" So Sally can wait สุดยอดท่อนฮุคในดวงใจของวัยรุ่นยุค 90s แล้ว Sally ที่กล่าวถึงในบทเพลงคือใครกัน ? "
- Don't Look Back in Anger ประพันธ์โดย Noel Gallagher ผู้มี John Lennon เป็นไอดอล Noel เผยว่าหลายส่วนของเพลงนี้คือการหยิบงานดนตรีของ Lennon ที่เขาประทับใจมาเป็นแรงบันดาลใจ ทั้งคอร์ดของเพลง Watching the Wheels และ Imagine เนื้อเพลงท่อนที่ว่า " I'm gonna start a revolution from my bed. " ก็มาจาก Bed-Ins for Peace อารยขัดขืน เพื่อหยุดสงคราม ของ Lennon และ Yoko Ono
เนื้อหาของ Don't Look Back in Anger นั้นตรงตามชื่อเพลง คือการยอมรับความผิดพลาดของชีวิต ให้อภัยและวางใจที่จะก้าวไปข้างหน้า แทนที่จะจมปลักอยู่กับความโกรธเกลียดในอดีตที่ผ่านมาแล้ว
- Noel Gallagher ใส่ความทรงจำวัยเด็กในท่อน " Stand up beside the fireplace, Take that look from off your face, You ain't ever gonna burn my heart out. " ที่แม่ของเขาเคยชอบบังคับให้พี่น้องและเพื่อนๆสมัยเด็กของเขายืนเรียงกันหน้าเตาผิงในห้องรับแขกเพื่อถ่ายรูป เขามักจะทำหน้าเหม็นเบื่อ จนแม่ต้องพูดเสมอว่า Noel หยุดทำหน้าเป็นตูดแบบนั้น แล้วยิ้มเดี๋ยวนี้
- Liam Gallagher น้องชายของ Noel และนักร้องนำของ Oasis คือผู้นำพา Sally มาสู่ Don't Look Back in Anger ในระหว่างการ Sound Check ก่อนการแสดงที่ Sheffield Arena ในปี 1995 ขณะที่ Noel กำลังงึมงำเพลงนี้อยู่ในหัว Liam ถามพี่ชายด้วยเหตุที่ฟังไม่ถนัดว่า " ร้องอะไรอยู่อ่ะ " " เมื่อกี๊ร้องว่า .. So Sally can wait.. เหรอ " Noel กลับไปที่ห้องแต่งตัวและกลับออกมาพร้อมกับ Don't Look Back in Anger
- Noel Gallagher ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า เขาเองก็ไม่รู้ว่า Sally เป็นใคร แต่ชื่อของเธอทำให้บทเพลงนี้ลงตัว Don't Look Back in Anger ถูกรวมอยู่ในอัลบั้ม (What's the Story) Morning Glory? (1995) และเพลงถูกวางจำหน่ายในปี 1996 กลายเป็นบทเพลงที่เป็น Signature ของ Oasis ที่นักฟังเพลงทั่วโลกจดจำมากที่สุด