ได้อ่านกันรึยังคะ "ลายกินรี"
ทันทีที่ได้ยินว่า จะมาทำเป็นละคร เราก็รีบหามาอ่าน ทั้งอ่านและดูละครไปด้วยกัน รู้สึกว่าเหมือนกับเป็นคนละเรื่องเลย ซึ่งโดยส่วนตัว เราชอบเรื่องจากหนังสือมากกว่า
ด้วยบทประพันธ์ อันแสนละเมียดละไม ภาษาสวยงาม สอดแทรกความรู้ ในแบบฉบับของคุณหมอพงศธร นอกจากเรื่องจะเกี่ยวกับผ้าแล้ว เท่าที่สังเกต จะต้องมีตัวละครคนใดคนหนึ่งเป็นหมอด้วย และในเรื่องนี้ คุณหมอคือ แม่พุดซ้อน ตัวเอกของเรื่อง
ในเรื่องนี้ เป็นเหตุการณ์ในช่วงปลายรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ที่มีคนต่างชาติเข้ามาในแผ่นดินอยุธยามากมาย มีทั้งรับราชการและทำมาค้าขาย ชาวต่างชาติผู้ที่มีอำนาจมากในช่วงนั้นคือ เจ้าพระยาวิชาเยนตร์
เหตุเริ่มจาก มีผู้พบกับปิตันช่อง จมน้ำเสียชีวิตในชุดห่มสไบ และนุ่งผ้าลายกินรี ซึ่งเป็นชุดของชนชั้นสูงในราชสำนัก คำถามมากมายเกิดขึ้น ทำไมผู้ชายที่เสียชีวิตจึงนำชุดของสตรีมาใส่ และเป็นผ้าของชนชั้นสูง เสียชีวิตอย่างไร ถูกฆ่าตายหรือไม่ ถ้าถูกฆ่า ใครเป็นคนฆ่า และเนื่องจากเป็นชาวต่างชาติ การตัดสินคดีก็ต้องเป็นไปตามระเบียบของคนต่างชาติ ที่มีเจ้าพระยาวิชาเยนตร์ดูแลอยู่ ซึ่ง ณ ขณะนั้นมีอำนาจมาก และ ถ้าคนที่ฆ่ากับปิตันช่องเป็นคนไทยก็จะนำเหตุนี้ ไปเป็นจุดได้เปรียบ ที่จะยึดแผ่นดินอยุธยา เป็นของฝาหรั่ง
แม่หญิงพุดซ้อนผ่านมาเห็นเหตุการณ์พอดี ได้เข้าไปตรวจดูศพ อย่างคร่าวๆในทันที และรู้สึกว่า ไม่น่าที่จะเป็นการจมน้ำตาย ซึ่งไม่รอดพ้นสายตาของเมอร์ซิเออร์โรแบรต์ และหลวงอินทร์ ก็เข้ามาขัดขวางการตรวจของพุดซ้อนด้วยไม่เชื่อว่า ผู้หญิงจะตรวจศพได้ น่าจะทำได้แค่เป็นหมอตำแยเท่านั้น แต่โรแบรต์เห็นต่าง คือเชื่อในความสามารถของพุดซ้อน เค้าโครงความยุ่งยากของเรื่องจึงเกิดขึ้น
เมื่อหลวงอินทร์ ต้องการให้เป็นอุบัติเหตุเสียชีวิตเอง เพื่อจะไม่ทำให้บ้านเมืองมีปัญหา แต่พุดซ้อนไม่คิดอย่างนั้น ความเป็นหมอที่ต้องบอกในสิ่งที่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะมีความคิดว่า คนตายพูดไม่ได้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับคนตาย แต่ด้วยสถานการณ์บ้านเมืองที่ ฝาหรั่งมีอำนาจมาก และประสงค์จะยึดแผ่นดินอยุธยาทันทีที่เพลี่ยงพล้ำ ในขณะที่โรแบรต์ ก็ต้องการรู้สาเหตุแห่งการเสียชีวิตที่แท้จริง หลวงอินทร์ไม่ไว้ใจโรแบรต์เพราะไม่รู้ว่าเป็นพวกไหน เจตนาดีหรือร้าย
ผู้ต้องสงสัยคนแรกคือจั่น นักโทษที่แหกคุกออกมา ในคืนเดียวกับที่กับปิตันช่องเสียชีวิต ผู้ที่เคยมีเรื่องกับ กับปิตันช่อง จนต้องติดคุก
ผู้ต้องสงสัยคนที่สองคือ มาดามคลาร่า ภรรยาของกับปิตันช่อง
ผู้ต้องสงสัยคนที่สามคือ เอี้ยง ผู้ที่ถูกกับปิตันช่องข่มขืนในขณะที่ท้อง และทำให้ต้องแท้งลูก
ผู้ต้องสงสัยคนที่สี่คือ กับปิตันป่อง ที่มีผู้ให้การว่า เห็น กับปิตันทั้งสองทะเลาะกันอย่างรุนแรง ก่อนที่กับปิตันช่องจะเสียชีวิตไม่นาน
ผู้ต้องสงสัยคนสุดท้ายคือ เจ้าจอมกินรี เหตุใดกับปิตันช่องถึงนุ่งผ้าลายกินรี ที่เป็นของเจ้าจอมกินรี
การสืบสวนดำเนินมาเรื่อยๆ ทำให้พบเบาะแส และผู้ต้องสงสัยมากขึ้น ประกอบกับ หลวงอินทร์ เริ่มที่จะยอมรับในความสามารถในการทำหน้าที่เป็นหมอเชลยศักดิ์ ของแม่หญิงพุดซ้อนมากขึ้น พร้อมกับลดความอคติที่มีต่อบ้านหมอโหมด(พ่อหมอ พ่อของพุดซ้อน) จากการที่ปักใจเชื่อว่า หมอโหมดไม่เก่งทำให้เมียรักของตน คือดวงจันทร์ต้องเสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อน นอกจากลดอคติแล้วยังก่อความรักขึ้นในใจตัวเอง เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย โดยที่ทั้งสองยังไม่รู้ใจตนเอง
ในระหว่างการสอบสวน เช้าวันหนึ่ง แขกเฝ้าบ้านกับปิตันป่อง มาตาม โรแบรต์ให้ไปดูกับปิตันป่องที่บ้าน พบว่า กับปิตันป่องเสียชีวิตจากการถูกฆ่าปาดคอ และ อุสมานคู่ขาของกับปิตันป่องก็หายไป ขณะนี้จึงมีผู้ต้องสงสัยเพิ่มมาอีก 1 คน คือ อุสมาน ทางโรแบรต์ และ หลวงอินทร์ได้สืบทราบว่า อุสมานไปหลบซ่อนอยู่ที่ชุมชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่จั่น หนีมาหลบซ่อนตัว จึงได้ตามไป โดยมีแม่ของจั่นคือจวง ขอตามพุดซ้อนไปพบลูกด้วย เมื่อไปถึงพบว่า อุสมานผูกคอฆ่าตัวตายเสียแล้ว
แต่จากการตรวจของพุดซ้อนพบว่า ถูกฆ่าตาย โดยให้กินของที่มีส่วนประกอบของว่านเลือด ให้เสียชีวิตก่อน แล้วอำพรางศพ โดยทำเหมือนผูกคอตาย ส่วนจั่น เมื่อแม่มาขอร้องให้มอบตัว ก็ยอมมอบตัว และบอกว่า ตนไม่ได้เป็นคนฆ่ากับปิตันช่อง
ลอยคราบเลอะที่ผ้าอย่างลายกินรี ทีแรกพุดซ้อนคิดว่า อาจจะเกิดจาก การรับประทานผลไม้ชื่อ "บลูเบอรี่" และเปรอะเปื้อน แต่ตรวจอีกครั้งพบว่า คือ"ว่านเลือด" หรือ หนุมานถวายแหวน ที่เป็นว่านมีพิษ ใครกินเข้าไปจะเสียชีวิตได้ มีแนวโน้มเป็นต้นเหตุของการเสียชีวิต กับปิตันช่องต้องกินอาหารที่ผสมว่านเลือดเข้าไป ทำให้เกิดอาการมึนงงและเสียชีวิต คำถามคือ ใครเป็นคนให้กับปิตันช่องกินอาหารที่ผสมว่านเลือด เหมือนเป็นเรื่องบังเอิญ อุสมานที่เสียชีวิต เป็นญาติห่างๆกับ มาดามคลาร่า หมอพุดซ้อนเริ่มพุ่งความสงสัยไปที่มาดามคลาร่า
หลวงพ่อโปมาร์ท คุณหมอสอนศาสนา ขอให้พุดซ้อนหาไม้ไผ่สีทองเพื่อจะเอาใช้ดามแขนหนูอองรีลูกของมาดามคลาร่า หลวงพ่อบอกว่า เด็กแขนหัก ทำให้พุดซ้อนประมวลเหตุการณ์และคิดว่า หนูอองรีต้องแขนหักในวันที่ กับปิตันช่องเสียชีวิตแน่ๆ หลังจากพูดคุยกับหลวงพ่อโปมาร์ทเสร็จ จึงนั่งเรือไปเพื่อสอบถามมาดามคลาร่า ถึงสาเหตุของการแขนหัก ของหนูน้องอองรี พร้อมกับอะมีนะห์ สาวน้อยแขก ที่พี่เลี้ยงของตน พบในวันที่พบศพกับปิตันช่อง และได้ช่วยเหลือจากการจะถูกขาย โดยจ่ายเงินให้กับชายที่จะมาจับตัวอะมีนะห์ ที่บ้านของตน และรับไว้ในปกครอง
อะมีนะห์มีอาการตื่นกลัวมากเมื่อมาถึงที่บ้านมาดามคลาร่า ขอรอที่ท่าน้ำ ทำให้พุดซ้อนต้องเดินเข้าไปคนเดียว ระหว่างที่รออยู่ที่ในสวน พุดซ้อนได้สังเกตเห็นว่า มีต้นว่านเลือดปลูกซ่อนอยู่ในพุ่มด้านใน จึงรับรู้ได้ในนาทีนั้นว่า ใครคือผู้ต้องหา แต่ก็ช้าไป พุดซ้อนถูกตีจนสลบ และถูกนำมาไว้ที่ห้องใต้ดิน พร้อมกับอามีนะห์ ที่โดนจับมามัดด้วยกัน ส่วนคนพายเรือ ถูกฆ่าตาย
เมื่อพุดซ้อนฟื้นขึ้นมา ความจริงก็เปิดเผย ว่ามาดามคลาร่าเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด ทั้งกับปิตันช่อง กับปิตันป่อง อุสมาน คนพายเรือ รวมถึง คดีจับเด็กอะมีนะห์ ไปขายซ่องด้วย และกำลังจะเอาว่านเลือดกรอกปากพุดซ้อน เป็นจังหวะที่โรแบรต์ และหลวงอินทร์ เข้ามาช่วยไว้พอดี แม่หญิงพุดซ้อนโดนกรอกว่านเลือด หมดสติไป จึงรีบส่งไปให้ บาทหลวงโปมาร์ทดูอาการ ส่วนคลาร่าโดนจับขังคุกขี้ไก่ เนื่องจากเป็นคนของฝรั่งเศส จึงต้องอยู่ในการดูแลของ เจ้าพระยาวิชาเยนตร์ ส่วนเอี้ยงบ่าวในบ้านที่ร่วมมือด้วย ถูกขังอยู่ในคุกหลวง
ส่วนหนูอองรี ท้าวทองกีบม้า รับดูแล ผ้าอย่างลายกินรีที่พบในที่เกิดเหตุ เป็นผ้าที่เจ้าจอมกินรีลับลอบสั่งพิมพ์เพิ่มโดยไม่ได้รับอนุญาต กับปิตันช่องไปนำมาจากกับปิตันป่องเพื่อเอามาเป็นประกันให้เจ้าจอมกินรี ชำระหนี้ที่ติดไว้ มีผู้พบเห็นว่า สองกับปิตันนี้ทะเลาะกันใหญ่โต นอกจากนำผ้าไป ยังนำตัวอะมินะห์ ผู้ที่ลักลอบขึ้นเรือมา ไปด้วย เจ้าจอมกินรีต้องการได้ผ้าคืน เพราะกลัวว่าความจะทราบถึงพระเจ้าอยู่หัว และตนจะเดือดร้อน
สุดท้าย เจ้าจอมกินรีผู้มีอำนาจมากในยุคนั้นด้วยเป็นคนโปรด ก็ต้องถูกจับ จากการกราบบังคมทูลของคุณหญิงแสร์ มารดาของ หลวงอินทร์ และ มีการนำสืบในคดีจัดให้มีบ่อนในราชสำนักโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนโรแบรต์ตามเจ้านาย กลับประเทศ พุดซ้อนกับหลวงอินทร์ได้ครองรักกันอย่างมีความสุข
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
