24 พ.ย. 2022 เวลา 09:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ
BANPU กำลังปลดล็อกสร้างมูลค่าเพิ่มครั้งใหม่ ด้วยการดันธุรกิจก๊าซธรรมชาติเข้าตลาดหุ้น
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU กำลังมีข่าวดีที่เข้ามาสนับสนุนธุรกิจต่อยอดการเติบโตข้างหน้าในอนาคต ด้วยการประกาศข่าวใหญ่ครั้งสำคัญว่า BKV Corporation (BKV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์
รวมถึงร่างหนังสือชี้ชวนต่อ U.S. Securities and Exchange Commission เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเตรียมตัวที่จะเข้าจดทะเบียนใน New York Stock Exchangeปัจจัยนี้จะเป็นตัวกระตุ้น และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ BANPU อย่างไร Wealthy Thai จะพาไปหาคำตอบ
โดย BKV เป็นบริษัทย่อยที่ BANPU ถือหุ้น 96.3% ดำเนินธุรกิจหลัก ได้แก่ การผลิต Shale gas ในสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันมีกำลังผลิต 900 mmcfed โดยถือเป็นผู้ผลิต Shale gas อันดับต้นๆ ของสหรัฐฯ ซึ่งมีการผลิตในแหล่งปิโตรเลียม Marcellus และ Barnett โดยเป็นพื้นที่ผลิตก๊าซที่สำคัญของสหรัฐฯ รวมทั้งมีการต่อยอดการลงทุนในธุรกิจขั้นกลาง -ขั้นปลาย เช่น ท่อก๊าซและโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I (สัดส่วน 50%)
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า การ IPO จะทำให้ BKV สามารถจัดหาแหล่งเงินทุนด้วยตัวเอง รองรับการเติบโตในอนาคต และทำให้ Valuation ของ BANPU สะท้อนมูลค่า Valuation ของ BKV ได้ชัดเจนมากขึ้น โดย BKV จะใช้เงินทุนจากการ IPO เพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืม รองรับการชำระ Contingent Payment ตามเงื่อนไขการเข้าลงทุนแหล่งก๊าซธรรมชาติจาก Devon และ Exxon รวมทั้งจะใช้ลงทุนใน เทคโนโลยีดักจับคาร์บอน
ทั้งนี้หากอ้างอิงสมมติฐานราคาก๊าซธรรมชาติ 4.5-5.0เหรียญสหรัฐต่อMMBtu ในปี 2566 – 2567 คาด ธุรกิจก๊าซจะมี EBITDA 700-850 ล้านเหรียญฯ ต่อปี เพราะราคาก๊าซอยู่ระดับสูง แต่รับรู้ยอดขายจาก XTO Energy เพียง 1 ไตรมาส)และให้ตัวคูณ EV/EBITDA multiplier ที่ 4 เท่า BKV จะมีมูลค่ากิจการ (Enterprise value) ราว 2.8- 3.4 พันล้านเหรียญฯ
นอกจากนี้ ปัจจุบัน BKV มีปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติ ที่ 6.3 Tcfe มูลค่ากิจการ (EV) ดังกล่าวจะคิดเป็นอัตราส่วน EV/1P reverse ที่ 0.4-0.5 เท่า ถือว่าสมเหตุสมผล โดยคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 17 บาท ซึ่งคาดการณ IPO BKV จะทำให้ราคาหุ้น BANPU สะท้อนมูลค่าธุรกิจของ BKV ได้ดีขึ้น
ด้านนักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มองบวกกับแผนของ BANPU ที่จะนำ BKV เข้าตลาด ซึ่งบริษัทมีแผนจะนำ BANPU Next ซึ่ง BANPU ถือหุ้น 100% เข้าตลาดเป็นอันดับถัดไป ทั้งนี้ พอร์ตธุรกิจของ BANPU Next มีทั้งพลังงานหมุนเวียน (ในไทย จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และเวียดนาม), การจัดเก็บพลังงานและเทคโนโลยีด้านพลังงาน (การซื้อขาย, solar rooftop) คาดสัดส่วนหนี้สินต่อทุนจะลดลงเหลือ 0.4 เท่า ในปี 2566 จาก 0.9 เท่า ในไตรมาส 3/2565
นอกจากนี้มองบวกกับผลการดำเนินงานของ BANPU ในไตรมาส 4/65 และปี 66 จาก ASP แข็งแกร่ง, ขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงลดลง และสัดส่วนหนี้สินต่อทุนลดลงมาอยู่ที่ 0.9 เท่า ในไตรมาส 3/65 จาก 1.3 เท่า เมื่อสิ้นปี 64 ทั้งนี้ จากกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง และเม็ดเงินที่ได้จากการแปลง W5 จะทำให้สัดส่วนหนี้สินต่อทุนสุทธิของ BANPU ลดลงเหลือ 0.4x ภายในสิ้นปี 66 ซึ่ง BANPU มีแผนจะใช้กระแสเงินสดที่แข็งแกร่งเพื่อชำระหนี้ และทำดีล M&A ใหม่ ๆ ในธุรกิจ shale gas และ green energy
โฆษณา