18 พ.ย. 2022 เวลา 17:57 • กีฬา
เกาะกระแสฟีเวอร์!! ย้อนอดีต 5 เหตุการณ์สุดอื้อฉาวในช่วงเทศกาลฟุตบอลโลก (ภาค1)
ก็เรียกได้ว่าใกล้เข้ามาแล้ว สำหรับฟุตบอลโลกปี 2022 โดยมีกาต้าร์เป็นเจ้าภาพ ที่ครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งไหน ๆ เพราะมันเป็นการแข่งขันกันในช่วงสิ้นปี แทนที่จะเป็นช่วงกลางปีอย่างที่ผ่าน ๆ มา
และวันนี้เป็นโอกาสอันดี ที่เราจะมาติดตามเหตุการณ์สุดอื้อฉาวในช่วงมหกรรมฟุตบอลโลก ว่ามีเรื่องใดบ้างที่น่าสนใจกันบ้าง
1. อันเดรส เอสโคบาร์ ถูกลอบสังหาร (ฟุตบอลโลก 1994 ชาติเจ้าภาพ สหรัฐฯ)
หลังจากมหกรรมฟุตบอลโลกปี 1994 สิ้นสุดลงภายหลังเพียง 10 วัน ได้เกิดเหตุฆาตกรรมขึ้นเมื่อ อันเดรส เอสโคบาร์ นักเตะทีมชาติโคลอมเบียถูกลอบยิงจนเสียชีวิต หลังจากที่เขาก่อความผิดพลาดในการยิงเข้าประตูตัวเองในนัดที่โคลอมเบียพบกับชาติเจ้าภาพอย่างสหรัฐฯ โดยในนัดนั้น โคลอมเบียพ่ายสหรัฐฯ ไปด้วยสกอร์ 2-1
ในตอนแรกมีเสียงเล่าลือกันว่าผู้ก่อเหตุอาจเป็นกลุ่มมาเฟียที่เสียพนันจากการที่ทีมชาติของพวกเขาตกรอบ ก่อนที่ภายหลัง ตำรวจโคลอมเบียจะจับกุมตัวมือปืนผู้ลงมือก่อเหตุอย่าง อุมแบร์โต มูญอซ ที่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย โดยมูญอซได้สารภาพว่าเขาลงมือฆ่าเอสโคบาร์ เพราะโกรธแค้นและเสียใจที่ทีมชาติโคลอมเบียตกรอบ
2. Bogota Bracelet (ฟุตบอลโลก 1970 ชาติเจ้าภาพ เม็กซิโก)
ย้อนกลับไปในเดือนปี 1970 บ๊อบบี้ มัวร์ กัปตันทีมชาติอังกฤษถูกตำรวจจับกุมตัว หลังจากที่เขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยในการขโมยสร้อยข้อมือจากร้านขายเครื่องประดับในเมืองโบโกต้า ประเทศโคลอมเบีย ที่มีมูลค่าสูงถึง 600 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว21,500 บาท)
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้กลายเป็นประเด็นความตึงเครียดระหว่างสองประเทศอย่างอังกฤษและโคลอมเบีย เพราะทีมชาติอังกฤษ จะต้องเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 1970 ในฐานะแชมป์เก่า โดยภายหลัง ทางการโคลอมเบียได้ปล่อยตัว บ๊อบบี้ มัวร์ ให้รีบบินไปสมทบกับเพื่อนร่วมทีมที่ประเทศเม็กซิโกจากการถูกกดดันทางการทูตโดยอังกฤษ
โดยอีกสองปีต่อมา ทางการโคลอมเบียตัดสินว่า บ๊อบบี้ มัวร์เป็นผู้บริสุทธิ์จากข้อกล่าวหาดังกล่าว
3. Hand of God หัตถ์แห่งพระเจ้า (ฟุตบอลโลก 1986 ชาติเจ้าภาพ เม็กซิโก)
ย้อนกลับไปในฟุตบอลโลกปี1986 ที่ประเทศเม็กซิโก ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เป็นการพบกันระหว่างทีมชาติอังกฤษและทีมชาติอาร์เจนตินา โดยเป็นฝ่ายอาร์เจนตินาที่สามารถเอาชนะอังกฤษไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 โดยผู้ทำประตูทั้งสองลูกก็คือ ดิเอโก้ มาราโดน่า
ในนัดดังกล่าวได้เกิดเหตุอื้อฉาวที่สุดอีกครั้งในหน้าประวัติศาสตร์ของฟุตบอลโลก เมื่อหนึ่งในสองประตูที่มาราโดน่าทำได้ คือการใช้มือปัดลูกฟุตบอลเข้าประตู และเหตุการณ์ดังกล่าวภายหลังได้ถูกเรียกว่า ‘หัตถ์แห่งพระเจ้า’ และส่งผลให้ทีมชาติอาร์เจนตินา คว้าแชมป์โลกในปีนั้นไปได้สำเร็จ ท่ามกลางความเจ็บช้ำของทีมชาติอังกฤษ ที่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน
4. โรนัลโด้ป่วยจริงหรือเปล่า? (ฟุตบอลโลก 1998 ชาติเจ้าภาพ ฝรั่งเศส)
ย้อนกลับไปในนัดชิงชนะเลิศของฟุตบอลโลกปี 1998 เป็นการพบกันระหว่างแชมป์เก่าบราซิลและฝรั่งเศสชาติเจ้าภาพ โดยในตอนนั้น โรนัลโด้ กองหน้าดาวซัลโวตัวความหวังของทีมชาติบราซิลเกิดล้มป่วยด้วยโรคอาหารเป็นพิษ จนทำให้เขาถูกหามส่งเข้าโรงพยาบาล
แม้จะไม่พร้อมในการลงสนาม แต่สุดท้ายโรนัลโด้ ในฐานะตัวความหวังของบราซิลก็ถูกส่งลงในนัดชิงชนะเลิศกับฝรั่งเศสอยู่ดีในสภาพที่ไม่ฟิตเต็มร้อย ก่อนที่จะพ่ายฝรั่งเศสไปด้วยสกอร์ 3-0 ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับโรนัลโด้ ได้ทำให้มีคนสงสัยว่าอาจมีใครวางยาโรนัลโด้ ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกยุคนั้นหรือไม่
5. โสมขาวทำแสบ (ฟุตบอลโลก 2002 ชาติเจ้าภาพ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้)
ย้อนกลับไปในช่วงฟุตบอลโลกปี 2002 ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่น ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ เกาหลีใต้สามารถผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ท่ามกลางข้อกังขาว่าเกาหลีใต้ได้ประโยชน์จากผู้ตัดสินในฐานะชาติเจ้าภาพจากรอบที่ผ่านมาหรือไม่
ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เกาหลีใต้พบกับอิตาลี โดยผู้ตัดสินในนัดดังกล่าวคือ ไมรอน โมเรโน และเกมการแข่งขันสุดอื้อฉากก็ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ ไมรอน โมเรโน ปฏิเสธประตูที่อิตาลีสามารถทำได้ และยังให้ใบแดงกับนักเตะตัวหลักของทีมชาติอิตาลีอย่าง ฟรานเชสโก ต๊อตติ
ท้ายที่สุด เกาหลีใต้ที่มีผู้เล่นเหนือกว่า สามารถเบียดเอาชนะอิตาลีไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 โดยการโหม่งทำประตูในช่วงต่อเวลาพิเศษแบบโกลเด้นโกลจาก อาห์น จุง วาน และหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้ทำให้ อาห์น จุง วาน ถูกสโมสรต้นสังกัดในอิตาลีอย่างเปรูจา ยกเลิกสัญญา
และจากเหตุการณ์นี้ ทำให้ อาห์น จุง วาน กลายเป็นตัวร้ายในสายตาชาวอิตาลี เช่นเดียวกับผู้ตัดสินอย่าง ไมรอน โมเรโน ที่ตัดสินเอนเอียงไปในทางชาติเจ้าภาพอย่างเห็นได้ชัด แต่กับชาวเกาหลีใต้ อาห์น จุง วาน ได้กลายเป็นวีรบุรุษของชาติ จากประตูที่เขาทำได้
ติดตามภาคสองได้จากลิงค์ด้านล่างครับ
ข้อมูลจาก
โฆษณา