ยกตัวอย่างในปี 2006 ที่คุณ Bob Iger สามารถเข้าไปหว่านล้อมให้ Steve Jobs ขายสตูดิโอคู่แข่งของ Disney อย่าง Pixar ได้
โดยว่ากันว่า จริงๆ ตัว Jobs ก็ไม่ได้มีความต้องการจะขายในตอนแรก แต่เป็นเพราะการเจรจากับ Iger ที่ทำให้ Jobs เชื่อมั่นว่า การเข้ามาร่วมกับ Disney จะทำให้สตูดิโอของเขาไปได้ดี
1
หรือในปี 2009 ซึ่ง Disney ตัดสินใจเข้าไปซื้อ Marvel Entertainment
หรือในปี 2012 ที่เข้าไปซื้อ Lucasfilm เจ้าขอเฟรนไชส์ชื่อดังอย่าง Star Wars
ซึ่งดีลทั้งหมดนี้ส่วนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จได้ มาจากฝีมือของ Iger ที่สามารถเจรจาให้ทุกคนเชื่อมั่นใน Disney ได้ และยอมเข้ามาร่วมหัวจมท้ายกัน
นอกจากนี้ Iger ยังมีส่วนสำคัญในการขยายตลาดไปสู่ดินแดนเอเชียตะวันออก ซึ่งกำลังซื้อเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการสร้าง Hong Kong Disneyland ในปี 2006 และ Shanghai Disney Resort ในปี 2016
1
หลังจากดำรงตำแหน่ง CEO มา 15 ปี และทำให้มูลค่าบริษัทเติบโตจาก 48,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐกลายเป็น 257,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คุณ Bob Iger ก็ตัดสินใจที่จะเกษียณตัวเองจากตำแหน่ง CEO
1
และส่งไม้ต่อให้กับผู้ถูกเลือกอย่าง Bob Chapek ขึ้นมารับตำแหน่งแทน
จนในที่สุดก็มีการประกาศแต่งตั้ง Bob Iger กลับมาดำรงตำแหน่ง CEO อีกครั้งหนึ่ง โดยทาง Disney ได้ระบุว่า การกลับเข้ามารับตำแหน่งครั้งนี้จะเป็นไปแบบสั้นๆ เพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น