2J เที่ยวสวิสตอนที่ 4
9 ตุลาคม 2565
วันที่ 3 ของการเดินทาง
เสียงนาฬิกาปลุกดัง เราตัดสินใจลงไปหา Matterhorn ก่อนทานอาหารเช้า อากาศเย็นกว่าที่ Interlaken เพราะน่าจะอยู่บนเขา การเดินหาจุดถ่ายรูปก็ไม่ยากเลย ตรงไหนมีนักท่องเที่ยวเยอะๆ จุดนั่นแหละใช่เลย ขาตั้งกล้องที่แบกเตรียมมาได้ใช้งานแล้ว รอจนได้จุดที่เหมาะสมกับการถ่ายภาพ ทั้งมือถือและกล้อง ก็ถูกนำมาใช้สลับกันไป
ขอบคุณ Matterhorn คุณเหมือนมีดวงตา มองลงมาเห็นนักเดินทางผู้รอคอยความหวังที่จะขอมีโอกาสได้เห็นสักครั้งกับการตัดสินใจพักที่ Zermatt เพียงคืนเดียว คุณเด่นสง่าสมการรอคอย ธรรมชาติยิ่งใหญ่เสมอ มนุษย์เป็นแค่สิ่งเล็กๆที่รอชมความยิ่งใหญ่นั้น เราเรียกว่า โอกาสและประสบการณ์ เพราะเมื่อเราได้พบและเจอ เราทำได้แค่เก็บภาพถ่ายและความทรงจำกลับมาได้เท่านั้นเอง
ความสวยงามที่เราได้เจออาจไม่สวยเท่าภาพของท่านอื่นๆ ที่เราเคยเห็นและเก็บเป็นเป้าหมายของการเดินทางไว้ แต่เราก็ประทับใจกับภาพภูเขาที่สวยเหมือนภาพวาด และถึงแม้องค์ประกอบจะมีเสาเด่นอยู่ด้วยก็ตาม เพราะ ณ สถานที่เดียวกันไปกันต่างโอกาสและเวลา ภาพที่ได้อาจเหมือนหรือแตกต่างกันได้เสมอ เราได้มีโอกาสเก็บความงดงามในแบบของเราแค่นี้ก็ดีใจแล้ว
เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปหลากหลายมุมมอง ลองถ่ายทั้งโหมด SLO-MO / TIME-LAPSE และ PORTRAIT สลับไปมาระหว่างกล้องกับมือถือ ชาวสวิสฯ ถึงกับยิ้มที่ได้เห็นแอคติ้งที่เราคิดกัน เวลาก็ล่วงเลยไปเรื่อยๆ ท้องเริ่มหิวมากขึ้นเราจึงตัดสินใจกลับที่พักเพื่อเก็บกระเป๋าและทานอาหารเช้า วันนี้คงต้องเปลี่ยนแผนให้เหมาะสมกับเวลาที่คิดว่าพอจะไปได้ก่อนจะกลับ Interlaken West เพราะเราใช้เวลาช่วงเช้านานกว่าแผนที่เตรียมมา
Bern หรือ Montreux Vevey Lausanne เราตัดสินใจเลือก 3 เมืองหลัง เราจะไปหาส้อมยักษ์ในทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) ปราสาทชิลยอง (Chilion Castle) และศาลาไทยเฉลิมพระเกียรติ (Le Denantou) แต่จะไปได้มากแค่ไหนดูสถานการณ์อีกทีแล้วกัน
สถานการณ์มักเปลี่ยนแปลงได้เสมอเพราะเราเพลิดเพลินเกินไปนิดกับการเดินถอยหลังถ่ายรูป พื้นฟุตบาทกับถนนที่ต่างระดับก็ทำให้เราบาดเจ็บจนได้ เสียงนักท่องเที่ยวนั่งทานกาแฟถามถึงท่าคุกเข่า “โอเคนะ เป็นอะไรไหม?” เรารีบตอบด้วยความอาย “โอเค ไม่เป็นไร” แต่เอาแล้วไงข้อเท้ามาแพงอะไรตอนนี้?
ผ้าพันขาและสเปรย์ยูนิเรนที่เตรียมมาแก้เคล็ดกลายเป็นสิ่งจำเป็นขึ้นมาทันที ใจดีสู้เสือ ท่องไว้ “เท้าเราต้องไม่เป็นอะไรมาก ยังเหลืออีก 7 วันนะ มาด้วยกันไปด้วยกันเลือดสุพรรณเอ๋ย” สิ่งที่ต้องขอบคุณกับเเหตุการณ์ คือ ข้อเท้าที่ยังเดินต่อไปได้ถึงแม้เวลาลงน้ำหนักจะมีเจ็บแปลบๆอยู่บ้าง ขอบคุณเพื่อนที่เตรียมผ้าพันขาและสเปรย์มาพร้อมไม่ลืมทิ้งไว้กับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่ Interlaken
แผนถูกเปลี่ยนแปลงจนเหลือแค่ส้อมยักษ์ สถานที่เดียวที่เราไปถึง อีก 2 ที่เก็บไว้คราวหน้าพร้อมกับการไปถ่ายรูปซ่อมที่ Matterhorn แล้วกัน และถ้าเป็นไปได้เราจะเพิ่ม Geneva ในคราวหน้าด้วย เราแวะทานกลางวันที่ร้านอาหารญี่ปุ่นบริเวณสถานีรถไฟ Montreux เพื่อจะได้เข้าห้องน้ำและนั่งรถไฟผ่านปราสาทชิลยองกลับ Interlaken เพื่อพักข้อเท้าไว้ใช้งานในอีก 7 วันข้างหน้า
สิ่งที่เราเห็นได้ชัดเจนเมื่อแกะผ้าพันขาออก ข้อเท้าบวม เราหลับไปพร้อมกับความหวังว่าครีมนวดตราเสือที่พกมาคงช่วยให้ดีขึ้นทันวันพรุ่งนี้ที่มีแผนจะไป Grindelwald first นะ
เคล็ดลับที่เรานำเสนอเพิ่มเติม คือ อย่าถ่ายรูปจนลืมดูพื้นต่างระดับเพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอถ้าคุณไม่ระวัง และการเปลี่ยนแผนการเดินทางเป็นเรื่องปกติที่จะถูกปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์จึงไม่ควรลังเลใจในการปรับแผน
สวยในแบบของเรา
อีกมุมที่สวยในแบบของเรา
มุมหนีเสา
อีกมุมแล้วกัน
มุมนี้ก็โอเค
อีกมุมแบบเขาชัดๆ
อีกภาพที่เหมือนภาพแรกแต่ลองดูดีๆ มีสิ่งที่ไม่เหมือน
วิวทางเดินไปจุดชมวิว
อีกมุมของโบสถ์
ฝั่งตรงข้ามก็สวย
อาหารเช้ากับความหลากหลายของชีส
ชอบจานนี้
ส้อมยักษ์
อีกภาพของส้อม
วิวทะเลสาบเจนีวา
ตรงข้ามส้อมยักษ์
Vevey
ทางเดินไปส้อมยักษ์
ป้ายรถเมล์
อาหารญี่ปุ่นที่สวิสฯ
ตู้หยอดเหรียญตามสถานีรถไฟ
เห็นไกลๆ จากรถไฟก็ยังดีใจ
ภาพถ่ายเกือบทัน
เหลืองๆ คือเงาเสื้อเราเอง
สถานีรถไฟ Interlaken West ยามเย็น ที่เห็น Jungfrau ด้วย
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
