23 พ.ย. 2022 เวลา 20:48 • เพลง & ซีรีส์ เกาหลี
#ติ่งอะไรในเคป็อป
รีวิวเคป็อปอัลบั้ม (2022)
18. Roy Kim ‒ ,and
Released : 2022/10/25
Genres : ballad, acoustic-pop
Produced by 로이킴 (Roy Kim)
(로이킴 (Roy Kim), 정지찬, 강화성)
“ให้เวลาเยียวยาตัวเอง”
• คนมักจะมองว่านักร้องสายบัลลาดเป็นอะไรที่ประสบความสำเร็จง่ายอยู่แล้วโดยเฉพาะยิ่งเป็นศิลปินเดี่ยวด้วย มันก็เป็นความจริงส่วนหนึ่งเพราะถ้าวัดจากฐานคนฟังในประเทศเกาหลีแล้วบัลลาดแทบเป็น 1 ใน 3 ส่วนยุคปัจจุบันที่อยู่บนชาร์ตเพลงรองมาจากเหล่าสายไอดอลและฮิปฮอป
แต่กับคิมซังอู a.k.a Roy Kim พ่อหนุ่มที่ตามล่าหาความฝันจนได้เป็นผู้ชนะในรายการ Superstar K4 สู่การเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงแถวหน้าระดับประเทศรายล้อมไปด้วยเพลงฮิตมากมายที่หากินได้ทั้งชาติแต่เหมือนทุกสิ่งอย่างที่เคยประสบความสำเร็จกลับพังทลายลงด้วยสื่อข่าวจากวงการบันเทิงทำให้เขาเกือบจะหมดอนาคตกับการเป็นนักร้องที่อยู่มานานถึง 10 ปี
• ย้อนไปเมื่อสามปีที่แล้วในคดีเด็ดคดีดังสะเทือนวงการบันเทิง รอยคิม คือหนึ่งในโจกษ์ผู้ต้องหาการร่วมแชทเพื่อนสนิทในวงการ จองจุนยอง ในทิศทางร้ายแรงแต่ในภายหลังทุกอย่างกลับพลิกผันเพราะผู้สื่อข่าวคนนั้นได้ออกมาอธิบายข้อเท็จจริงถึงรอยคิมว่าจริงๆแล้วเจ้าตัวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวกับข้องในห้องแชทของเพื่อนสนิทแม้แต่นิดเดียว ผลลัพธ์ที่ออกมากลายเป็นรอยคิมโดนด่าด้วยถ้วยคำที่บั่นทอนจิตใจตัวเองไปฟรีๆ
ผลของการจะจับเหยื่อจากสำนักข่าวสื่อบันเทิงเป็นเหมือนดั่งข้อผิดพลาดที่ทำลายชีวิตบุคคลบริสุทธิ์เพื่อต้องการเอนเกจเม้นท์จนไม่ลืมหูลืมตาในการคัดกรองข่าว แต่ถึงอย่างนั้นหลังจากเจอมรสุมยักษ์ใหญ่ก็ไม่ใช่หายไปเพื่อหนีปัญหาที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนก่อมันขึ้นมา เนื่องจากว่าเจ้าตัวถึงเวลาที่ต้องรับใช้ชาติพอดีเป็นเวลาเหมาะเจาะเลยทำให้ไม่เห็นหน่าคร่าตาร่วมกันสองปี
• แต่ในช่วงเวลาที่ผ่านมามันก็เหมือนเป็นการพักฟื้นตัวเองไปในตัวด้วยเหมือนกัน ตัวรอยคิมเองก็ได้ตกตะกอนความคิดเรื่องราวหลายๆอย่างเกี่ยวกับการมีชีวิตบนโลกใบนี้ว่าตัวเขานั้นโตพอที่จะเข้าใจตัวเองแล้วจริงๆหรือเปล่า? ทำไมสิ่งที่เขาทำมาตลอดมันไม่เคยใจดีกับเขาเลยสักครั้งเดียว “,and” จึงเป็นอัลบั้มที่รวบรวมความคิดของตัวเองจากช่วงเวลาเหล่านั้นที่เหมือนเป็นการแก้ปัญหาพร้อมเปิดเผยสภาวะจิตใจข้างในที่บอบช้ำอันแสนเปราะบางในเวลาเดียวกัน
• 괜찮을거야 / It’ll be alright ซิงเกิ้ลโปรโมทหลักซาวนด์กรุ่นไปด้วยอะคลูสติกแม้จะเจอเรื่องราวสาหัสใหญ่หลวงในชีวิตแต่ต้องบอกคอยตัวเองว่า ‘ไม่เป็นไร’ เป็นเจตนารมณ์ของรอยคิมที่อยากบอกกับคนฟังอย่างชัดเจนที่เห็นว่าตอนนี้เขาสบายดีแล้วแต่ในความเป็นจริงข้างในเจ็บช้ำจนไม่รู้จะเจ็บยังไงอีกแล้ว ช่วงไทม์มิ่งเพลงแต่ละเวิร์สจัดอารมณ์ออกมาได้สมกับเป็นรอยคิมโดยแท้จริง ผนวกกับมิวสิควิดีโอแล้วสามารถซื้อความกินใจตั้งแต่ฟังครั้งแรกเริ่มเลย
• 그때로 돌아가 / Take me back in time อยากย้อนเวลากลับไปในตอนที่ตัวเองมีความสุขมากที่สุดในชีวิตจนไม่รู้จักคำว่าความเจ็บปวด ชอบวิธีการเปิดแบบอะคลูสติกแช่มช้าแล้วค่อยไต่ระดับพาร์ทไปถึงงานเครื่องสายนะ emotional ได้ถึงการที่ต้องสูญเสียความสุขของตัวเองไปแล้วแต่ก็แอบสะดุ้งเฮือกตรงที่จู่ๆพี่แกก็โยนฮุคดังปั้งระเบิดอารมณ์ออกมาทันที เกือบจะขัดมู้ดไปแบบงงๆ แต่ช่วงปาอารมณ์ใส่คนฟังมันก็มีท่อนสุดท้ายที่เข้าซีนของพาร์ทได้ดีอยู่เหมือนกัน
• 시간을 믿어봐 / Trust in time แม้จะคิดได้อีกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันก็ไม่ควรจะมีเริ่มต้น(การเริ่มทำผิดพลาด)ด้วยซ้ำไปแต่ก็ยังคงมีความเชื่อมั่นที่ว่า ‘เวลาสามารถเยียวเราได้’ มู้ดอารมณ์มาด้วยความนิ่งเงียบตามสเต็ปแต่กลับมีกลิ่นอายวิธีการร้องแบบรุ่นใหญ่ตั้งแต่เริ่มอินโทร กลายๆจำลองว่าตัวเองอยู่ช่วงวัยที่แก่ไปแล้ว, 그냥 그때 / I should have แทร็คกลางที่ตัดอารมณ์มากสุดของอัลบั้มใส่มาให้เข้ากับโทนบัลลาดเอาฟีลแต่ดันไม่ค่อยฟีลเท่าไหร่
• 그대에게 닿을 때까지 / The black between the star เปรียบตัวเองเป็นหลุมดำท่ามกลางดวงดาวหลายล้านดวงบนจักรวาลที่พยายามขอร้องอ้อนวอนให้ทุกคนกลับมารักเขาเหมือนดั่งที่เคยมีมา เคาะด้วยอะคลูสติดจังหวะเร็วๆพร้อมกับการโหมโรงซาวนด์ใหญ่พอเหมาะเจาะให้ดูมีความเป็นฟีลกู้ดราวกับการได้ออกไปผจญภัยในเส้นทางข้างหน้า เป็นเครื่องพิสูทธิ์ในการกลับมาของผู้ชายคนนี้แล้วว่าเขาพร้อมจะเป็นนักร้องที่ดีด้วยแรงซัพพอร์ตของแฟนคลับที่ยังคงให้การต้อนรับและเชื่อมั่นในตัวของเขามาเสมอ
• 들어봐 / Hear me out ไม่ลืมที่จะบอกว่าแฟนๆว่าคุณคือคนที่ทำให้ตัวเองยังมีลมหายใจอยู่ต่อไปอีกครั้ง, 오늘 밤만큼은 / Well, tonight อยากระบายอะไรออกมาเล่าสู่กันฟังได้เลย ฉันเป็นผู้ฟังที่ดีกับคุณในยามค่ำคืนแห่งนี้เอง เป็นเพลงที่พอจะเหมาะเหม็ง drive a car ช่วงเวลาเหงาๆยามเที่ยงคืน
• 어른으로 / Bedtime Prayers รอยคิมได้เรียนรู้ชีวิตตอนโตเป็นผู้ใหญ่หลังจากประสบกับสภาวะความเศร้าและความเจ็บปวดแต่ด้วยคำพูดที่ผุดขึ้นมาในหัวของครอบครัวซึ่งเป็นสถาบันพักพิงใจของตัวเองในตอนที่ยังเป็นเด็กได้ย้อนกลับมาให้ตัวเขาได้ทบทวนชีวิตบนโลกอีกหนึ่งครั้งว่าต่อให้จะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จมากแค่ไหนแต่ถ้าวันหนึ่งได้ตัดสินใจผิดพลาดแค่ครั้งเดียวทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงโดยที่ไม่สามารถแก้อะไรได้อีกแล้ว
การเลือกเดินแทร็คด้วยงานอะคลูสติกคลอเบาๆแทรกด้วยการบิดออโต้จูนในท่อนฮุคที่ดูเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยตั้งแต่แรกฟัง ก็เป็นการสะท้อนให้คิดถึงความรู้สึกแสนเจ็บปวดกับสิ่งที่เขาต้องเผชิญในช่วงเวลาที่ผ่านมาแต่ในเวลาเดียวกันก็ได้สวดมนต์ภาวนาต่อพระผู้เป็นเจ้าให้ตัวเองและคนรอบข้างได้พบเจอแต่กับเรื่องที่ดี ชื่อเพลงภาษาอังกฤษที่แปลว่า ‘บทสวดก่อนนอน’ มันเลยเข้ากับบริบทได้ดีเลยทีเดียว
ปิดจบไปกับความอบอุ่นสไตล์ acoustic-fall อย่าง 결국엔 / At Last ด้วยการให้คำมั่นสัญญาจับมืออยู่ไปด้วยกันกับคนรอบข้างที่ดีไม่ทิ้งจากกันไปไหนแล้วพร้อมเริ่มต้นใช้ชีวิตให้มีคุณค่าเพื่อวันพรุ่งนี้ที่ยังมีคนเหล่านั้นคอยเป็นกำลังใจสำคัญทั้งชีวิตของตัวเอง
• การตรัสรู้วิถีชีวิตบนโลกที่มากขึ้นผ่านสายตาของรอยคิมเหมือนทำให้เจ้าตัวเริ่มเปิดมุมมองความคิดของตัวเองที่เมื่อก่อนมักเป็นคนที่ใช้ความคิดยึดติดกับตัวเองเพียงแค่ด้านเดียวมาเสมอ พอถึงช่วจุดเปลี่ยนผันมาถึงโดยที่ไม่ได้ตั้งรับว่าจะต้องจัดการกับความรู้สึกหรือสิ่งเหล่านั้นยังไงดี การปล่อยให้เวลามันเยียวยาและเป็นเครื่องพิสูทธิ์ตัวเองต่อไปเรื่อยๆมันก็พอทำให้เขาคิดได้ว่าชีวิตหนึ่งชีวิตบางทีมันไม่ได้มีอะไรที่แน่นอนจริงๆ
การแต่งเพลงเพื่อทำมาปลอบโยนแด่คนฟังมันดูจะเป็นข้ออ้างที่ออกแนวไม่เมคเซ้นส์มากนักด้วยสไตล์การร้องในคราวนี้ตัวรอยคิมยังคงยึดติดกับอดีตที่ไม่สามารถเอาตัวเองออกไปจากจุดตรงนั้นได้โดยสมบูรณ์
ในทั้งหมด 9 แทร็คมันยังเลยได้เห็นถึงความอึดอัดข้างในที่เขายังไม่สามารถเป็นผู้ปลอบโยนที่ดีได้แต่มันก็เป็นสิ่งที่ตัวรอยคิมดันรู้ดีมาตั้งแต่เริ่มทำอัลบั้มนี้อยู่ว่าตอนนี้เขาไม่สามารถอยู่ในสถานะที่จะมานั่งปลอบโยนใครต่อใครได้เหมือนแต่ก่อนได้หรอก การปล่อยให้ทุกอย่างมันไหลตามฟีลลิ่งของตัวเองโดยที่ยังโดนอีกหนึ่งด้านความรู้สึกกดทับเอาไว้ทำให้ไม่สามารถรับรู้ในบางแทร็คได้ว่าเขาคนนี้ปลอบโยนคนฟังจริงหรือเพื่อเอามือตบบ่าตัวเองไปวันๆ
• แต่ด้วยจุดประสงค์หลักมันดันเป็นอย่างหลังนี่แหละมันเลยเป็นคำตอบของอัลบั้มนี้ที่ดันมีความเมคเซ้นส์กับตัวรอยคิมขึ้นมาได้มากที่สุด แม้ว่าเขาพยายามยื้อคนรอบข้างให้เข้าใจความรู้สึกของตัวเองได้มากน้อยแค่ไหนในท้ายที่สุดสิ่งที่มันเกิดขึ้นเขาก็ต้องเรียนรู้มันด้วยตัวเองอยู่ดี
ย้อนคำพูดอีกหนึ่งครั้งที่ว่าด้วยเรื่องของ ‘เวลาจะช่วยเยียวทุกสิ่ง’ ในบางทีมันก็อาจจะได้ผลกับใครหลายๆคนแล้วก็จริงแต่สำหรับรอยคิมในบางครั้งมันก็ไม่ใช่ซะเสมอไปตราบใดที่ยังดึงตัวเองหลุดออกจากสภาวะตรงนั้นออกไปไม่ได้แม้ว่าตอนนี้ตัวเขาเองจะยิ้มรับให้กับการใช้ชีวิตเพื่อให้เวลาทุกอย่างมันเดินหน้าต่อไปด้วยความสุขที่ยังหลงเหลืออยู่ในตอนนี้แต่มันก็ไม่ต่างอะไรกับการฝืนตัวเองอยู่ดี ในบางครั้งเวลามันก็ไม่เยียวยาได้ทุกสิ่งหรอก
“สักวันหนึ่งเดี่ยวมันจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเราเสียเองนะ พี่ชาย”
Score: 6/10
Top Tracks: It’ll be alright, Take me back in time, Bedtime Prayers, Trust in time
thank u for reading 🙏
ถ้ามีคำหรือประโยคไหนที่ใส่มาเพื่อความอรรถรสแล้วไม่ถูกใจผู้อ่านทุกท่านขออภัย ณ ที่นี้ด้วย
-
โฆษณา