผู้การถามผมกลับมา
“ผมจะทำบุญที่วัดไหนมันก็เรื่องของผม ถ้ารองฯไม่อยากให้ผมมาทำบุญที่วัดนี้ก็ปิดประตูวัดไปเลยนะ”ผมบอกกับรองผู้การไปด้วยอารมณเดือดดาล
“เออๆ เดี๋ยวจะเตือนๆให้”รองผู้การบอกกับผมจากนั้นผมก็วางสายไป
“แม่งมาทำบุญกลับได้บาปกลับไป”ผมบ่นกับกุ้งอย่างหัวเสีย
“แล้วเธอรู้ได้ยังไงว่าตาเยาว์มีเบอร์รองผู้การ”กุ้งถามกับผมด้วยความสงสัย
“เราเห็นตาเยาว์ชอบไปคุยกับทหาร เราเลยคิดว่าเขาต้องมีเบอร์โทรของทหารแน่ๆ”ผมบอกกับกุ้งไป
“ตาเยาว์นี่เป็นแค่คนดูแลสวนให้หมอก้องไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมดูเป็นคนมีความรู้ ไม่เหมือนชาวบ้านธรรมดาเลย”กุ้งตั้งข้อสังเกต
“ดูคำพูดคำจาไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไป วันที่ทหารพม่าบุกเข้าในหมู่บ้านตาเยาว์โทรหาเราคนแรกเลย”ผมบอกกับกุ้งพลางฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ก่อนที่ผมจะโทรกลับไปหาตาเยาว์อีกครั้ง
1
“พี่เยาว์ยังจำทางออกจากหมู่บ้านอินทนิลขวางตอนที่หนีทหารพม่าออกมาได้มั๊ย”ผมถามกับตาเยาว์ถึงเส้นทางที่เขาหนีทหารพม่าในครั้งก่อน
“จำได้ ผมหนีออกมาจากทางหลังบ้านผมใช้เวลาครึ่งวันก็มาถึงช่องหินหมู ชุมพร”ตาเยาว์บอกกับผม
“ถ้าผมจะให้พี่เยาว์นำทางผมกลับเข้าไปในหมู่บ้านอีกครั้งพี่เยาว์จะไปกับผมได้มั๊ย ผมจะเข้าไปเอาศพพี่กรออกมา"ผมถามกับตาเยาว์ด้วยความหวัง
“ได้สิ ผมนำทางไปให้ได้”ตาเยาว์บอกกับผม
“งั้นขอเวลาให้ผมเตรียมคนสักหน่อยนะ แล้วผมจะโทรไปแจ้งกับพี่เยาว์อีกครั้ง”ผมบอกกับตาเยาว์อย่างดีใจก่อนที่จะวางสายไป
จากนั้นผมก็โทรหาลุงสิงห์
“ผมพอจะมีวิธีที่จะเอาศพของพี่กรออกมาได้แล้วนะ แต่งานนี้ต้องเงียบๆกันหน่อย”ผมบอกกับลุงสิงห์ถึงแผนการของผม
“เสียดายตอนนี้ตู่มันไปทำธุระที่กรุงเทพฯ แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราประสานงานกับผู้ใหญ่บ้านที่นั่นให้”ลุงสิงห์บอกกับผม
“ยังไงลุงสิงห์ก็ต้องมาด้วยนะ อย่างน้อยช่วยมาประสานงานให้ผมก็ยังดี”ผมบอกกับลุงสิงห์ไป
“เอาไงเอากัน เรามันนักรบเก่าอยู่แล้ว”ลุงสิงห์บอกกับผมก่อนที่จะวางสายไป
จากนั้นผมก็ขับรถยนต์ไปยังบ้านผู้ใหญ่เล็กเพื่อวางแผนปฏิบัติการณ์ในครั้งนี้
“แถวนั้นมันอยู่ใกล้กับบ้านของน้องโขมน้องชายผมเอง ลูกชายของน้องโขมก็เคยไปอยู่ในหมู่บ้านอินทนิลขวาง เดี๋ยวผมจะให้เขาเดินทางไปกับทรายด้วย ส่วนผมคงไปด้วยไม่ไหว ช่วงนี้สุขภาพไม่ค่อยจะดี”ผู้ใหญ่เล็กบอกกับผมก่อนที่จะโทรหาหลานชายของเขาทั้ง 2 คนทีอยู่ในจังหวัดชุมพรเพื่อให้ร่วมเดินทางไปกับผมด้วย
สัปดาห์ต่อมา
ผมกับพี่โอ๋ก็เดินทางไปยังบ้านของผู้ใหญ่โรจน์ที่ช่องหินหมูในจังหวัดชุมพรตามคำแนะนำของลุงสิงห์ที่ประสานงานไว้ให้ผมล่วงหน้า โดยที่ผมและพี่โอ๋ต่างติดปืนสั้นไปคนละกระบอก
เมื่อผมไปถึงบ้านผู้ใหญ่โรจน์ผมก็พบว่าลุงสิงห์และตาเยาว์รวมถึงชาวบ้านคนอื่นๆอีกจำนวนเกือบ 10 คนมารออยู่แล้ว
“คืนนี้นอนที่นี่กันก่อนนะ พรุ่งนี้เช้าค่อยออกเดินทางกัน”ลุงสิงห์บอกกับผมขณะที่เขายืนรอผมอยู่กับผู้ใหญ่โรจน์เจ้าของบ้าน
“คนนี้เหรอทราย ได้ยินชื่อมานานแล้ว”ผู้ใหญ่โรจน์ถามกับผม
“ครับ ผมนี่แหละทราย”ผมบอกกับผู้ใหญ่โรจน์ไป
“วันก่อนที่ทหารมารื้อลวดหนาม เห็นก็พูดถึงทรายอยู่”ผู้ใหญ่บอกกับผม
“พวกเขาพูดถึงผมว่ายังไงเหรอครับ”ผมถามกับผู้ใหญ่ด้วยความสนใจ
“พวกทหารบอกว่ามีอะไรให้สอบถามกับเขาโดยตรง อย่าไปถามกับ จุด จุด จุด ผมไม่เอ่ยชื่อมันแล้ว เดี๋ยวมันฟ้องผมอีก”ผู้ใหญ่โรจน์บอกกับผม
“ไอ้คำว่า จุด จุด จุด มันก็เลยทำให้ผมสงสัยว่าเป็นใคร ทำไมผู้การจึงเอ่ยชื่อออกมาไม่ได้ ตอนหลังผมไปถามไอ้ตู่เลยได้รู้ว่าเป็นชื่อของทราย แสดงว่าไม่ธรรมดานะเนี่ย ขนาดผู้การยังไม่กล้าเอ่ยชื่ออกมา555”ผู้ใหญ่บอกกับผมพลางหัวเราะ
“นี่แหละเผ็ดจี๊ดของแท้”ลุงสิงห์บอกกับผู้ใหญ่
“ผมล่ะอยากเห็นหน้ามันตอนนั้นจริงๆ “ผมบอกกับผู้ใหญ่อย่างสะใจ
“ตู่มันมีคลิปที่ถ่ายไว้ได้อยู่ เดี๋ยวมันกลับมาจากกรุงเทพฯทรายลองไปขอมันดูสิ”ผู้ใหญ่โรจน์บอกกับผม
“แล้วตรงไหนคือฝั่งพม่าล่ะ”ผมถามกับผู้ใหญ่โรจน์ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านของที่นี่
“ถนนนั่นแหละที่ทหารไทยบอกว่าเป็นพรมแดน”ผู้ใหญ่บอกกับผมทำให้ผมต้องประหลาดใจเพราะหากผู้ใหญ่โรจน์ไม่บอกกับผมก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าข้ามถนนไปคือเขตของประเทศพม่า เพราะบริเวณนี้เต็มไปด้วยสวนยางและสวนกาแฟของชาวบ้านคล้ายๆกับหมู่บ้านทั่วไปตามชนบท
จากนั้นผมก็เดินมาที่ถนนเพื่อมองดูบ้านของชาวบ้านที่ตั้งอยู่สุดลูกหูลูกตาซึ่งไม่มีทางรู้ได้เลยว่าตรงบริเวณไหนคือพื้นที่ของพม่าหรือของไทย
คืนนั้นพวกเรานอนกันที่บ้านของผู้ใหญ่โรจน์โดยที่ผมกับพี่โอ๋ต่างผูกเปลนอนที่ใต้ถุนบ้าน
รุ่งเช้าพวกเราทั้งหมดต่างก็เตรียมตัวเข้าไปในหมู่บ้านอินทนิลขวางกันอีกครั้ง
ซึ่งหลังจากที่ทหารพม่าบุกโจมตีหมู่บ้านเกือบปีก็ยังไม่มีใครเคยย่ำกรายเข้าไปในหมู่บ้านแห่งนี้อีกเลย
หลังจากที่เตรียมตัวกันเสร็จแล้ว พวกเราก็นั่งรถกระบะของลุงสิงห์ออกจากบ้านของผู้ใหญ่โรจน์ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาไปตามเส้นทางที่ชาวบ้านใช้ขนผลผลิตทางเกษตรซึ่งมีความสูงชัน จนในที่สุดมาถึงบ้านของลุงดำซึ่งอยู่บริเวณตีนเขาด้านล่าง
“ไหนๆ คนไหนชื่อทราย ขอดูหน้าหน่อย”ลุงดำซึ่งอาศัยเพียงลำพังที่บ้านของเขาได้เดินเข้ามาถามกับพวกเราหลังจากที่ลุงสิงห์จอดรถยนต์
“ผมนี่แหละครับ ทราย มีอะไรเหรอลุง”ผมถามกับลุงดำด้วยความสงสัย
“เห็นทั้งทหารพม่าทั้งทหารไทยพูดถึงกันบ่อย”ลุงดำบอกกับผม
“แถวนี้มีทหารพม่าด้วยเหรอครับ”ผมถามลุงดำด้วยความสงสัย
“นานๆจะมาสักครั้ง แต่ปีก่อนหลังจากที่เข้าตีหมู่บ้านอินทนิลขวางก็มาบ่อย แวะมากินข้าวที่นี่บ้าง”ลุงดำบอกกับผม
“ทหารพม่านี่เดินมาไกลเหมือนกันนะ”ผมพูดกับลุงดำด้วยความแปลกใจที่มีทหารพม่าลาดตระเวนมาถึงที่นี่
“ทหารพม่าพวกนี้มาจากด้านบนโน้น คนล่ะหน่วยกับที่เข้ายึดอินทนิลขวาง”ลุงดำบอกกับผม
“นี่ถ้ายึดถนนเป็นเขตแดนตามที่ทหารไทยบอก บ้านของลุงดำก็อยู่ในเขตพม่า”บ่าวหลานของผู้ใหญ่เล็กที่ร่วมเดินทางมาด้วยบอกกับผม
“แต่ทหารพม่าบอกว่าของไทยโว้ย ถ้าของพม่าจริงกูคงโดนหิ้วตัวไปเกาะสองตั้งนานแล้ว ไม่ได้อยู่จนได้กรีดยางจนถึงทุกวันนี้หรอก”ลุงดำพูดสวนขึ้นมา
“เดี๋ยวลุงสิงห์ขอรอที่บ้านของลุงดำนี่แหละ จะเดินทางไปกับเขาด้วยก็เกรงใจขาเทียม”ลุงสิงห์บอกกับพวกเรา
จากนั้นพวกเราทั้งหมดก็เดินเท้าตามหลังตาเยาว์ซึ่งเดินนำหน้าพวกเราไปตามเส้นทางในสวนยางพาราของชาวบ้าน
หลังจากที่เดินผ่านสวนยางของชาวบ้านแล้ว พวกเราก็เดินทางกันต่อมาทางลำคลองก่อนที่จะตัดขึ้นเนินเขาทางด้านขวา
จากนั้นพวกเราก็เดินตามสันเขามุ่งลงทางทิศใต้เพื่อเข้าไปยังหมู่บ้านอินทนิลขวาง
หลังจากเดินกันมาหลายชั่วโมงผมกับพี่โอ๋ซึ่งเดินรั้งท้ายนั่งพักกินขนมกันตรงทางแยกโดยที่ตาเยาว์ซึ่งเป็นคนนำทางได้เดินนำล่วงหน้าไปไกลแล้ว
“ให้ผมรอมั๊ย รงค์กับบ่าวถามผมเมื่อเห็นผมกับพี่โอ๋ไม่ยอมเดินทางกันต่อ
“ไม่เป็นไร ไปก่อนเถอะ เดี๋ยวผมตามไป”ผมบอกกับทั้งสองคนก่อนที่จะแกะขนมมานั่งกินกับพี่โอ๋
“งั้นผมเดินช้าๆนะ เผื่อพี่จะเดินตามมาทัน”บ่าวบอกกับผมก่อนที่จะออกเดินทางต่อไป
“ไม่ต้องรีบ แต่ผมคิดว่าตาเยาว์นำมาผิดทาง อินทนิลขวางมันอยู่ทิศตะวันตก มันต้องเลี้ยวขวาสิ"ผมบอกกับพี่โอ๋ก่อนนั่งกินขนมอย่างสบายใจ
"ตาเยาว์นี่เป็นญาติกับพี่ดิษป่าววะ555”พี่โอ๋พูดพร้อมกับหัวเราะออกมา
ผ่านไปเกือบชั่วโมงตาเยาว์พร้อมกับคนอื่นๆก็เดินกลับมาด้วยสภาพที่เหงื่อท่วมตัว
“ผมเลี้ยวผิดน่ะ”ตาเยาว์บอกกับผมก่อนที่จะเดินนำไปทางขวาจากนั้นผมกับพี่โอ๋ก็เดินตามขบวนไป
หลังจากนั้นอีกเกือบสองชั่วโมงผมก็พบว่ารงค์และบ่าวต่างนั่งรอผมกับพี่โอ๋ที่ทางแยกเพียง 2 คนโดยที่ตาเยาว์และคนอื่นๆที่ร่วมขบวนต่างเดินนำไปจนลับตาแล้ว
“ตาเยาว์เลี้ยวไปทางซ้ายอีกล่ะสิ”ผมถามกับทั้งสองคนนั้นซึ่งนั่งรออยู่ตรงทางแยก
“ใช่ครับ ผมเลยไม่แน่ใจว่าจะตามตาเยาว์ไปดีมั๊ย เพราะพี่ทรายบอกผมว่าหมู่บ้านอินทนิลขวางต้องไปทางขวาเท่านั้น”รงค์บอกกับผม
“เดี๋ยวก็กลับมา”ผมบอกกับสองคนนั้นก่อนนั่งลงพร้อมกับพี่โอ๋
ผ่านไปเกือบชั่วโมงตาเยาว์และคนอื่นๆก็เดินย้อนกลับมายังที่พวกผมนั่งรอกันอีกครั้ง
“ไม่มาแค่ปีเดียว ทางมันรกหมดเลย”ตาเยาว์บอกกับผมก่อนที่จะเดินไปยังทางแยกขวามือต่อไป
จากนั้นผมและคนอื่นๆก็เดินตามตาเยาว์ไป
ผ่านไปไม่นานเมื่อถึงทางแยกอีกครั้งทุกๆคนต่างหยุดรอผมที่ทางแยกยกเว้นตาเยาว์เพียงคนเดียวที่เดินล่วงหน้าไปก่อนแล้ว
“พอเจอแยกทีไร ตาเยาว์เลี้ยวไปทางซ้ายทุกที”ทุกๆคนที่ร่วมเดินทางกันมาบอกกับผม
“งั้นพักกันก่อนนะ”ผมบอกทุกคนก่อนที่จะนั่งพักที่ทางแยก
จากนั้นไม่นานตาเยาว์ก็เดินกลับมาเพียงลำพัง
“แหะๆ ผมไปผิดทางอีกแล้ว”ตาเยาว์บอกกับผมด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆก่อนที่จะนั่งลงเพื่อพักเหนื่อย
“หมู่บ้านอินทนิลขวาง มันอยู่ทิศตะวันตก เราเดินมาจากชุมพร ยังไงก็ต้องยึดทางขวาเป็นหลัก”ผมบอกกับตาเยาว์
“ตอนที่ผมหนีทหารพม่ามาก็ไม่ทันได้สังเกต พอให้กลับมานำทางมันก็เลยลืมๆไปบ้าง”ตาเยาว์บอกกับผมก่อนที่จะหยิบขวดน้ำขึ้นมาดื่ม
หลังจากพักเหนื่อยกันไม่นานพวกเราก็ออกเดินทางกันต่อ
จนในที่สุดพวกเราทั้งหมดก็มาถึงเนินเขาในหมู่บ้านอินทนิลขวางในช่วงเย็น
จากนั้นผมจึงเดินไปยังหลังขอนไม้ตรงเนินเขาหลังบ้านหลังเก่าของผมซึ่งเป็นจุดที่ผมเคยยิงเสือครั้งที่ผมเข้ามาในหมู่บ้านอินทนิลขวาง
ผมหยิบกล้องส่องทางไกลออกจากกระเป๋าเป้มาส่องไปยังหมู่บ้านอินทนิลขวางซึ่งอยู่เบื้องล่าง
และสิ่งที่ผมเห็นผ่านกล้องส่องทางไกลทำให้หัวใจผมแทบหยุดเต้น..!!!
“ค่ายทหารพม่า....!!!"
ผมเผลออุทานออกมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อเห็นค่ายทหารขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเนินเขาในหมู่บ้านอินทนิลขวาง....
#เรื่องเล่าจากอินทนิลขวาง
บันทึก
5
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย