เคยมั๊ย นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ แล้วยังต้องตื่นเช้าไปทำงาน ทำให้รู้สึกมึนๆ งงๆ แทบอยากจะหลับให้ได้เลย และแถมยังต้องพยายามใช้พลังงานให้น้อยลง ประหยัดให้มากที่สุด เพื่อจะยังคงทำงานได้ต่อ ทำให้ประสิทธิภาพงานลดลง... แต่มันไม่อาจเป็นแบบนั้นอีกต่อไป เพียงแค่ฝึกหายใจด้วยวิธีนี้....
ก่อนอื่นเรามาดูกันว่า ร่างกายเราทำงานอย่างไหร่.... การหายใจนั้นไม่เพียงจะควบคุมการสร้างออกซิเจนให้กับเซลล์ต่างๆแล้ว เท่านั้น มันยังควบคุมการไหลเวียนของน้ำเหลืองในร่างกายอีกด้วย ระบบน้ำเหลืองคืออะไร? บางคนมองว่ามันเหมือนระบบท่อระบายน้ำเสียร่างกาย ทุกเซลล์ในร่างกายของคุณถูกล้อมรอบด้วยน้ำเหลือง นั้นแสดงว่า คุณมีน้ำเหลืองในร่างกายมากกว่าเลือดถึงสี่เท่า
ระบบน้ำเหลืองทำงาน ดังนี้...เลือดถูกสูบฉีดจากหัวใจผ่านระบบหลอดเลือดไปยังเส้นโลหิตฝอยที่บอบบาง เลือดนำออกซิเจนและสารอาหารไปยังเส้นเลือดฝอย ซึ่งแพร่กระจายสู่ ของเหลวรอบๆ เซลล์และของเหลวนี้เรียกกันว่า น้ำเหลือง เซลล์จะนำเอาออกซิเจนและสารอาหารที่จำเป็นสำหรับความสมบรูณ์ของพวกมันไปใช้ แล้วจึงขับถ่ายของเสียที่เป็นพิษซึ่งบางส่วนย้อนกลับไปสู่น้ำเหลืองด้วย แต่เซลล์ที่ตายแล้ว โปรตีนในเลือด และสารที่เป็นพิษอื่นๆ จะต้องถูกนำออกไปโดย ระบบน้ำเหลือง และระบบน้ำเหลืองถูกปลุกให้ทำงานโดยการหายใจลึกๆ
และเซลล์ของร่างกายต้องพิงระบบน้ำเหลือง เพราะเป็นทางเดียวที่จะขับถ่ายสารพิษปริมาณมากๆได้ รวมทั้งของเหลวส่วนเกินอื่นๆ ออกไป ซึ่งจำกัดปริมาณออกซิเจน ของเหลวจะไหลผ่านต่อมน้ำเหลืองที่ซึ่งเซลล์ที่ตายแล้ว และสิ่งที่เป็นพิษอื่นๆ ถูกทำลาย ยกเว้นโปรตีนในเลือดถูกทำให้เป็นกลาง ระบบน้ำเหลืองมีความสำคัญอย่างไร? ถ้าระบบถูกปิดลงเป็นเวลา 24 ชม. คุณจะตายจากโปรตีนในเลือดที่ถูกกักเอาไว้ รวมทั้งจากของเหลวส่วนเกินที่อยู่รอบๆ เซลล์
กระแสเลือดมีเครื่องสูบอยู่ด้วยซึ่งได้แก่หัวใจของคุณนั่นเอง แต่ระบบน้ำเหลืองไม่มี ทางเดียวที่น้ำเหลืองเคลื่อนได้นั้น มาจากการหายใจลึกๆ และการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ ดังนั้นถ้าคุณต้องการจะมีกระแสเหลือดที่สมบรูณ์พร้อมระบบน้ำเหลืองและระบบป้องกันโรคภัยที่มีประสิทธิผล คุณจำเป็นจะต้องหายใจลึกๆ และผลิตการเคลื่อนไหวที่กระตุ้นมัน
ดอกเตอร์แจ๊ค ชีลด์ส นักน้ำเหลืองวิทยาที่เป็นที่ยกย่องแห่งซาน ตาบาบาร่า รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ศึกษาเกี่ยวกับระบบป้องกันโรคของร่างกาย เขาใส่กล้องเข้าไปในร่างกายของคน เพื่อดูว่าอะไรเป็นตัวชำระล้างระบบน้ำเหลือง เขาพบว่าการหายใจลึกๆ เข้าถึงกะบังลมในท้อง เป็นวิธีการที่ให้ผลมากที่สุด ที่จริงแล้ว การหายใจลึกๆและออกกำลังกายสามารถเร่งกระบวนการนี้ได้มากถึง 15 เท่า! นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าระบบโยคะ เพื่อสุขภาพเป็นที่สนใจเกี่ยวกับการหายใจเพื่อสุขภาพที่ดี ซึ่งไม่มีอะไรที่จะชำระล้างสารพิษได้ดีเท่านี้อีกแล้ว
ดังนั้น ขอถ่ายทอดให้คุณรู้วิธีการที่ให้ผลดีที่สุดในการหายใจเพื่อชำระล้างระบบของคุณ คุณควรหายใจดังนี้... หายใจเข้านับหนึ่งและกลั้นเอาไว้อีกสี่จังหวะ หายใจออกนานสองจังหวะ เช่น ถ้าคุณหายใจ 4 วินาที ให้คุณกลั้นหายใจไว้อีก 16 วินาที แล้วหายใจออก 8 วินาที
เหตุใดจึงหายใจออกเป็น 2 เท่าของการหายใจเข้า? นั้นเป็นเพราะคุณกำลังกำจัดสารพิษผ่านระบบน้ำเหลือง แล้วทำไมจึงกลั้นเอาไว้เป็น 4 เท่า นั้นคือการที่คุณจะสามารถให้ออกซิเจนแก่เลือดของคุณได้เต็มที่และทำให้ระบบน้ำเหลืองเริ่มทำงาน เมื่อคุณหายใจ คุณควรเริ่มให้ใจให้ลึกลงในท้อง เช่นเดียวกับเครื่องดูดฝุ่นที่กำจัดสารพิษทั้งหมดในระบบเลือด
คุณหิวมากหลังจากการออกกำลังกายไหม? คุณต้องการนั่งลงและกินอาหารจำนวนมากหลังจากวิ่งมา 6.4 กม. อย่างนั้นหรือ? เรารู้ว่าที่จริงแล้วคนเราจะไม่เป็นอย่างนั้น แล้วทำไมจึงไม่ล่ะ? เพราะว่าด้วยการหายใจอย่างสมบรูณ์ ร่างกายจะได้สิ่งที่จำเป็นมากที่สุดไปแล้ว ดังนั้น นี้คือสิ่งที่สำคัญข้อแรกแห่งการมีชีวิตอย่างมีสุขภาพดี หยุดทำสิ่งอื่นก่อน! ให้หายใจเข้าลึกๆ สักสิบครั้ง ด้วยอัตราที่กล่าวไว้ อย่างน้อย ให้ทำวันละสามครั้ง ในอัตราเท่าไหร่นะหรือ? หายใจเข้านับหนึ่ง กลั้นไว้อีกสี่จังหวะ หายใจออกนับให้สองจังหวะ
ยกตัวอย่างเช่น เริ่มต้นในท้องด้วยการหายใจลึกๆ ผ่านจมูกในขณะที่นับถึง 7 วิ (ใช้เวลามากน้อยตามความสามารถของคุณ) กลั้นหายใจไว้สี่เท่าที่คุณหายใจเข้า ในกรณีนี้คือ นับ 28 วิ จากนั้นหายใจออกช้าๆ ผ่านปากเป็นจำนวนนับเท่ากับสองเท่าของเวลาที่คุณหายใจ หรือเท่ากับ 14 วิ ในกรณีนี้ คุณจะต้องไม่บีบบังคับตัวเอง ให้ดูจำนวนนับที่คุณสามารถทำได้ แล้วค่อยๆขยายให้นานขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของปอด ให้ทำลักษณะนี้ 10 ครั้ง 3 หนต่อวัน และคุณจะพบว่าสุขภาพคุณดีขึ้นอย่างมหาศาล
ไม่มีอาหารหรือยาใดๆ ในโลกที่ทำได้ดีสำหรับตัวคุณเท่ากับรูปแบบการหายใจเช่นนี้อีกแล้ว...
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
