19 พ.ย. 2022 เวลา 10:22 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Home Coming กว่าจะได้กลับบ้าน
จะเรียกว่าเป็นหนังเซอร์ไพร์สของ เทศกาลภาพยนตร์จีน ณ กรุงเทพ ครั้งที่ 12 ก็ได้ เพราะเดิมไม่มีอยู่ในตารางว่าจะมาฉายด้วย แต่เพิ่งมาประกาศเพิ่มเติมหลังในภายหลัง ซึ่งแทบจะเรียกว่าแทบจะฉายชนโรงกับที่จีน (เข้าใจว่าเป็นช่วงปลาย ๆ โปรแกรมของที่โน่น)
ไม่ว่าจะนำมาฉายด้วยเหตุผลใด ก็ถือว่าเป็นโบนัสของเรา เพราะไม่ต้องอ่านซับอังกฤษ
Home Coming เป็นเรื่องราวของนักการทูตจีน ที่ต้องพยายามหาทางสุดชีวิต สุดฤทธิ์ สุดเดช เพื่อพาคนจีนหลายร้อยคนที่ไปทำงานในต่างประเทศกลับบ้าน เพราะประเทศนั้นเกิดสงครามกลางเมือง
หนังอ้างอิงจากเรื่องจริง แต่ใช้ชื่อประเทศสมมุติ เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนความสัมพันธ์ จริง ๆ ก็พอเดาได้แหละ เพราะตัวละครใช้ภาษาอาหรับ ประเทศมีทะเลทราย มีบ่อน้ำมัน แถว ๆ นั้นประเทศอะไรรบกันบ้านเมืองพังบ้าง ก็ตามนั้น แต่จริงแล้วจะเป็นประเทศอะไรก็ไม่ใช่สาระสำคัญเท่าไหร่
เนื้อเรื่องเน้นความยากลำบากของปฏิบัติการช่วยเหลือ ซึ่งแน่นอนว่าท้ายที่สุดมันต้องสำเร็จ ส่วนใครจะตายไปบ้าง ก็ลุ้นกันไป
ในแง่ของความเป็นหนัง รู้สึกได้ถึงความ “ฝรั่ง” หลายส่วน ตั้งแต่ นักการทูตเด็กใหม่ไฟแรงก่อเรื่อง เดือดร้อนให้นักการทูตอาวุโสต้องเสี่ยงชีวิตแก้ไข ทำเรื่องที่ควรจะง่ายกลายเป็นเรื่องยุ่งยาก และต้องมีคนเสียสละชีวิต แม้จะไม่ใช่คนจีนก็ตาม
นอกจากนั้นคาแรกเตอร์ของฝ่ายกบฏ การเอารัสเซียนรูเลท มาล้อเล่นกับชีวิตคน ก็คล้ายหนังฝรั่งหลาย ๆ เรื่องที่เคยดู
ความเหลือเชื่อในการหลบหนีระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายกบฏสู้กัน ก็จะนึกถึงหนังแนวแรมโบ้/ Die Hard อะไรพวกนั้นหน่อย ๆ แต่ถ้าดูเอามัน ดูเอาลุ้น ก็พอจะสนุกอยู่
ถ้าเทียบกับหนัง propaganda แนวเดียวกันเรื่องอื่น บทเรื่องนี้ยังไม่คมคายเท่าไหร่ อาจด้วยข้อจำกัดว่าถ้าขยี้บางเรื่องมากเกินไปอาจกลายเป็นตำหนิทางการจีนแทน
ส่วนที่ชอบของบทเรื่องนี้ คือ การที่ในตอนแรกนักการทูตหนุ่มใช้กล้องถ่ายรูป ถ่ายโน่นถ่ายนี่แบบไม่ดูตาม้าตาเรือ เลยเป็นเหตุให้ถูกจับไปทั้งคณะ แล้วในตอนท้ายกล้องตัวก่อเหตุกลายมาอาวุธที่ช่วยให้นักการทูตอาวุโสที่ไปด้วยกันและคนจีนอีกจำนวนหนึ่งรอดชีวิต
จากที่เคยดูหนังแนวนี้ของจีนมาบ้าง หลายเรื่องคนเขียนบทสามารถหาทางตั้งคำถามกับความเป็นมนุษย์ของตัวละครได้แยบคายกว่านี้ เช่น ในแง่ของการที่คนจีนไปทำงานในต่างแดน โดยเฉพาะในดินแดนทุรกันดาร ต่างภาษาต่างวัฒนธรรม มันต้องมีปัญหา มันไม่ง่าย มันเป็นการไปเพื่อตัวเอง หรือเพื่อชาติ แล้วมันคุ้มไหม
เข้าใจว่าหนังมุ่งจะสื่อสารประมาณว่า ไม่ว่าคนจีนจะไปอยู่ที่ไหนในโลกนี้ เมื่อเกิดอันตราย ทางการจีนจะทุ่มสรรพกำลังอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือให้กลับบ้านได้อย่างปลอดภัย ซึ่งได้อธิบายไว้ตอนท้ายของหนังอย่างยาว
รอบที่ไปดู มีคนจีนมาดูเยอะมาก ซึ่งก็น่าจะประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่
หนังต้องการสื่อสาร
สำหรับคนนอกอย่างเรา เท่าที่ติดตามการเมืองจีนมาบ้าง พอรู้ว่าจีนมีนโยบายไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น ในเรื่องนี้ก็คอนเฟิร์มชัดเจน คือ จะเป็นฝ่ายกบฏหรือรัฐบาล ใครจะชนะ จะแพ้ จีนไม่เกี่ยว ขอแค่เอาคนจีนกลับบ้านได้ก็พอ
นักแสดง
เรื่องนี้ต้องยกเครดิตให้ จางยี่ เลย เพราะคนเดียวเอาอยู่ทั้งเรื่อง ก็ไม่น่าแปลกใจเพราะเป็นนักแสดงสายฝีมือขึ้นหิ้งอีกคนของวงการอยู่แล้ว
ส่วน หวังจวิ้นข่าย พี่ใหญ่ของ TBBOYS นักแสดงนำอีกคนในเรื่อง อาจไม่ยุติธรรมเท่าไหร่ หากจะเอาไปเปรียบเทียบกับ น้องเล็ก อย่างอี้หยางเชียนชี ที่กลายเป็นนักแสดงรุ่นใหม่ที่ทั้งวงการยอมรับว่ามีฝีมือชั้นแนวหน้าคนหนึ่งไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากจะพูดกันอย่างตรงไปตรงมา ถ้าหวังจวิ้นข่ายจะเอาดีในสายการแสดง ก็ยังต้องพยายามกันอีกเยอะและยาวไกลกว่านี้ จริง ๆ เขาก็ไม่ได้เล่นแย่ เพียงแต่มีนักแสดงที่ฝีมือได้โดดเด่นกว่านี้เยอะมากในวงการบันเทิงจีนเท่านั้น
(จะมีติ่งพาทัวร์มาลงผู้เขียนไหมเนี่ย)
โฆษณา