e-Wallet ต่างจากบัญชีธนาคารอย่างไร
ตั้งแต่เช้าจรดเย็นคนไทยใช้ e-Wallet กันจนชิน แต่ไม่รู้ว่าเป็น e-Wallet เช่น True Money, BTS, MRT, Rabbit Line Pay เป็นต้น
ซึ่งเราเองก็คงคุ้นเคยกับการใช้ e-Wallet กันมาสักพักแล้ว และก็มีแนวโน้มว่าจะใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้นจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตไปแล้ว
เช่น การจ่ายค่าเดินทางโดยใช้บัตร MRT เพื่อขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือเมื่อเข้าร้านสะดวกซื้อก็ใช้จ่ายผ่าน True Money Wallet หรือ Rabbit Line Pay และอื่นๆ อีกมากมาย
แต่ถึงแม้เราจะเคยใช้จ่ายผ่านมือมาจนชินแล้ว แต่เชื่อว่ายังมีหลายคนที่อาจจะยังไม่เข้าใจว่าระหว่าง e-Wallet และบัญชีธนาคาร มีความต่างกันอย่างไร และหากเกิดปัญหาในการใช้จะต้องทำอย่างไร
e-Wallet หรือ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ กระเป๋าเงินออนไลน์ สามารถใช้งานโดยการเติมเงินจากบัญชีธนาคารเข้าแอพพลิเคชั่น ซึ่งไม่มีกำหนดขั้นต่ำ e-Wallet ยังมีชื่อเรียกอีกหลายอย่าง เช่น Mobile Wallet หรือ Digital Wallet
การใช้จ่ายด้วย e-Wallet นั้นเป็นการใช้จ่ายเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ สามารถใช้จ่ายเงินที่จุดชำระต่างๆ เช่น ร้านกาแฟ ซูเปอร์มาร์เก็ต รถไฟฟ้า และยังสามารถใช้จ่ายซื้อสินค้าออนไลน์ เติมเกมออนไลน์ หรือโอนเงินให้บัญชีอื่นก็ได้เช่นกัน โดยต้องเป็นร้านค้าที่มีการเชื่อมต่อระบบไว้
e-Wallet มีจุดแตกต่างจากบัญชีธนาคารที่เห็นชัด คือ ไม่มีดอกเบี้ยให้ผู้ใช้
ซึ่งโดยปกติแล้วคนจะเก็บเงินใน e-Wallet น้อยกว่าบัญชีเงินฝากธนาคาร คือมีไว้แค่พอใช้จ่ายเท่านั้น แบงก์ชาติจึงต้องควบคุม e-Wallet ให้มั่นคง ใช้จ่ายสะดวก และปลอดภัย
ในขณะที่เงินในบัญชีธนาคาร ทางธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องควบคุมไปถึงผู้ให้บริการ (สถาบันการเงิน non-bank) เพราะสถาบันการเงิน เอาเงินออมที่ได้จากประชาชนไปใช้ต่อเนื่อง เช่น นำไปลงทุน หรือนำไปก่อให้เกิดประโยขน์ในทางอื่น
ทั้งนี้ e-Wallet และบัญชีธนาคาร จะอยู่ภาพใต้พรบ.ระบบการชำระเงินเหมือนกัน ซึ่งรวมมาจากกฎหมาย 3 ฉบับ ได้แก่ กฎหมายธุรกิจสถาบันการเงิน พรบ.ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และ ประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 ของประกาศกระทรวงการคลัง
ถ้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์หายหรือมีปัญหาเราจะได้เงินคืนหรือไม่?
เนื่องจาก e-Wallet ข้อมูลจะไม่ได้อยู่ที่ตัวบัตรเพียงอย่างเดียว ถึงบัตรหายเรายังมีสิทธิได้เงินคืน แต่เราต้องลงทะเบียนกับ e-Wallet ที่ให้บริการเพื่อยืนยันตัวตนและแสดงความเป็นเจ้าของ
นอกจากนี้ e-Wallet ต้องมีมาตรฐานในการให้บริการลูกค้า เช่น มีช่องทางตอบคำถามลูกค้า มีช่องทางรับการร้องเรียน
ทั้งนี้หากเกิดปัญหาขึ้นนอกจากติดต่อคอลเซ็นเตอร์บริษัทผู้ให้บริการเหล่านั้น เรายังสามารถร้องเรียนผ่านแบงก์ชาติที่เป็นผู้กำกับดูแลได้ด้วย
Cr. finance-rumour
เรียบเรียงโดย : ลงทุนในบัญชีและภาษี
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยือนค่ะ 😊
ติดตามอ่านบทความอื่นๆ ได้ที่
- 15
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
