23 พ.ย. 2022 เวลา 07:35 • ข่าว
31 ปีแล้ว ที่ไม่มีการพูดถึง หลังชาวบ้านสุพรรณฯ ผวา น้ำมันดิบทะลักแท่นขุดเจาะ หลากท่วมทุ่ง หวั่นอันตราย ซ้ำร้ายทำให้สัตว์เลี้ยงและประชาชนในพื้นที่เดือดร้อนอย่างมาก
4
ภายหลังจากที่มีการเปิดกระทู้สดของณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ สส.พรรคชาติไทยพัฒนา จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อวัน 9 พฤศจิกายน 2565 ในการประชุมสภาที่ผ่านมา เกี่ยวกับกรณี พรก การผ่อนผัน ชำระหนี้กองทุนน้ำมันของกระทรวงพลังงาน และได้มีการหยิบยกประเด็นเกี่ยวกับเรื่องพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีเป็นแหล่งขุดเจาะน้้ามันบนบกในบริเวณแหล่งอู่ทอง สังฆจาย บึงกระเทียม และหนองผักชี ซึ่งอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองสุพรรณบุรีและอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี
โดยได้มีการให้สัมปทานแก่บริษัทเอกชนเข้าขุดเจาะน้้ามันในบริเวณดังกล่าวอันเป็นแหล่งผลิตปิโตรเลียม ที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้แก่ภาครัฐเป็นจำนวนมากนั้น
ซึ่งเรื่องนี้ได้ส่งผลกระทบสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนสุพรรณบุรี เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะทางด้านเกษตรกรรม หรือ ปศุสัตว์ที่ชาวบ้านได้เลี้ยงไว้ก็ตาม สำหรับเรื่องนี้ได้แจ้งถึงความเดือดร้อนไปตั้งแต่ วันที่ 26 กรกฎาคม 2562 ดังนั้นเรื่องนี้ ได้ชี้แจ้งไปตั้งให้รัฐบาลรับทราบตั้งนานแล้ว แต่ไม่ได้มีการชี้แจ้งกลับมา ซึ่ง ณ.ปัจจุบันนี้ชาวบ้านสุพรรณบุรีได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างอย่างมาก
โดยล่าสุดวันที่ 17 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ต.หัวโพธิ์ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ว่าบริเวณในหมู่บ้านเกิดมีคราบน้ำมันดิบสีดำ ไหลออกมาจากแท่นขุดเจาะน้ำมัน ของบริษัทแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ที่หมู่ 1 บ้านท่าไชย ต.หัวโพธิ์ อ.สองพี่น้อง โดยพบคราบน้ำมันลอยกระจัดกระจายอยู่เหนือผิวน้ำไปทั่ว พอมีลมพัดแรง คราบน้ำมันก็ไหลมาอยู่บริเวณริมถนนจำนวนมาก ชาวบ้านหวั่นเกิดอันตราย
กระทบหลายด้าน จึงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ หลังจากเดินทางลงไปตรวจสอบ พบกลางทุ่งนาเป็นสถานที่ตั้งแท่นขุดเจาะของบริษัทขุดเจาะน้ำมัน และพบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นทุ่งนาที่มีพื้นที่ติดกันกว่า 2 พันไร่ โดยขณะนี้มีปริมาณน้ำท่วมสูงกว่า 60 ซม. และที่ริมสองข้างทางมีคราบน้ำมันสีดำลอยมาติดที่ริมทางเป็นทางยาวกว่า 1 กม. นอกจากนี้ที่บริเวณแท่นขุดเจาะก็ถูกน้ำท่วมจนไม่สามารถดำเนินการขุดเจาะได้แล้ว ซึ่งได้มีการระดมพนักงานมาบรรจุกระสอบทรายเพื่อทำคันกั้นน้ำด้วย
ส่วนชาวบ้านในพื้นที่ นายเชื้อน ใจเก่งดี อายุ 71 ปี เจ้าของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เปิดเผยว่า คราบน้ำมันสีดำที่เห็นนี้มีมา 3-4 วันแล้ว รวมถึงมีกลิ่นน้ำมันโชยมาอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาทางบ่อน้ำมันก็ได้นำเรือมาวิ่งวน พร้อมกับนำฟองน้ำมาซับคราบน้ำมันออก แต่พอสัก 4-5 ชม.ก็มีคราบลอยมาอีก ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบได้รวมตัวกันไปร้องกับผู้นำชุมชนก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขและแนวทางการดำเนินการต่อไป
ซึ่งทางบริษัทเองก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาทำความเข้าใจกับชาวบ้าน แต่ก็ยังไม่ได้รับความชัดเจน ซึ่งทางชาวบ้านเองก็หวั่นผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ทั้งทางด้าน การเกษตร การเลี้ยงสัตว์ ต่างก็ได้รับผลกระทบเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
โดยชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ประกอบด้วย หมู่ 1, 2, 4, 6 และ 11 มีพื้นที่กว่าพันไร่ ซึ่งขณะนี้ทุกคนเกรงว่าจะได้รับผลกระทบต่อไปเรื่อยๆถ้ายังไม่มีการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ เพราะทั้งคราบน้ำที่กระจายไปทั่ว รวมถึงเกรงว่าจะมีสารเคมีหรือสารอันตรายบางอย่างภายในบริเวณแท่นขุดเจาะน้ำมัน จะกระจายลงมาในทุ่ง ทำให้ไม่สามารถทำการเกษตร ทำนา ทำไร่ได้ในหน้าฤดูกาลทำนาถัดไป จึงอยากจะวิงวอนให้ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น จึงอยากให้ลงมาช่วยดูช่วยแก้ปัญหาโดยเร่งด่วน
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้ประชาชนสุพรรณมานาน และยังไม่ได้รับความช่วยเหลือหรือแก้ไขจากทางรัฐบาล ที่ควรต้องให้กระทรวงพลังงาน ลงมารับผิดชอบ หรือ ชี้เจ้งเรื่องที่เกิดขึ้น
เพราะผ่านมา 28 ปีแล้ว ที่ได้แจ้งเรื่องนี้ไป ตั้งแต่ปี 2532 ถึง 2562 จนปัจจุบัน 2565 ถ้านับตอนนี้ก็ 31 ปีแล้ว ที่ไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้เลย ดังนั้นจึงอยากจะขอสอบถามว่า การขุดเจาะน้ำมันที่สุพรรณบุรี ได้ประโชน์อะไรให้กับคนสุพรรณบุรีบ้าง หรือจะยิ่งทำให้ประชาชนเดือดร้อนเสียหายมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ ดังนั้นกระทรวงพลังงานควรมาชี้แจ้งเรื่องนี้ด้วย
โฆษณา