ข่าวช็อควงการ! เหล่าสมาชิกบอร์ดบริหารของ Disney ร่วมกันโหวตให้ Bob Chapek ออกจากตำแหน่ง CEO พร้อมกับดึงตัว Bob Iger กลับมารับตำแหน่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ Iger เคนดำรงตำแหน่ง CEO ของ Disney ยาวนานถึง 15 ปี นับตั้งแต่ปี 2005 จนถึงปี 2020
โดยเมื่อคืนวานนี้ Susan Arnold ประธานคณะกรรมการของ Disney ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า
"เราขอขอบคุณ Bob Chapek สำหรับการรับใช้ Disney มาตลอดการทำงานอันยาวนาน รวมถึงการนำบริษัทผ่านความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจากโรคระบาด คณะกรรมการได้สรุปว่า ตอนนี้ Disney เริ่มดำเนินการในช่วงเวลาที่ซับซ้อนมากขึ้นของการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม Bob Iger เป็นคนที่อยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมือนใครเพื่อนำบริษัทผ่านช่วงเวลาสำคัญนี้"
แม้ว่าก่อนหน้านี้ Bob Chapek จะเพิ่งเซ็นสัญญาการดำรงตำแหน่งฉบับใหม่แบบหลายปีไปในเดือนมิถุนายน แต่หลังจากการรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุด เหล่าคณะกรรมการจึงได้ประชุมและลงมติกันว่าจะถอดเขาออกจากตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม Bob Iger นั้นได้รับรู้ถึงเรื่องนี้แล้ว และเขาก็พร้อมที่จะกลับมารับตำแหน่ง โดยเขาได้ตอบอีเมลของ Disney กลับไปว่า "ด้วยความรู้สึกขอบคุณและความอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างเหลือเชื่อ และผมต้องยอมรับว่าผมรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย"
การกลับมาของ Bob Iger ในครั้งนี้จะเป็นการกลับมาดำรงตำแหน่งเพียงชั่วคราวเท่านั้น โดยในการประกาศได้มีการระบุว่า
"[Bob Iger] ตกลงที่จะดำรงตำแหน่ง CEO ของ Disney เป็นเวลา 2 ปี โดยได้รับมอบอำนาจจากคณะกรรมการให้กำหนดทิศทางเชิงกลยุทธ์สำหรับการเติบโตครั้งใหม่ และทำงานอย่างใกล้ชิดกับคณะกรรมการในการพัฒนาผู้สืบทอดตำแหน่งเพื่อเป็นผู้นำบริษัทเมื่อครบวาระ"
ส่วนใครจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจาก Iger หลังจากครบ 2 ปีนั้น คงต้องรอติดตามกันต่อไป เพราะนี่เป็นคำถามที่จะต้องมีการถกเถียงกันของเหล่าผู้บริหารกันอย่างถึงพริกถึงขิงอย่างแน่นอน แถมยังต้องรอดูว่าในช่วง 2 ปีต่อจากนี้ Iger จะสามารถทำผลงานอะไรได้บ้าง โดยก่อนหน้านี้ Iger ออกจากตำแหน่ง CEO ของ Disney ไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2020 และได้มอบตำแหน่งให้กับ Bob Chapek ซึ่งเคยเป็นผู้นำแผนกสวนสนุกและสินค้าอุปโภคบริโภคของ Disney
2 ปีที่ผ่านมาของ Chapek เขาได้มุ่งเน้นไปที่การบริหารสตรีมมิ่งอย่าง Disney+ แต่ก็เจอกับปัญหาหลายอย่าง ทั้งเรื่องการฟ้องร้องของนักแสดงสาว Scarlett Johansson เนื่องจากบริษัทนำภาพยนตร์ Black Widow ออกฉายทาง Disney+ พร้อมโรงภาพยนตร์ ซึ่งขัดต่อสัญญาที่นักแสดงเซ็นเอาไว้ แต่สิ่งที่ดูจะเป็นประเด็นสำคัญก็คงเป็นเรื่องผลประกอบการ