Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เบื่อเมือง
•
ติดตาม
22 พ.ย. 2022 เวลา 11:33 • ไลฟ์สไตล์
๏ ปริเฉทที่ ๒
ดุสิตปริวรรต
พระโพธิสัตว์รับเชิญจุติ
**********
[พุทธประวัติ ฉบับเรียบเรียง]
ในกาลนั้นเทวดาแม้ทั้งปวง
พร้อมกับท้าวจาตุมมหาราช ท้าวสักกะ
ท้าวสุยาม ท้าวสันดุสิต ท้าวนิมมานรดี
ท้าวปรนิมมิตวสวัตดี และท้าวมหาพรหม
ในแต่ละจักรวาลมาประชุมพร้อมกันในจักรวาลหนึ่ง
แล้วพากันไปยังสำนักของพระโพธิสัตว์
ในภพดุสิตต่างอ้อนวอนว่า
"ข้าแต่ท่านผู้นิรทุกข์ ท่านเมื่อบำเพ็ญบารมีสิบ
ก็มิได้ปรารถนาสมบัติของท้าวสักกะ
สมบัติของมาร สมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ
สมบัติของพรหมบำเพ็ญ
แต่ท่านปรารถนาพระสัพพัญญุตญาณบำเพ็ญแล้ว
เพื่อต้องการจะขนสัตว์ออกจากโลก
ข้าแต่ท่านผู้นิรทุกข์ บัดนี้ถึงเวลา
ที่ท่านจะเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว
ถึงสมัยที่ท่านจะเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว"
ลำดับนั้น พระมหาสัตว์ยังไม่ให้ปฏิญาณ
แก่เทวดาทั้งหลาย
จะตรวจดู "มหาวิโลกนะ"
คือ ที่จะต้องเลือกใหญ่ ๕ ประการ
คือ กาล ทวีป ประเทศ ตระกูล
และการกำหนดอายุของมารดา.
**********
ใน ๕ ประการนั้น
๑) พระโพธิสัตว์จะตรวจดู "กาล" ก่อนว่า
เป็นกาลสมควรหรือไม่สมควร.
- ถ้ากาลแห่งอายุ ที่มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ ปี
จัดว่า เป็นกาลไม่สมควร.
เพราะในกาลนั้น ชาติ ชรา
และมรณะ ไม่ปรากฏชัด แก่สัตว์ทั้งหลาย
(เพราะอายุยืนมาก)
เมื่อพระพุทธองค์ ตรัสสอนธรรมว่า
"อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา"
พวกเขาก็จะคิดว่า พระองค์ตรัสข้อนั้นทำไม
แล้วจะไม่เห็นเป็นสำคัญ ว่าควรจะฟังควรจะเชื่อ
ต่อนั้นก็จะ... ไม่มีการบรรลุธรรม
จึงเป็นกาลที่ยังไม่ควร.
- ถ้ากาลแห่งอายุ น้อยกว่า ๑๐๐ ปี
ก็จัดเป็นกาลที่ยังไม่ควร.
เพราะในกาลนั้น สัตว์ทั้งหลายมีกิเลสหนา
ผู้มีกิเลสหนา จะไม่ตั้งอยู่ในคำสอนนั้น
คำสอนก็จะพลันหายไปเร็วพลัน
เหมือนรอยไม้เท้าในน้ำฉะนั้น
- เมื่ออายุอยู่ในระหว่าง ๑๐๐ ปี จนถึง ๑๐๐,๐๐๐ ปี
จัดเป็นกาลอันควร ที่จะลงมาอุบัติ
๒) ต่อจากนั้นจะตรวจดู "ทวีป" ก็ตรวจดูทวีปใหญ่ ๔ ทวีป
ในทวีปทั้งสาม พระพุทธเจ้าทั้งหลายย่อมไม่เสด็จอุบัติขึ้น
เสด็จอุบัติขึ้นใน "ชมพูทวีป" เท่านั้น.
ในชมพูทวีปนั้น พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า
พระอัครสาวก พระเจ้าจักรพรรดิ
และกษัตริย์พราหมณ์คฤหบดีมหาศาล
ผู้มีศักดาใหญ่เหล่าอื่นย่อมเกิดขึ้น
และนครชื่อว่า "กบิลพัสดุ์" นี้ก็ตั้งอยู่ใน มัชฌิมประเทศนี้
พระโพธิสัตว์จึงตัดสินใจไปเกิดในนครนั้น.
๓) ต่อจากนั้นพระโพธิสัตว์จะเลือก "ตระกูล"
จึงเห็นตระกูลว่า มารดาพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
ย่อมไม่เสด็จอุบัติในตระกูลแพศย์ หรือในตระกูลศูทร
แต่จะเสด็จอุบัติในตระกูล "กษัตริย์"
หรือในตระกูล "พราหมณ์" ที่โลกยกย่อง
สองตระกูลนี้เท่านั้น
พระโพธิสัตว์ จึงตัดสินใจ ไปเกิดในตระกูลกษัตริย์
พระเจ้าสุทโธทนมหาราช จักเป็นพระราชบิดาของเราดังนี้
๔) เมื่อจะเลือก "มารดา"
ธรรมดาพระพุทธมารดา ย่อมไม่โลเลในบุรุษ
ไม่เป็นนักเลงสุรา
แต่จะเป็นผู้บำเพ็ญบารมีมาตลอดแสนกัป
จำเดิมแต่เกิดจะมีศีล ๕ ไม่ขาดเลย
และพระเทวีทรงพระนามว่า มหามายา ทรงเป็นเช่นนี้
พระนางจะทรงเป็น พระราชมารดาของเรา ดังนี้
๕) เมื่อตรวจดูว่า ก็พระนางจะทรงมีพระชนมายุเท่าไร
ก็เห็นว่า มีอายุเกินกว่า ๑๐ เดือนไป ๗ วัน.
**********
พระโพธิสัตว์ตรวจดู มหาวิโลกนะ ๕ ประการ นี้แล้ว
จึงให้ปฏิญญาแล้ว ส่งเทวดาเหล่านั้นกลับไป
จากนั้นเสด็จไปสู่ สวนนันทวัน ในดุสิตบุรี.
จุติ แล้วถือเอาปฏิสนธิ ในพระครรภ์
ของพระนางสิริมหามายาเทวี
บันทึก
2
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
พุทธประวัติ
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย