20 พ.ย. 2022 เวลา 06:56 • ข่าวรอบโลก
ยูเครน เศรษฐกิจช้ำหนัก! ว่างงานแล้ว 35% สิ้นปีนี้ยากจนเพิ่มอีก 25% ขาดรายได้ชาติ
7
สงครามใหญ่นั้น ไม่มีครั้งใดที่เคยชนะกันด้วยอาวุธ สเปนก็เคยล้มละลายเพราะทำสงคราม , สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ที่เยอรมนี เป็นฝ่ายยอมพ่ายแพ้ก็เพราะขาดแคลนพลังงาน และวัตถุดิบผลิตอาวุธ นำมาซึ่งปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ อัตราเงินเฟ้อจนต้องยอมเจรจาทางการเมืองยุติสงคราม
ในสงครามเวียดนาม ลาว นั้น สหรัฐฯ ใช้ไทยเป็นที่ตั้งศูนย์บัญชาการ ส่งกำลังบำรุงทหารเข้าไปรบรุกรานนานต่อเนื่องถึง 18 ปี จนเศรษฐกิจสหรัฐฯ ย่อยยับ อัตราเงินเฟ้อสูง ถึงกับประกาศยกเลิกผูกเงินดอลลาร์กับทองคำ
15
แล้วพิมพ์เงินตราออกมาใช้ทำสงครามแบบไม่บันยะบันยัง จนเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง ชาวอเมริกันตกงานมหาศาล เกิดการประท้วงอย่างต่อเนื่อง กดดันจนรัฐบาลจนยอมถอนทหารแพ้สงครามออกจากเวียดนาม ลาว และลอยแพไทยในที่สุด
ดังนั้นประเทศที่รัฐบาลจะทำสงครามยาวๆ ต้องมั่นใจก่อนอันดับแรกว่าอาวุธที่มีเพียงพอต่อสู้กับฝ่ายตรงข้าม ผลิตเติมสต็อคได้เองยาวนานโดยไม่มีการขอนำเข้าจากชาติใด
ต้องมีพลังงานน้ำมัน ก๊าซ เหลือเฟือ ต้องมีเงินคงคลังมากล้น และมีรายได้จากค้าขายส่งออกนำเงินตราเข้าประเทศตลอดเวลา
11
ต้องไม่กู้ยืมต่างชาติช่วงทำสงคราม ประชาชนจะต้องทำมาหากินสร้างรายได้ผลิตผลได้ตามปกติ อาหาร ยารักษาโรค ต้องมีเพียงพอหลายปีโดยไม่ต้องนำเข้า ที่อยู่อาศัยมั่นคงแข็งแรง มีไฟฟ้า ระบบสื่อสารที่มีเสถียรภาพ
ถ้าเช็คลิสต์แล้วทำไม่ได้ตามนี้ก็ต้องยอมรับผลของสงครามที่จะตามมา คือ "ภัยพิบัติทางเศรษฐกิจ" และความเดือดร้อนของประชาชนที่จะต้องอพยพลี้ภัยและอาจถึงกับสิ้นชาติ ถูกฉีกแบ่งดินแดนออกเป็นเสี่ยงเหมือนยูโกสลาเวีย
7
ผลกระทบของยูเครนจากสงครามที่ยืดเยื้อรุนแรงหนักเพิ่มมากขึ้น กำลังประสบปัญหาใหญ่ทางเศรษฐกิจพังทลายอย่างรุนแรง เกิดแรงกดดันต่อรัฐบาลยูเครน
จากค่าใช้จ่ายในการทำสงคราม ในขณะเดียวกันก็ต้องตอบสนองความต้องการทางวัตถุและชีวิตที่ปกติสุขของประชาชนด้วย
ที่แย่กว่านั้นคือ ภัยหนาวและกองทัพรัสเซีย มุ่งทำลายโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญทางพลังงาน ระบบสื่อสาร ระบบคมนาคมขนส่ง โครงสร้างพื้นฐานทางทหารทั่วประเทศยูเครน เป็นปัจจัยสำคัญทำลายเศรษฐกิจของยูเครน
10
ปัญหาใหญ่ที่สุดของยูเครนอาจไม่ใช่กองทัพรัสเซีย แต่คือการรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจของตน และความช่วยเหลือเงินกู้ อาวุธจำนวนมากที่ผ่านมา ความต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ ของยูเครน อาจลดน้อยลงและสิ้นหวัง เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ชาติตะวันตกถูกดึงมาติดหล่มสงครามจนพลอยย่ำแย่
แต่รัสเซียยังคงมีอำนาจศักยภาพทำลายล้างสูง ทั้ง ขีปนาวุธและอากาศยานโดรน เมื่อสัปดาห์ก่อนได้โจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนพังไปแล้วถึง 40% และล่าสุดรัฐบาลยูเครนยอมรับว่าเกิน 50% ทำให้เกิดไฟดับทั่วประเทศ
12
ช่วงแรกชาวยูเครนราว 4.5 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้ ล่าสุดรัฐบาลยูเครนยอมรับว่าเกิน 10 ล้าน และเกิน 80% ขาดแคลนน้ำ และรัสเซียจะไม่หยุดการโจมตีต่อไป ตราบเท่าที่ยูเครน ยังไม่ยอมเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย
ท่ามกลางการพังทลายของระบบสาธารณูปโภค ทางผู้นำของยูเครน ต้องตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานมากมายของประชาชน แต่ยังไม่สามารถทำได้โดยง่ายในตอนนี้
6
สหประชาชาติ รายงานว่า ขณะนี้ชาวยูเครน 6 ล้านคนต้องพลัดถิ่นภายในประเทศ และอีกกว่า 7 ล้านคนได้ลี้ภัยไปต่างประเทศ แล้ว โดยไว้วางใจไปรัสเซียมากที่สุดราว 2.85 ล้านคน การว่างงานเพิ่มขึ้น 35%
ไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ข้อมูลของธนาคารแห่งชาติยูเครน อัตราความยากจนเดิมปี 2020 มีสัดส่วน 2.5% แต่ภายในสิ้นปีนี้อาจเข้าใกล้ 25% หรือเพิ่มขึ้นมา 10 เท่า อัตราว่างงาน 35% และความยากจนจะเพิ่มขึ้นเป็น 50% ภายในสิ้นปีหน้า 2023
6
ชะตากรรมนี้สะท้อนยืนยันให้เห็นถึงรูปแบบเดิมทางประวัติศาสตร์ สงครามที่ยืดเยื้อยาวนานจะทำลายล้างเศรษฐกิจของผู้สู้รบที่หมายถึงยูเครนและชาติตะวันตกผู้สนับสนุน
และผลร้ายทางเศรษฐกิจจะคงอยู่อีกนานหลังจากสงครามสิ้นสุดลงซึ่งยังไม่มีวี่แววว่ายูเครน จะสนใจสู่โต๊ะเจรจา แต่ถ้ายุติสงครามตอนนี้คาดประมาณเงินสำหรับการฟื้นฟูยูเครนหลังสงครามขึ้นใหม่จะต้องใช้ราว 349,000 - 750,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 26.85 ล้านล้านบาท)
7
มีความพยายามจะยึดทรัพย์สินของรัสเซียในชาติตะวันตกราว 17,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 608,600 ล้านล้านบาท) เอามาจ่ายค่าอาวุธให้ยูเครน แต่สิ่งนี้ไม่ง่ายเพราะจะมีอุปสรรคทางกฎหมายมากมาย
เช่น ถ้ายึดจากธนาคารในสวิสเซอร์แลนด์ จะทำให้สวิสฯ ขาดความเชื่อถือเสี่ยงจะถูกตอบโต้จากชาติพันธมิตรรัสเซียร่ำรวยในตะวันออกกลาง หรือแอฟริกา แห่กันถอนเงินฝากของชาติตนพร้อมกัน หายนะใหญ่ต่อระบบธนาคารสวิสฯ จะสูญสิ้นลงทันที
4
และรัสเซีย ก็จะตอบโต้โดยยึดทรัพย์ของบริษัทชาติตะวันตกที่เคยลงทุนมหาศาลไว้ในรัสเซียตกเป็นของรัฐเพื่อชดเชยเช่นกัน ทำให้ชาติตะวันตกเสียหาย 2 ต่อโดยไม่ได้อะไรติดมือเลย และบอบช้ำหนัก
ธนาคารโลก คาดการณ์ว่า GDP ของยูเครนจะหดตัวลง 35%ในปีนี้ และคาดการณ์ว่าปีหน้าอาจหดตัวมากถึง 40 % แม้ว่าธนาคารแห่งชาติของยูเครน จะคาดการณ์เข้าข้างตัวเองว่า GDP ทางเศรษฐกิจจะกลับมาเท่าก่อนสงครามอีกครั้งในปี 2023
7
แต่ในข้อเท็จจริงแทบไม่มีโอกาสนั้นเพราะมี 4 ดินแดน 18% ที่เป็นแหล่งรายได้ทางเศรษฐกิจได้ทำประชามติแยกเอกราชออกจากยูเครน พร้อมพลเมืองอีก 8.8 ล้านคนตัดออก แล้วโยกทรัพย์สิน และ GDP ส่วนนี้ไปเติมให้รัสเซียตามกฎหมายไปแล้ว
ปัจจุบันคลังยูเครน ยังขาดดุลงบประมาณราว 5,000 ล้านดอลลาร์/เดือน (179,000 ล้านบาท) หรือเป็นหนี้เพิ่มรายเดือน ทำให้รัฐบาลยูเครน ยังคงขอเงินฉุกเฉินจากขาติตะวันตกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
7
นายกรัฐมนตรีเดนิส ชมีฮาล แห่งยูเครน ยอมรับว่า ผลต่างช่องว่างระหว่างรายจ่ายที่มาก และรายได้ที่ต่ำ ในปีหน้า 2023 ยูเครนจะต้องใช้เงินกู้ช่วยเหลือรายจ่ายประจำ 42,000 ล้านดอลลาร์ (1.5 ล้านล้านบาท)
โดยประธานาธิบดีเซเลนสกี ขอเงินกู้เพิ่มต่างหากอีก 17,000 ล้านดอลลาร์ (608,600 ล้านบาท) อ้างว่าจะใช้สร้างโรงไฟฟ้าและที่อยู่อาศัยที่เสียหายหรือถูกทำลายขึ้นใหม่
8
เมื่อรวมกันแล้วจำนวนเงินกู้ฉุกเฉินที่ต้องการเหล่านี้ แต่ยังไม่ได้รวมเงินกู้ค่าอาวุธ จะเท่ากับเกือบ 30% ของ GDP ปัจจุบันของยูเครน แต่ในปีหน้า GDP ยูเครนจะหดตัวลง 40% ทำให้ไม่มีรายได้เพียงพอจะชำระเงินกู้และดอกเบี้ยระยะสั้น
เดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ยูเครนขาดดุลการค้าต่างชาติเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวมากถึง 6,100 ล้านดอลลาร์ (218,400 ล้านบาท) โดยในปี 2021 ที่ผ่านมายูเครน เคยมีรายได้จากส่งออกสินค้าเกษตรมูลค่า 27,800 ล้านดอลลาร์ (995,200 ล้านบาท) คิดเป็น 41% ของการส่งออกทั้งหมดได้รับผลกระทบหนักเป็นพิเศษ
7
ปัจจุบันใน 4 ดินแดนอุดมสมบูรณ์ปลูกพืชเกษตรได้ผลเหล่านี้ ก็โอนกลายเป็นดินแดนรัสเซียไปแล้ว ส่วนดินแดนยูเครนที่เหลืออยู่ภาคตะวันตกไม่ใช่พื้นที่เกษตรเพราะไม่มีแม่น้ำไหลผ่าน
ส่วนภาคกลางและใต้ยังเป็นพื้นที่สงครามไม่สามารถเพาะปลูกได้เนื่องจากมีทุ่นระเบิดมากมายเป็นอันตราย
ท่าเรือหลายแห่งในทะเลอาซอฟ และบางส่วนในทะเลดำ หรือเหมืองแร่ โรงงานอุตสาหกรรมหนักต่างๆ ก็กลายเป็นทรัพย์สินอยู่ในดินแดนรัสเซียตามกฎหมายไปแล้ว
4
ตั้งแต่ ก.ค.เป็นต้นมา ข้อตกลงสหประชาชาติ และตุรกี กับรัสเซีย ให้ส่งออกอาหารธัญพืชของยูเครนส่งออกอาหารต่างๆ ไปแล้วกว่า 11 ล้านตัน แต่ปริมาณดังกล่าวก็ลดลงเหลือ 50% ของปีที่ผ่านมา รายได้ยูเครนส่งออกอาหารให้ยุโรปจึงหายไป 50% ด้วย
ยูเครน เคยคุยโวว่าปีหน้า 2023 วางแผนจะส่งออกขายไฟฟ้าให้กับสหภาพยุโรป ทำรายได้ 1,500 ล้านยูโร (53,700 ล้านบาท) แต่บัดนี้ความหวังนั้นจบสิ้นไปแล้วเพราะในยูเครนก็ไม่มีไฟฟ้าใช้เช่นกัน
7
และอาจต้องนำเข้าไฟฟ้าจากต่างประเทศเพื่อตอบสนองความต้องการของชาวยูเครน แต่ชาติอื่นในยุโรปใช้ไฟฟ้าราคาแพงขึ้นมาก ถ้ายูเครนจะซื้อไฟฟ้า ชาวยูเครนอาจจ่ายไม่ไหวเพราะเกินความสามารถ
อีกทั้งระบบ Grid ไฟฟ้ายูเครน เป็นรูปแบบอดีตสหภาพโซเวียติ จึงเข้ากันไม่ได้กับระบบ Grid ไฟฟ้ายุโรป ซึ่งการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ทั้งหมดอาจใช้เวลานานอีกหลายสิบปี และต้องถูกรัสเซียโจมตีทำลายทิ้งทันทีที่เริ่มเปลี่ยนอุปกรณ์
6
อาการความย่ำแย่ทางเศรษฐกิจอย่างหนักของยูเครน ต้องการเงินกู้อีกจำนวนมากอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยไร้จุดสิ้นสุด ท่ามกลางความไร้ความสามารถทางการเงินจนผิดนัดชำระหนี้เดิม และแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอยในชาติตะวันตกที่ติดหล่มสงคราม
และผลกระทบรุนแรงที่ตามมาหลังการคว่ำบาตรรัสเซีย จากราคาพลังงานผูกขาดสหรัฐฯ นอร์เวย์ กาตาร์ ที่พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้เงินเฟ้อประจำปีของยูโรโซนเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเป็น 10.7% โดยเฉพาะ 3 ชาติในทะเลบอลติกคือ ลัตเวีย ลิทัวเนีย เอสโตเนีย เงินเฟ้อสูงกว่า 20% จนประชาชนแทบดำรงชีพอยู่กันไม่ไหวแล้ว
6
ส่วนสหราชอาณาจักร นั้นอัตราเงินเฟ้อล่าสุดกู่ไม่กลับถึง 11.1% ของแพงทั้งแผ่นดิน เมื่อธนาคารกลางยุโรป และอังกฤษได้ปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยแล้ว เศรษฐกิจตะวันตกจะเข้าสู่ภาวะถดถอยไปอีกยาวนาน
การเมืองสหรัฐฯ พรรคฝ่ายค้านรีพลับริกันครองเสียงข้างมาก ส.ส. ควบคุมงบประมาณ , พลเมืองยุโรป ก่อม็อบและจราจลประท้วงราคาพลังงาน และค่าครองชีพที่สูงขึ้น เกิดการว่างงานเพิ่มขึ้น
4
โปแลนด์ เยอรมนี และฮังการี กำลังเผชิญคลื่นผู้ลี้ภัยชาวยูเครนที่มากขึ้นเรื่อยๆ ต้องมีค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูมหาศาล จนชาวยุโรปชาติต่างๆ เริ่มไม่เป็นมิตรต่อผู้ลี้ภัยยูเครนที่หลั่งไหลมาเยอะมากขึ้น
เงินกู้ค่าอาวุธจากสหรัฐฯ และยุโรป แก่ยูเครน จะไม่ถูกตัดในทันที แต่จะยากขึ้นทางการเมืองในสภาและม็อบบนท้องถนน โดยจะชลอล่าช้าเนือยลง และลดปริมาณลงเรื่อยๆ ตามเวลาที่ชาติตะวันตกติดหล่มสงครามจนอ่อนระโหยโรยแรง
8
จากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น ทาง IMF และธนาคารโลก ก็ต้องการผลตอบแทนกลับดอกเบี้ยจากเงินปล่อยกู้เช่นกัน เมื่อยูเครน หมดสภาพและพักชำระหนี้ ก็ต้องหันไปหาประเทศอื่นทั่วโลก ที่มีรายได้น้อยและปานกลาง แต่มีศักยภาพชำระหนี้ได้
ยูเครน ไม่ใช่ทั้งโลก เพราะยังมีประเทศสมาชิกสหประชาชาติ อีกมากที่มีปัญหาทางการเงินและทางเศรษฐกิจ
6
สรุป..ปัญหารัฐบาลยูเครน ยามนี้ คือ ที่หนักกว่าสงครามคือ "ภัยพิบัติทางเศรษฐกิจ" ขาดรายได้ส่งออก , ขาดดุลการค้า , ขาดเงินใช้รายจ่ายประจำรายเดือน , ขาดพลังงาน , การว่างงานสูง , ขาดสวัสดิการ , ผิดนัดชำระหนี้ นายทุนเงินกู้ตะวันตกไม่ค่อยอยากให้กู้เพิ่ม
3
ส่วนชาติตะวันตกยามนี้ก็ "ติดหล่มสงคราม" ประสบ ภัยพิบัติทางการเมือง สังคม เศรษฐกิจ ที่เสถียรภาพรัฐบาลไม่มั่นคงขัดแย้งกันสูง ฐานะการคลังถังแตก กู้หนี้กองทุนต่างประเทศ เพิ่มภาษีหารายได้
สังคมวุ่นวายเกิดการนัดหยุดงานสลับกันทุกวันชัทดาวน์ทุกระบบ เกิดม็อบจราจลปะทะเจ้าหน้าที่ อาชญากรรมสูง การว่างงาน คุณภาพชีวิตต่ำลง
เศรษฐกิจถดถอย พลังงานแพง อุตสาหกรรมปิดตัวเพิ่มขึ้น อัตราเงินเฟ้อ เงินทุนไหลออกไปเอเซีย และสหรัฐฯ GDP ลดต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลก ของแพงและขาดแคลนทั้งแผ่นดิน
11
ส่วนรัสเซีย นั้นจากข้อมูลล่าสุด มีเศรษฐกิจขยายตัวมากกว่าค่าเฉลี่ย GDP โลกจากรายได้พลังงาน สินแร่ สินค้าโภคภัณฑ์สู่เอเซีย ค่าเงินรูเบิลแข็ง
เมื่อบวก GDP จากแหล่งทรัพยากร และพลเมือง 4 ดินแดนผนวกใหม่ รัสเซียจะมีแนวโน้มขนาดเศรษฐกิจโตก้าวกระโดดขึ้นติด 1 ใน 5 ของโลกในอนาคต
ยุโรปส่งอาวุธมาให้ยูเครนต่อไป ติดหล่มสงครามเศรษฐกิจแน่นอน 🚀🤭😂
 
ที่มา : บางส่วนจาก nytimes , topwar , tfiglobalnews , Military cognizance, วิเคราะห์สถานการณ์
#WorldUpdate
8
ช่องทางติดตามบทวิเคราะห์ข่าวเชื่อมโยงกัน
😘 VK :
🤭 Twitter :
😍 Instagram :
🤗 Blockdit :
โฆษณา