18 พ.ย. 2022 เวลา 06:20 • ท่องเที่ยว
แม่น้ำเจ้าพระยา .. เมื่อดาวบนฟ้า ต้องหลีกทางให้ความงดงามของสวรรค์บนดิน
ฉันเชื่อว่าทุกคนมีความทรงจำในวัยเด็กที่แตกต่างกันออกไป …
หนึ่งในความทรงจำวัยเด็กที่สุดแสนประทับใจของฉัน คือ เรามีบ้านริมน้ำ และการได้ล่องเรือในแม่น้ำเป็นความสุขสุดยอดของเด็กบ้านนอกทุกคน
"แม่น้ำ" … สำหรับฉัน คือสีสันของความสนุก ความมีชีวิตชีวา ฟ้าใส น้ำสวย จนเด็กบ้านนอกอย่างเราอยากจะออกไปกระโดดโลดเต้น เล่นน้ำให้ชุ่มฉ่ำได้ทั้งวัน โดยไม่ต้องกังวลกับเหงื่อไคลมากมาย
ความทรงจำเล็กๆ … แต่ไม่เคยเลือนหายไปจากมุมหนึ่งของหัวใจ
ค่ำคืนในวันฟ้าใสในเมืองกรุง .. เรามีโอกาสได้ไปนั่งรับประทานอาหารเย็นในเรือที่ล่องแม่น้ำเจ้าพระยา
เรือลำหรูค่อยๆเบนหัวเรือออกจากท่า .. ที่นั่งของเราอยู่บริเวณหัวเรือ เราจึงมีโอกาสใช้สายตาจับจ้องอยู่กับอาคารสถานที่ที่อาบไล้ด้วยแสงสีจากดวงไฟ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ
ในความเวิ้งว้างของสายนำแห่งเจ้าพระยา .. สายลมแผ่วเบาลอยละเลียดแวะทักทายใบหน้า รู้สึกได้ถึงไอชื้นที่ยังคงคลอเคลียหยอกล้อใต้เงาราตรี
ความมืดยังคงโอบกอดธรรมชาติรอบตัว .. แต่ในความสะลึมสะลือก็ยังไม่สามารถที่จะบั่นทอนความงามที่ได้รับการปรุงแต่งของสถานที่ที่กำลังผ่านสายตาไปฉากแล้ว ฉากเล่าลงไปได้ …
เฉดสีแดง น้ำเงิน ม่วง เหลืองทอง ของอาคารสูงเสียดฟ้าที่ประดับด้วยดวงไฟ ก่อเกิดเงาสะท้อนโลมไล้ผิวน้ำระยิบระยับ .. ล้อเล่นกันอย่างน่าอัศจรรย์
ท้องฟ้าเปรียบเหมือนสวรรค์ มันก็ดูเหมือนจะอยู่แค่เอื้อมเมื่อยืนอยู่ที่นี่ … เหมือนวิมานที่อยู่ของหมู่เทพในภูเขาโอลิมปัส และเหมือนกับจิตใจของเรากำลังจะเดินทางกลับไปสู่จุดที่จักรวาลเพิ่งจะเริ่มต้น
การเดินทางของเส้นแสงนั้นมีเสน่ห์ที่ล้ำลึก .. เราจึงยินดีที่จะนั่งรอชมความมหัศจรรย์ของสีส้มแดงไล่เฉดสีลดหลั่นกันจากสวรรค์บนดินที่ผ่านเข้ามาในสายตาอย่างไม่รู้สึกเบื่อ
แสงสีริมฝั่งเจ้าพระยา เป็นภาพงดงามเหนือคำบรรยาย … สิ่งที่เห็นอาจมีความหมายขึ้นมากมาย หากคุณได้อยู่ข้างๆคนรู้ใจ
ยิ่งใกล้ ก็ยิ่งสวย … เพราะได้มีโอกาสเห็นสิ่งสวยงามเหนือกว่าคนอื่น
ความรู้สึกในช่วงเวลานี้ .. ไม่มีความสุขใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่าการได้มองออกไปยังขอบฟ้าที่ไร้ขอบเขต แล้วเก็บความทรงจำไว้เป็นภาพและเส้นแสงในเมมโมรี่ของกล้องตัวโปรด
ปล่อยตัว ปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับธรรมชาติเบื้องหน้า ….
ห้วงยามนี้ คล้ายรู้สึกดั่งสายน้ำ ไร้สีสันเจาะจง ไร้รสชาติพิเศษ ไร้โครงสร้างตายตัว หากแต่เป็นธรรมชาติและการเคลื่อนไหล …
บางครั้ง น้ำอาจหยุดนิ่ง … แต่เมื่อใดที่น้ำสามารถหวนกลับคืนสู่สภาพเลื่อนไหลของมันเองได้ เมื่อนั้น น้ำจะพบกับธรรมชาติเดิมแท้ของตัวเอง … เช่นเดียวกับมนุษย์
แม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านความเป็นมาและการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆรอบตัวมานาน มากกว่าความทรงจำของใครคนใดคนหนึ่งจะจำได้ทั้งหมด .. แต่ The River of the King แห่งนี้ยังไหลเอื่อย ยืนยง เป็นประจักษ์พยานที่จะคอยเล่าขานตำนานแห่งมหานครให้ทุกคนได้ฟัง
แม่น้ำเจ้าพระยา .. เป็นแม่น้ำสายสำคัญของประเทศไทย เกิดจากการรวมตัวของแม่น้ำสาขาหลัก 2 สายจากภาคเหนือ คือ แม่น้ำปิงและแม่น้ำน่าน โดยมาบรรจบกันที่ปากน้ำโพ อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ .. ความยาวถึง 372 กิโลเมตร โดยแยกออกเป็นแม่น้ำท่าจีน (คลองมะขามเฒ่า) ที่จังหวัดชัยนาท
พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา ระบุว่า เมื่อ พ.ศ. 2041 ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ได้มีการขุดลอกคลองสำโรงเนื่องจากคลองตื้นเขิน เรือใหญ่เดินทางไปมาผ่านคลองสำโรงไม่สะดวก และมีการขุดพบรูปเทพารักษ์ 2 องค์ได้แก่ พระยาแสนตาและพระยาบาทสังขกร จึงเรียกชุมชนบริเวณนี้ว่า บางเจ้าพระยา ซึ่งต่อมาได้นำชื่อชุมชนบริเวณปากน้ำนี้มาตั้งเป็นชื่อแม่น้ำ
การขุดลัดแม่น้ำเจ้าพระยาในบริเวณกรุงเทพมหานคร ทั้ง 3 ครั้งในสมัยอยุธยา ประกอบด้วยคลองลัดบางกอก พ.ศ. 2065 รัชสมัยสมเด็จพระไชยราชาธิราช, คลองลัดบางกรวย พ.ศ. 2081 รัชสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ, คลองลัดนนทบุรี พ.ศ. 2179 รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง และในสมัยรัตนโกสินทร์ คลองลัดโพธิ์ บริเวณตำบลทรงคะนองและตำบลบางยอ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
Ref : Wikipedia
โฆษณา